logo

คำถามจาก วิกิยา

Home / FAQ ยา/ วิตามินซี

คำถามเกี่ยวกับยา

โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล

เรื่อง : วิตามินซี

วิตามินซี หรือ กรดแอสคอบิก (Ascorbic acid หรือ L-Ascorbic acid หรือ Ascorbate) มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ดี เป็นวิตามินที่พบได้ตามธรรมชาติ เช่น ในผัก ผลไม้ เช่น ส้ม ฝรั่ง สับปะรด พริก แตงโม บรอกโคลี่ กระหล่ำดอก มะ นาว กล้วย ผักโขม สตอเบอร์รี มะเขือเทศ มะละกอ เป็นต้น

•    ใช้ในกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจน (Collagen) และ แอลคาร์นิทีน (L-carnitine, สารที่ช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานได้อย่างปกติ)
•    เป็นส่วนร่วมในกระบวนการทำงานของสารสื่อประสาท (Neurotransmitters) ชนิดต่างๆ
•    เป็นส่วนประกอบในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective tissue) ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการสมานบาดแผล
•    เป็นส่วนร่วมของกระบวนการเปลี่ยนแปลงโปรตีนเพื่อการใช้งานในร่างกาย
•    เป็นสารต้านอนุมูลอิสระของร่างกายรวมถึงมีส่วนร่วมในการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่น เช่น วิตามินอี หรือ Tocopherol 
 

ปกติผู้ชายควรได้รับวิตามินซี 90 มิลลิกรัม/วัน ในขณะที่ผู้หญิงต้องการ 75 มิลลิกรัม/วัน แต่สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตรควรได้รับวิตามินซีสูงถึงประมาณ 120 มิลลิกรัม/วัน ซึ่งอาจมีความแตกต่างทางมาตรฐานการบริโภคของแต่ละประเทศที่ต่างกันเล็กน้อย ทั้งนี้ ปริมาณสูงสุดที่ร่างกายได้รับไม่ควรเกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน

•    เลือดออกตามไรฟัน (โรคลักปิดลักเปิด/โรคขาดวิตามินซี) 
•    เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย 
•    หลอดเลือดฝอยขาดความยืดหยุ่นไม่แข็งแรงหลอดเลือดจึงแตกได้ง่าย
•    ปวดตามข้อ เจ็บกระดูก
 

•    คลื่นไส้ อาเจียน
•    วิงเวียน
•    ท้องเสีย
•    ก่อให้ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไต เพราะเพิ่มปริมาณเกลือออกซาเลต (Oxalate) และกรดยูริค (Uric acid)
•    ร่างกายอาจมีธาตุเหล็กมากเกินควรซึ่งธาตุเหล็กจะไปสะสมตามอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะตับ ส่งผลให้อวัยวะเหล่านั้นเกิดการอักเสบได้ และการให้วิตามินซีทางหลอดเลือดดำอาจทำให้เกิดไตวายได้ 
•    การอมวิตามินซีชนิดเม็ดสำหรับรับประทานสามารถทำให้เคลือบฟันและฟันสึกกร่อนได้เพราะวิตามินซีมีฤทธิ์เป็นกรด
 

•    กรณีใช้ร่วมกับยา Dextroamphetamine อาจทำให้ฤทธิ์ในการรักษาของ Dextro amphetamine ด้อยประสิทธิภาพลงไป กรณีที่จำเป็นต้องใช้ยาร่วมกันแพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
•    กรณีใช้ร่วมกับยา  Deferoxamine (ยาขับธาตุเหล็ก) อาจก่อให้เกิดปัญหากับหัวใจและมีภาวะต้อกระจก กรณีที่ต้องใช้ยาร่วมกันควรเว้นระยะเวลาหลังการใช้ Deferoxamine ไปแล้วประมาณ 1 เดือน
•    กรณีใช้ร่วมกับยารักษาโรคมะเร็งเช่น Bortezomib อาจทำให้ประสิทธิภาพของ Bortezomib ด้อยลงไป หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน