ชักกระตุก (Clonic seizure)
- โดย ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า
- 16 มกราคม 2565
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ
- ชักกระตุกคืออะไร? มีอาการอย่างไร?
- ชักกระตุกมีสาเหตุจากอะไร?
- แพทย์วินิจฉัยชักกระตุกได้อย่างไร?
- ชักกระตุกพบบ่อยหรือไม่?
- ควรพบแพทย์เมื่อใด?
- อาการผิดปกติสาเหตุอื่นที่คล้ายลมชักกระตุกมีอะไรบ้าง?
- ชักกระตุกอันตรายหรือไม่?
- การรักษาชักกระตุกมีวิธีใดบ้าง?
- ผู้ป่วยควรระวังการทำกิจกรรมใดบ้าง?
- ลมชักกระตุกมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
- ดูแลตนเองอย่างไร?
- ควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อใด?
- ป้องกันลมชักกระตุกได้อย่างไร?
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ลมชัก (Epilepsy)
- ชักสะดุ้ง (Myoclonic seizure)
- ชักเกร็งกระตุก (Generalised tonic-clonic seizures)
- ชักเฉพาะที่แบบมีสติ (Simple partial seizure)
- ลมชักชนิดเหม่อ
- อุบัติเหตุที่เกิดจากโรคลมชัก (Accidents and Epilepsy)
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง การตรวจอีอีจี (Electroencephalography; EEG)
- ชักตัวอ่อน (Atonic seizure)
- ชักเกร็ง (Tonic seizure)
- อาหารคีโตเจนิค (Ketogenic diet)
บทนำ
อาการชัก/โรคลมชักแบบทั้งตัวอีกชนิดหนึ่งที่พบไม่บ่อยคือ การชักกระตุก (Clonic seizure) การชักแบบนี้พบได้ไม่บ่อย แต่ก็ควรรู้จักไว้ครับว่า ชักกระตุกเป็นอย่างไร บางกรณี การชักแบบกระตุกนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการชักเกร็งกระตุกทั้งตัวหรือลมบ้าหมูที่พบบ่อยกว่า ลองอ่านบทความนี้ครับเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น
ชักกระตุกคืออะไร? มีอาการอย่างไร?
การชัก/ลมชักแบบกระตุกคือ การชักชนิดทั้งตัวแบบหนึ่ง ผู้ป่วยจะมีอาการกระตุกของ แขน ขา แต่เป็นระยะเวลาสั้นๆประมาณ 30 วินาที และเมื่อหยุดชักก็หายเป็นปกติ ไม่มีอาการมึนงงหรือปวดศีรษะ
ชักกระตุกมีสาเหตุจากอะไร?
ชัก/ลมชักกระตุกเป็นโรคพบน้อย จึงยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุ แต่อาจพบเกิดจากรอยโรคในสมองจากสาเหตุต่างๆได้ เช่น เนื้องอกสมอง/มะเร็งสมอง
แพทย์วินิจฉัยชักกระตุกได้อย่างไร?
แพทย์วินิจฉัยลมชักกระตุกได้จาก
- ประวัติอาการผิดปกติที่ผู้ป่วยมี
- การตรวจร่างกาย
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง
- การตรวจสมองทางรังสีวินิจฉัย/รังสีวิทยา เช่น เอกซเรย์คอมพิวเตอร์/ซีทีสแกน และ/หรือเอมอาร์ไอ เพื่อหาสาเหตุความผิดปกติในสมอง
ชักกระตุกพบบ่อยหรือไม่?
อาการ/ลมชักกระตุกนั้นพบได้ไม่บ่อย แต่พบในทุกวัยทั้งในเด็กทารก, เด็ก (นิยามคำว่าเด็ก), ผู้ใหญ่
ควรพบแพทย์เมื่อใด?
ผู้มีอาการหรือสงสัยมีอาการดังกล่าวใน ‘หัวข้อ อาการฯ’ ควรรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล
ในเด็ก ถ้าผู้ปกครองสงสัยว่าเด็กทารกจะมีการชักกระตุก ควรรีบพาไปพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล เพราะการชักแบบนี้จะวินิจฉัยยากในทารก ถ้าปล่อยไว้ให้ผิดปกตินานโดยไม่ได้รักษา อาจส่งผลต่อการพัฒนาการของทารกได้ จึงควรรีบพบแพทย์ให้เร็ว รวมทั้งในผู้ใหญ่ด้วยเช่นกัน
อาการผิดปกติสาเหตุอื่นที่คล้ายลมชักกระตุกมีอะไรบ้าง?
อาการที่อาจคล้ายลมชักกระตุกคือ อาการกระตุกทั่วๆไปที่มักเกิดจากกล้ามเนื้อกระตุกที่ไม่ได้เป็นการชัก แพทย์แยกได้โดยการกระตุกทั่วไปจะเป็นเฉพาะในท่าทางใดท่าทางหนึ่งเท่า นั้น แต่ลมชักกระตุกเป็นในทุกท่าทาง
ชักกระตุกอันตรายหรือไม่?
การชัก/ลมชักกระตุกไม่เป็นอันตรายเพราะเกิดอาการช่วงเวลาสั้นๆ ผู้ป่วยไม่เสียการทรงตัว ไม่ล้ม
การรักษาชักกระตุกมีวิธีใดบ้าง?
การรักษาลมชักกระตุก ได้แก่
- การทานยากันชัก
- การผ่าตัดสมอง: ถ้าพบรอยโรคที่ต้องผ่าตัด เช่น เนื้องอกสมอง/มะเร็งสมอง, หรือใช้ในกรณีผู้ป่วยไม่ ตอบสนองต่อการทานยากันชักฯ
- นอกจากนี้คือ การทานอาหารคีโตเจนิค(Ketogenic diet): อาหารสำหรับเด็กโรคลมชัก ที่ช่วยลดสารอาหารจากคาร์โบไฮเดรตที่จะกระตุ้นให้เกิดอาการชัก ได้แก่ อาหารประเภทไขมันสูง โปรตีนปริมาณที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของเด็ก แต่คาร์โบไฮเดรตต่ำ
ผู้ป่วยควรระวังการทำกิจกรรมใดบ้าง?
เนื่องจากอาการจากลมชักกระตุกที่เกิดขึ้นมีอาการขึ้นมาทันที เป็นช่วงสั้นๆ แต่ไม่ล้มจึงไม่เกิดอันตราย สามารถทำกิจกรรมต่างๆได้เหมือนปกติ
ลมชักกระตุกมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
การพยากรณ์โรค/ ความรุนแรงโรคในลมชักกระตุกจะแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นกับอายุเมื่อเกิดโรค, สา เหตุ, ตำแหน่งของรอยโรคในสมอง, การตอบสนองต่อยากันชัก, และการปฏิบัติตามแพทย์พยาบาลแนะนำในการใช้ชีวิตประจำวัน, ซึ่งบางรายโรคอาจหายได้ แต่บางรายอาจต้องกินยากันชักฯตลอดไป
ดูแลตนเองอย่างไร?
เมื่อเป็นโรคลมชักกระตุกควรดูแลตนเอง ดังนี้เช่น
- ปฏิบัติตาม แพทย์ พยาบาล แนะนำ อย่างเคร่งครัด
- กินยากันชักที่แพทย์สั่งให้ครบถ้วนถูกต้อง ไม่ขาดยา ไม่หยุดยาเอง
- กินอาหารตาม แพทย์ พยาบาล โภชนากร แนะนำ
- ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีผลต่อการทำงานของสมอง
- พบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดเสมอ
ควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อใด?
ผู้ป่วยลมชักกระตุกควรพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลก่อนนัดเมื่อ
- มีอาการชักบ่อย รุนแรงกว่าเดิม
- เปลี่ยนรูปแบบการชัก เช่น มีการชักเกร็ง ร่วมด้วย
- ประสบอุบัติเหตุจากการชัก
- สงสัยแพ้ยาจากยากันชัก เช่น ขึ้นผื่น ปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย หลังทานยากันชัก
- เมื่อกังวลในอาการ
ป้องกันลมชักกระตุกได้อย่างไร?
เมื่อดูจากสาเหตุ (ในหัวข้อ สาเหตุ) ปัจจุบันยังไม่มีวิธีป้องกันลมชักกระตุก แต่โรคนี้พบในเด็ก(นิยามคำว่าเด็ก)ได้ตั้งแต่เป็นทารก ดังนั้นผู้ปกครองควรสังเกตบุตรหลาน เมื่อพบอาการคล้ายชักกระตุกหรือสงสัย ควรรีบนำเด็กพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล เพราะการรักษาแต่เนิ่นๆจะช่วยลดโอกาสเกิดเสียหายต่อพัฒนาการสมองของเด็ก