สไปรามัยซิน (Spiramycin)

สารบัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

บทนำ: คือยาอะไร?

สไปรามัยซิน (Spiramycin) คือ ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Macrolide ใช้บำบัดรักษาโรคติดเชื้อทอกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis)/อาการป่วยด้วยการติดเชื้อโปรโตซัว/โรคติดเชื้อสัตว์เซลล์เดียวที่มีชื่อว่า Protozoan toxoplasma gondii รวมถึงการติดเชื้อตามเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย

ยานี้ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1952 (พ.ศ. 2495) และมีการเตรียมสูตรตำรับเป็นยารับประ ทานชื่อการค้าที่รู้จักกันดีคือ “Rovamycine” โดยมีการกระจายยาในแถบยุโรปและแคนาดา ภายในปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) ได้มีการพัฒนาสูตรตำรับขึ้นมาเป็นยาฉีด กลไกการออกฤทธิ์จะเป็นการยับ ยั้งการสังเคราะห์โปรตีนที่ผนังเซลล์(เซลล์-เนื้อเยื่อ-อวัยวะ)ของแบคทีเรีย โดยยานี้จะรักษาครอบคลุมกลุ่มแบคทีเรียทั้งชนิดแกรมบวกและชนิดแกรมลบที่รวมถึงเชื้อ Legionellae, Mycoplasmas, Chlamydiae, Toxoplasma gondii, Cryptosporidium sp., Enterobacteria และ Pseudomonads

จากการศึกษาเรื่องการกระจายตัวของยาสไปรามัยซินในร่างกายมนุษย์พบว่า การดูดซึมจากระบบทางเดินอาหารมีเพียงระดับหนึ่งและไม่สมบูรณ์ ตัวยาที่เข้าสู่กระแสเลือดจะกระจายไปตามเนื้อ เยื่อส่วนต่างๆของร่างกาย โดยจะเข้าจับกับพลาสมาโปรตีนประมาณ 10 - 25% และสามารถซึมผ่านเข้าน้ำนมของมารดาได้ ตับจะคอยเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีของยาสไปรามัยซินอย่างต่อเนื่องและร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 5 - 8 ชั่วโมงในการกำจัดยา 50% ออกจากกระแสเลือดและผ่านทิ้งไปกับอุจจาระและปัสสาวะ

คณะกรรมการอาหารและยาของไทยได้ระบุให้ยาสไปรามัยซินอยู่ในหมวดยาอันตราย การใช้ยานี้ได้อย่างปลอดภัยจะต้องเป็นไปตามคำสั่งของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น

สไปรามัยซินมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?

สไปรามัยซิน

ยาสไปรามัยซินมีสรรพคุณรักษาโรค/ข้อบ่งใช้:       

  • รักษาการติดเชื้อบริเวณหู-คอ-จมูก, การติดเชื้อที่หลอดลม(หลอดลมอักเสบ), การติดเชื้อที่ผิวหนัง(ผิวหนังติดเชื้อ), การติดเชื้อในช่องปาก
  • รักษาอาการโรค ท็อกโซพลาสโมสิส (Toxoplasmosis) ในสตรี
  • ป้องกันการติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมอง (เยื่อหุ้มสมองอักเสบ)
  • รักษาโรคไข้รูมาติก
  • รักษาโรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะที่ไม่ได้มีสาเหตุจากเชื้อโกโนเรีย/หนองใน

สไปรามัยซินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

กลไกการออกฤทธิ์ของยาสไปรามัยซินคือ ตัวยาจะเข้ายับยั้งการสังเคราะห์โปรตีนของเชื้อโรคโดยจะเข้าจับหน่วยพันธุกรรมที่เรียกว่า ไรโบโซม (Ribosome, เซลล์-เนื้อเยื่อ-อวัยวะ) ทำให้เชื้อโรคดังกล่าวไม่สามารถแพร่พันธุ์และตายลงในที่สุด

สไปรามัยซินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ในประเทศไทยยาสไปรามัยซินมีรูปแบบการจัดจำหน่าย:  

  • ยาเม็ดชนิดรับประทาน ขนาด 1.5 และ 3 ล้านยูนิต/เม็ด
  • ยาน้ำชนิดรับประทาน ขนาด 0.375 ล้านยูนิต/5 มิลลิลิตร

สไปรามัยซินมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ยาสไปรามัยซินมีขนาดรับประทานสำหรับอาการโรค Toxoplasmosis และการติดเชื้อตามเนื้อเยื่อต่างๆที่ตอบสนองต่อยานี้ดังนี้ เช่น

