อะลิสคิเรน (Aliskiren)

สารบัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ: คือยาอะไร?

อะลิสคิเรน (Aliskiren) คือ ยาบำบัดรักษาโรคความดันโลหิตสูง ที่อยู่ในกลุ่มยา เรนินอินฮิบิเตอร์(Renin inhibitor) สามารถใช้เป็นทั้งยาเดี่ยวหรือจะใช้ร่วมกับยาอื่นในการบำบัดอาการของโรคก็ได้ กลไกหลักๆของยานี้จะทำให้ผนังหลอดเลือดเกิดการขยายตัวส่งผลให้เลือดไหล เวียนได้สะดวกขึ้น และหัวใจใช้แรงบีบตัวในการสูบฉีดเลือดน้อยลง ความดันโลหิตจึงลดลงได้

รูปแบบยาแผนปัจจุบันของยานี้จะเป็นยาชนิดรับประทาน ซึ่งมีการดูดซึมจากระบบทาง เดินอาหาร และกระจายตัวในร่างกายได้ต่ำเพียงประมาณ 2.5% เท่านั้น ตับจะคอยทำลายหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของยานี้อย่างต่อเนื่อง ร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมงเป็นอย่าง ต่ำเพื่อกำจัดยา 50% ออกจากกระแสเลือดโดยผ่านทิ้งไปกับปัสสาวะ

มีข้อห้ามใช้ยานี้บางประการที่แพทย์มักจะนำมาประกอบการพิจารณาก่อนการสั่งจ่ายยา อะลิสคิเรน เช่น

  • ผู้ป่วยเคยแพ้ยาอะลิสคิเรน หรือเคยมีอาการมือ-หน้า-ปาก-ขอบตา-คอ-ลิ้นบวมหลังการใช้ยาอะลิสคิเรนไหม
  • เป็นสตรีที่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือไม่
  • เป็นผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานหรือโรคไตหรือไม่
  • ผู้ป่วยมีการใช้ยาบางตัวอยู่ก่อนหน้านี้หรือไม่ เช่นยา Losartan, Lisinopril , Cyclosporine หรือ Itraconazole

กรณีที่ผู้ป่วยได้รับยานี้แล้ว แพทย์จะชี้แจงข้อมูลบางประการให้ผู้ป่วยรับทราบเพื่อความเข้าใจและสามารถปฏิบัติตัวได้อย่างเหมาะสมขณะใช้ยานี้ เช่น

  • อาจพบอาการ วิงเวียน ง่วงนอน หรือเป็นลมติดตามมา ดังนั้นระหว่างใช้ยานี้ควรหลีก เลี่ยงการขับขี่ยวดยานพาหนะใดๆหรือทำงานกับเครื่องจักรเพราะจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
  • กรณีที่มีอาการ ท้องเสีย อาเจียน หรือเกิดอาการเหงื่อออกเป็นปริมาณมาก ผู้ป่วยควรต้องชดเชยด้วยการดื่มน้ำเพื่อป้องกันร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ รวมถึงอาจเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำติดตามมา
  • ระหว่างที่เริ่มต้นใช้ยานี้อาการความดันโลหิตสูงจะค่อยๆพัฒนาดีขึ้นอาจใช้เวลาถึง 2 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ
  • ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงๆร่วมกับยาอะลิสคิเรนด้วยจะทำให้การดูดซึมของยานี้เข้าสู่ร่างกายลดลงไปได้มาก
  • หากอาการไม่ดีขึ้นหลังรับประทานยานี้ ผู้ป่วยควรรีบกลับมาปรึกษาแพทย์/มาโรงพยาบาล เพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา ควรหมั่นตรวจสอบความดันโลหิตของตนเองขณะที่ใช้ยาชนิดนี้
  • สำหรับผู้สูงอายุที่ใช้ยานี้อาจพบอาการท้องเสียได้มากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ

อนึ่ง: สำหรับประเทศไทย ยาอะลิสคิเรนถูกจัดอยู่ในประเภทยาอันตราย การใช้ยานี้ต้อง เป็นไปตามคำสั่งของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น ห้ามผู้ป่วย/ผู้บริโภคซื้อหายามารับประทานด้วยตน เองโดยเด็ดขาด

อะลิสคิเรนมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?

อะลิสคิเรน-01

ยาอะลิสคิเรนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้: เช่น

  • รักษาโรคความดันโลหิตสูง/ยาลดความดัน

อะลิสคิเรนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

กลไกการออกฤทธิ์ของยาอะลิสคิเรน คือ ตัวยาจะเข้าจับกับเอนไซม์ที่มีชื่อว่า เรนิน (Renin, เอนไซม์เกี่ยวข้องกับการทำงานของสาร Angiotensinogen) ซึ่งพบในกระแสเลือด เอนไซม์เรนินมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนสาร Angiotensinogen (สารเกี่ยวข้องกับการควบคุมความดันโลหิต)ไปเป็นสาร Angiotensin I (สารตั้งต้นของ Angiotensin II) มีผลต่อเนื่องให้ร่างกายเกิดการขาดสาร Angiotensin II ติดตามมาส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวจึงทำให้ความดันโลหิตกลับมาเป็นปกติ

อะลิสคิเรนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาอะลิสคิเรนมีรูปแบบการจัดจำหน่าย:

