เซฟาเลกซิน (Cefalexin or Cephalexin)

สารบัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ: คือยาอะไร?

เซฟาเลกซิน (Cefalexin or Cephalexin) คือ ยาในกลุ่ม เซฟาโลสปอริน (Cephalosporin) รุ่นที่ 1 (First generation) สามารถต่อต้านแบคทีเรียชนิดแกรมบวกและแบคทีเรียชนิดแกรมลบได้บางจำพวก โดยตัวยามีกลไกยับยั้งการสร้างผนังเซลล์(เซลล์-เนื้อเยื่อ-อวัยวะ)ของแบคทีเรีย แต่ไม่สามารถนำมารักษาโรคติดเชื้อไวรัสได้ ทางคลินิกใช้ยาเซฟาเลกซินในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ หูชั้นกลาง  ข้อ   ระบบผิวหนัง  ระบบทางเดินปัสสาวะ หรือนำมาใช้รักษาอาการ ปอดบวม  เจ็บคอ/ คออักเสบ หรือใช้ป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียในบริเวณเยื่อบุหัวใจ/ เยื่อบุหัวใจอักเสบ    

อนึ่ง ยาเซฟาเลกซินไม่สามารถต่อต้านกลุ่มแบคทีเรียที่ดื้อต่อยานี้ได้ ตัวอย่างของแบคทีเรียที่ดื้อยานี้ เช่น Methicillin-resistant staphylococcus aureus, Enterococcus หรือ Pseudomonas, อีกทั้งห้ามใช้กับผู้ป่วยที่แพ้ยากลุ่มเพนิซิลลิน (Penicillin) อีกด้วย

รูปแบบของยาแผนปัจจุบันของยาเซฟาเลกซินจะเป็นยาชนิดรับประทาน ยาเซฟาเลกซินมีการดูดซึมจากระบบทางเดินอาหารได้ดี แต่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานพร้อมอาหาร เมื่อตัวยาเข้าสู่กระแสเลือดจะเข้าจับกับพลาสมาโปรตีนได้ประมาณ 15% ตัวยานี้สามารถซึมผ่านรกและออกมากับน้ำนมของมารดาได้ แต่ยานี้จะไม่ซึมผ่านเข้าน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง ยาเซฟาเล็กซินจะไม่ถูกเปลี่ยนโครงสร้างใดๆจากตับ ร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการกำจัดตัวยาออกจากกระ แสเลือด 50% และผ่านทิ้งไปกับปัสสาวะโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมีแต่อย่างใด

คณะกรรมการอาหารและยาของไทยได้บรรจุยาเซฟาเลกซินลงในบัญชียาหลักแห่งชาติโดยระบุเงื่อนไขให้ใช้กับการติดเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกโดยเฉพาะเชื้อ S.aureus (Staphylococcus aureus), ในผู้ป่วยที่แพ้ Penicillin แบบไม่รุนแรง, รวมถึงการติดเชื้อในชุมชนจากแบคทีเรียแกรมลบบางชนิด เช่น เชื้อ E.coli (Escherichia coli) เป็นต้น

ยาเซฟาเลกซินจัดอยู่ในหมวดยาอันตราย การใช้ยานี้จึงควรอยู่ภายใต้คำสั่งของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น ผู้ป่วย/ผู้บริโภคไม่สมควรไปหาซื้อยานี้มารับประทานด้วยตนเอง

เซฟาเลกซินมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?

เซฟาเลกซิน

ยาเซฟาเลกซินมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้: เช่น

  • รักษาโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่มีสาเหตุจากแบคทีเรียชนิด Streptococcus pneumoniaeและชนิด Streptococcus pyogenes 
  • รักษาการติดเชื้อของหูชั้นกลางที่มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียชนิดStreptococcus pneumoniae, Haemophilus influenza, Staphylococcus aureus, Streptococcus pyogenes และ Moraxella catarrhalis
  • รักษาผิวหนังติดเชื้อที่มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียชนิด Staphylococcus aureusและ Streptococcus pyogenes
  • รักษาการติดเชื้อที่กระดูก(กระดูกอักเสบ)ที่มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียชนิด Staphylococcus aureusและ Proteus mirabilis
  • รักษาโรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะอันมีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli, Proteus mirabilisและ Klebsiella pneumoniae

เซฟาเลกซินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

กลไกการออกฤทธิ์ของยาเซฟาเล็กซินคือ ตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์สารที่มีชื่อว่า Peptidoglycan ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในผนังเซลล์ของแบคทีเรีย ทำให้แบคทีเรียหยุดการเจริญเติบโตไม่สามารถขยายพันธุ์ต่อได้และตายลงในที่สุด

เซฟาเลกซินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาเซฟาเลกซินมีรูปแบบการจัดจำหน่าย:

  • ยาน้ำชนิดรับประทาน/ยาผงละลายน้ำก่อนรับประทาน ขนาด 125 และ 250 มิลลิกรัม/5 มิลลิลิตร
  • ยาแคปซูลชนิดรับประทาน ขนาด 250 และ 500 มิลลิกรัม/แคปซูล
  • ยาเม็ดชนิดรับประทาน ขนาด 250 และ 500 มิลลิกรัม/เม็ด

เซฟาเลกซินมีขนาดรับประทานอย่างไร?

 ยาเซฟาเลกซินมีขนาดรับประทานได้หลากหลายขึ้นกับการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดใด, ของอวัยวะอะไร, และความรุนแรงของอาการ, ซึ่งจะต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา ในที่นี้ข้อยก ตัวอย่าง เช่น

ก. สำหรับรักษาอาการ เจ็บคอ_คออักเสบ คอหอยอักเสบ (Pharyngitis): เช่น

  • ผู้ใหญ่: รับประทานครั้งละ 250 มิลลิกรัมทุก 6 ชั่วโมง หรือ 500 มิลลิกรัมทุก 12 ชั่วโมง
  • เด็กอายุมากกว่า 1 ปี: รับประทานครั้งละ 12.5 - 25 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมทุก 12 ชั่วโมง
  • เด็กอายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 1 ปี: ขนาดใช้ยาขึ้นน้ำหนักตัวเด็กและดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป

ข. สำหรับรักษาผิวหนังติดเชื้อหรือเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกายติดเชื้อ: เช่น

  • ผู้ใหญ่: รับประทานครั้งละ 250 มิลลิกรัมทุก 6 ชั่วโมง หรือ 500 มิลลิกรัมทุก 12 ชั่วโมง
  • เด็ก (นิยามคำว่าเด็ก):รับประทานครั้งละ 12.5 - 25 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมทุก 12 ชั่วโมง

ค. สำหรับรักษาต่อมลูกหมากอักเสบติดเชื้อ: เช่น

  • ผู้ใหญ่: รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัมทุก 6 ชั่วโมงเป็นเวลา 14 วัน
  • เด็ก: การติดเชื้อต่อมลูกหมากเป็นโรคในผู้ใหญ่จึงยังไม่มีข้อมูลการใช้ยานี้ในเด็ก

 *อนึ่ง ยาเซฟาเลกซินสามารถทนกรดในกระเพาะอาหารได้ก็จริง แต่การรับประทานในช่วงท้องว่างจะทำให้การดูดซึมตัวยาดีกว่าการรับประทานยาพร้อมอาหาร

*****หมายเหตุ:  ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึงยาเซฟาเลกซิน ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิดเช่น กินยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาเซฟาเลกซินอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

 หากลืมรับประทานยาเซฟาเลกซินสามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า

 อย่างไรก็ตามเพื่อประสิทธิผลของการรักษาควรรับประทานยาเซฟาเลกซินให้ตรงเวลา

เซฟาเลกซินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

 ยาเซฟาเลกซินสามารถก่อให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)  เช่น

  • เกิดแผลในปาก
  • คันบริเวณอวัยวะเพศ
  • ท้องเสีย
  • คลื่นไส้อาเจียน
  • วิงเวียน
  • อ่อนเพลีย
  • ปวดท้อง
  • ปวดหัว

*** อนึ่ง กรณีที่มีอาการดังต่อไปนี้ ต้องรีบหยุดใช้ยานี้แล้วรีบพาผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน เช่น ผื่นคันเต็มตัว ใบหน้าบวม ปากบวม บวมตามข้อพับ มีไข้สูง  ตัวเหลือง-ตาเหลือง หรือมีอาการเลือดออกง่ายกว่าปกติ

มีข้อควรระวังการใช้เซฟาเลกซินอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาเซฟาเลกซิน เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้แพ้ยานี้ หรือแพ้ยากลุ่มเซฟาโลสปอริน (Cephalosporin)
  • ห้ามปรับขนาดรับประทานยานี้หรือหยุดการใช้ยานี้ด้วยตนเองโดยมิได้ปรึกษาแพทย์  
  • การใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และเด็ก จะต้องได้รับคำสั่งจากแพทย์เท่านั้น
  • ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคตับ โรคไต หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ด้วยตัวยานี้ อาจก่อให้เกิดความรุนแรงของโรคได้มากยิ่งขึ้น
  • กรณีพบอาการแพ้ยานี้ต้องหยุดใช้ยาทันทีแล้วรีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน
  • การรับประทานยาเซฟาเลกซินในรูปแบบของ  
  • ยาแคปซูล - ยาเม็ด ให้ดื่มน้ำตามอย่างพอเพียง                                                              
  • กรณียาน้ำแขวนตะกอน ให้เขย่าขวดเพื่อตัวยากระจายตัวได้ดีก่อนรับประทานทุกครั้ง
  • ยานี้อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะได้ กรณีมีอาการดังกล่าวควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยวด ยานพาหนะใดๆหรือการทำงานกับเครื่องจักรเพราะจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
  • กรณีที่เกิดอาการข้างเคียง (ผลข้างเคียง) ที่รบกวนการดำเนินชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยควรกลับ มาปรึกษาแพทย์/มาโรงพยาบาลเพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา
  • กรณีใช้ยานี้แล้วอาการป่วยไม่ทุเลาภายในเวลาประมาณ 3 - 4 วันหรือมีอาการหนักขึ้น ควรกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็ว
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง:  ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาเซฟาเลกซินด้วย) ยาแผนโบราณ   อาหารเสริม   ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร  ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

เซฟาเลกซินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาเซฟาเลกซินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • การใช้ยาเซฟาเลกซิน ร่วมกับยาเบาหวาน เช่นยา Metformin จะทำให้ฤทธิ์การรักษาของยา Metformin มีมากยิ่งขึ้นจนเป็นผลให้น้ำตาลในเลือดต่ำ กรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
  • การใช้ยาเซฟาเลกซิน ร่วมกับยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีส่วนประกอบของ Ethinyl estradiol อาจทำให้ฤทธิ์การคุมกำเนิดด้อยประสิทธิภาพลงไป กรณีที่ต้องใช้ยาร่วมกันควรใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นๆร่วมด้วย เช่น การใช้ถุงยางอนามัยชาย เป็นต้น
  • การใช้ยาเซฟาเลกซิน ร่วมกับยา Probenecid อาจทำให้ระดับยาเซฟาเลกซินในกระแสเลือดเพิ่มสูงขึ้นจนมีอาการข้างเคียงติดตามมาเช่น เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ไตทำงานผิดปกติ หากไม่มีความจำเป็นใดๆควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
  • การใช้ยาเซฟาเลกซิน ร่วมกับยาขับปัสสาวะ เช่นยา Furosemide อาจเกิดความเสี่ยงก่อให้ไตทำงานผิดปกติ โดยสังเกตจากมีอาการคลื่นไส้-อาเจียน เบื่ออาหาร ลดการขับปัสสาวะ น้ำหนักตัวเพิ่มหรือไม่ก็ลด มีอาการบวมน้ำ หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย  วิงเวียน ไปจนถึงหัวใจเต้นผิดจังหวะ หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกันและเพื่อหลีกเลี่ยงอาการข้างเคียงดังกล่าว แพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลไป

ควรเก็บรักษาเซฟาเลกซินอย่างไร?

ควรเก็บรักษายาเซฟาเลกซิน:

  • ยาเม็ด,  ยาแคปซูล,  ยาผงก่อนผสมน้ำ: สามารถเก็บในอุณหภูมิห้องที่เย็น
  • ยาน้ำชนิดรับประทานหรือยาผงที่ผสมน้ำแล้ว: เก็บยาในอุณหภูมิ 2 - 8 องศาเซลเซียส(Celsius)
  • ยาทุกรูปแบบ:
    • ต้องไม่เก็บในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
    • ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
    • เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อน และความชื้น
    • เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

เซฟาเลกซินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาเซฟาเลกซิน  มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น

ชื่อการค้า บริษัทผู้ผลิต
Celex (เซเล็กซ์) Millimed
Cephalexyl (เซฟาเลซิล) Bangkok Lab & Cosmetic
Cephin (เซฟิน) General Drugs House
Farmalex (ฟาร์มาเล็กซ์) Farmaline
Faslex (ฟาสเล็กซ์) Pharmahof
Felexin (เฟเลซิน) Remedica
Keflex (เคเฟล็กซ์) DKSH
Mycef (มายเซฟ) Unique
Sialexin (ซิเอเลซิน) Siam Bheasach
Sporicef (สปอริเซฟ) Ranbaxy
Sporidin (สปอริดิน) Ranbaxy
Suphalex (ซูฟาเล็กซ์) Suphong Bhaesaj
Teplexin (เทเพล็กซิน) T P Drug
Toflex (โทเฟล็กซ์) T.O. Chemicals
Ulflex (อัลเฟล็กซ์) Utopian
Zeplex (เซเพล็กซ์) M & H Manufacturing

 

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Cephalosporin   [2022,March12]
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Cefalexin   [2022,March12]
  3. https://www.drugs.com/pro/cephalexin.html  [2022,March12]
  4. https://www.drugs.com/pro/cephalexin.html  [2022,March12]
  5. http://ndi.fda.moph.go.th/drug_detail/index/?ndrug=2&rctype=1A&rcno=3800486&lpvncd=&lcntpcd=&lcnno=&licensee_no=  [2022,March12]
  6. https://www.mims.com/thailand/drug/info/keflex/dosage?selectedTab=overdosage  [2022,March12]
  7. http://ndi.fda.moph.go.th/uploads/evidance_file/20170503184421.pdf  [2022,March12]
  8. https://www.drugs.com/drug-interactions/cephalexin-index.html?filter=2&generic_only=#M   [2022,March12]
  9.