  • ผู้ใหญ่: เช่น รับประทานยา 6 - 9 ล้านยูนิต/วันโดยแบ่งรับประทาน 2 - 3 ครั้ง กรณีติดเชื้อรุนแรง แพทย์อาจเพิ่มขนาดรับประทานเป็น 15 ล้านยูนิต/วัน
  • เด็ก และเด็กทารก: คำนวณการให้ยาเป็น 75,000 ยูนิต/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมวันละ 2 ครั้ง

อนึ่ง: สามารถรับประทานยานี้ก่อนหรือพร้อมอาหารก็ได้

*****หมายเหตุ:ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ      

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาสไปรามัยซิน ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิดเช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/ หอบเหนื่อย
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาสไปรามัยซินอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

 หากลืมรับประทานยาสไปรามัยซิน สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า

สไปรามัยซินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาสไปรามัยซินสามารถก่อให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)  เช่น

*อนึ่ง ผู้ที่ได้รับยานี้เกินขนาดจะมีอาการ คลื่นไส้อาเจียนมาก และท้องเสียมาก หากพบอาการ ดังกล่าว ให้รีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน

มีข้อควรระวังการใช้สไปรามัยซินอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาสไปรามัยซิน เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
  • ห้ามรับประทานยานี้พร้อมน้ำผลไม้ประเภท Grave fruit juice เพราะจะเกิดอันตรกิริยาระหว่างกันส่งผลให้เพิ่มผลข้างเคียงจากยาสไปรามัยซิน
  • ห้ามปรับขนาดรับประทานยานี้ด้วยตนเอง
  • ห้ามใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์
  • ระวังการใช้ยานี้กับสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
  • ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคตับ ขณะใช้ยานี้แพทย์จะคอยควบคุมการทำงานของตับให้เป็นปกติอยู่เสมอ
  • ระวังการใช้ยานี้กับผู้ที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • การใช้ยานี้เป็นเวลานานๆต้องระวังการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่นๆ หรือโรคเชื้อรา สอดแทรกเข้ามา
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาสไปรามัยซินด้วย) ยาแผนโบราณ   อาหารเสริม   ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.comบทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

สไปรามัยซินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาสไปรามัยซินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • การใช้ยาสไปรามัยซิน ร่วมกับ ยาเม็ดคุมกำเนิดอาจทำให้ฤทธิ์ของยาเม็ดคุมกำเนิดด้อยประสิทธิภาพลงไป ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
  • การใช้ยาสไปรามัยซิน ร่วมกับยา Astemizole, Cisapride และ Terfenadine/ยาแก้แพ้ อาจก่อให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หากไม่มีความจำเป็นใดๆควรเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
  • การใช้ยาสไปรามัยซิน ร่วมกับยา Carbidopa/ยาโรคพาร์กินสัน และ Levodopa จะทำให้การดูดซึมและระดับยาดังกล่าวในกระแสเลือดลดต่ำลง หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกันแพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นกรณีๆไป

การใช้ยาสไปรามัยซิน ร่วมกับยา Fluphenazine อาจเกิดความเสี่ยงของภาวะกล้ามเนื้อบิดเกร็ง (Dystonia) หากไม่มีความจำเป็นใดๆควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน

ควรเก็บรักษาสไปรามัยซินอย่างไร?

ควรเก็บยาสไปรามัยซิน:

  • เก็บยาภายใต้อุณหภูมิ 15 - 30 องศาเซลเซียส (Celsius)
  • ไม่เก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
  • ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
  • เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อน และความชื้น
  • เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

สไปรามัยซินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาสไปรามัยซิน  มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิตเช่น

ชื่อการค้า บริษัทผู้ผลิต
ROVAMYCINE (โรวามัยซิน) Sanofi Aventis
ROVAMYCIN-RTU (โรวามัยซิน-อาร์ทียู) AHPL
ROVAMYCIN FORTE (โรวามัยซิน ฟอร์ท) AHPL

 

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Spiramycin   [2021, Nov13]
  2. https://www.mims.com/Thailand/drug/info/Rovamycine/?type=brief  [2021, Nov13]
  3. https://www.mims.com/India/drug/info/spiramycin/?type=full&mtype=generic#Dosage  [2021, Nov13]
  4. http://www.uniprix.com/en/drug-lexicon/977/rovamycine#drug_section_precautions  [2021, Nov13]
  5. https://www.medicinenet.com/spiramycin-oral_capsule/article.htm   [2021, Nov13]
  6. https://www.mims.com/India/drug/info/ROVAMYCIN-RTU/ROVAMYCIN-RTU%20oral%20susp [2021, Nov13]
  7. https://www.mims.com/India/drug/info/ROVAMYCIN%20FORTE/ROVAMYCIN%20FORTE%20film-coated%20tab  [2021, Nov13]