  • เป็นยาเม็ดชนิดรับประทาน ขนาด 150 และ 300 มิลลิกรัม/เม็ด

อะลิสคิเรนมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ยาอะลิสคิเรนมีขนาดรับประทาน เช่น

  • ผู้ใหญ่: รับประทาน 150 มิลลิกรัมวันละ1ครั้ง หากอาการความดันโลหิตสูงยังลดลงได้ไม่ดีพอแพทย์อาจปรับขนาดรับประทานเป็น 300 มิลลิกรัมวันละ 1 ครั้ง
  • เด็ก (นิยามคำว่าเด็ก) และผู้อายุต่ำกว่า 18 ปี: ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดถึงผลข้างเคียงของยานี้ในผู้ป่วยกลุ่มนี้ การใช้ยานี้ในผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป

*อนึ่ง:

  • ไม่จำเป็นต้องปรับขนาดรับประทานในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคตับ หรือโรคไต
  • ขนาดรับประทานที่ 300 มิลลิกรัม/วันอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้
  • ขนาดรับประทานที่มากกว่า 300 มิลลิกรัม/วันไม่ทำให้การตอบสนองของความดันโลหิตลดลงไปมากกว่านี้
  • สามารถรับประทานยานี้ก่อนหรือพร้อมอาหารก็ได้

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาอะลิสคิเรน ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย
  • มีโรคประจำตัวต่างๆรวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาอะลิสคิเรนอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

หากลืมรับประทานยาอะลิสคิเรน สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการ รับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดรับประทานเป็น 2 เท่า

อะลิสคิเรนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาอะลิสคิเรนสามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) เช่น

  • ปวดตามร่างกาย
  • หนาวสั่น
  • ไอ, จาม
  • ท้องเสีย
  • อึดอัด/หายใจลำบาก
  • ปวดหัว
  • เสียงแหบ
  • คัดจมูก
  • เจ็บคอ/ คออักเสบ
  • อ่อนเพลีย
  • ปวดข้อ

มีข้อควรระวังการใช้อะลิสคิเรนอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาอะลิสคิเรน เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
  • ห้ามใช้ยาอะลิสคิเรนรวมกับยากลุ่ม ACE inhibitors, หรือกลุ่มยา Angiotensin II receptor antagonists, ในผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 2
  • ห้ามปรับขนาดรับประทานยานี้ด้วยตนเอง
  • ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร โดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์ผู้รักษา
  • หากพบอาการบวมตามร่างกายหลังใช้ยานี้ให้หยุดการใช้ยานี้ แล้วรีบกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็ว
  • หมั่นตรวจสอบความดันโลหิตของตนเองขณะที่ใช้ยานี้
  • มาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามที่แพทย์นัดทุกครั้ง
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาอะลิสคิเรนด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวม ทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองด้วยเช่นกัน

อะลิสคิเรนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาอะลิสคิเรนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • ห้ามใช้ยาอะลิสคิเรน ร่วมกับยากลุ่ม ACE inhibitor และ AngiotensinII receptor antagonists และในผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 ด้วยจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความเสียหายกับไตรวมถึงเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำติดตามมา
  • การใช้ยาอะลิสคิเรน ร่วมกับยา HCTZ สามารถเพิ่มอาการวิงเวียนให้กับผู้ป่วยได้มากขึ้น หากไม่มีความจำเป็นใดๆควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
  • การใช้ยาอะลิสคิเรน ร่วมกับยา Ibuprofen อาจทำให้ฤทธิ์ในการรักษาของยาอะลิสคิเรน ลดน้อยลง นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของไตผู้ป่วยอีกด้วย หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลไป
  • การใช้ยาอะลิสคิเรน ร่วมกับยา Hydrocortisone อาจทำให้ประสิทธิภาพในการลดความดันโลหิตของยาอะลิสคิเรนลดลง หากใช้ยาร่วมกันเกิน 1 สัปดาห์อาจเป็นเหตุให้มีภาวะคั่งของน้ำและเกลือโซเดียมในร่างกายจนทำให้เกิดอาการบวมน้ำและน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นกรณีๆไป

ควรเก็บรักษาอะลิสคิเรนอย่างไร?

ควรเก็บยาอะลิสคิเรน: เช่น

  • เก็บยาในช่วงอุณหภูมิ 15 - 30 องศาเซลเซียส (Celsius)
  • ไม่เก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
  • ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
  • เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อน และความชื้น
  • เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

อะลิสคิเรนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาอะลิสคิเรน มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น

ชื่อการค้า บริษัทผู้ผลิต
Rasilez (ราไซเลซ) Novartis
Tekturna (เทคเทอร์นา) Novartis

 

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Renin_inhibitor [2022,July30]
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Renin%E2%80%93angiotensin_system#/media/File:Renin-angiotensin-aldosterone_system.png [2022,July30]
  3. https://en.wikipedia.org/wiki/Aliskiren [2022,July30]
  4. https://www.drugs.com/mtm/aliskiren.html [2022,July30]
  5. https://www.drugs.com/monograph/aliskiren.html [2022,July30]
  6. https://www.mims.com/thailand/drug/info/aliskiren%20fumarate?mtype=generic [2022,July30]
  7. https://www.mims.com/Thailand/drug/info/Rasilez/?type=brief [2022,July30]
  8. https://www.drugs.com/drug-interactions/aliskiren-index.html?filter=2#W [2022,July30]