กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา (Tardive dyskinesia)
- โดย ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า
- 11 กุมภาพันธ์ 2566
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ/เรื่องนำ
- กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาคืออะไร?
- กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยามีอาการอย่างไร?
- กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาพบบ่อยหรือไม่?
- ใครมีปัจจัยเสี่ยงเกิดกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา?
- กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยานี้เกิดจากอะไร?
- เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?
- แพทย์ให้การวินิจฉัยกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาได้อย่างไร?
- จำเป็นต้องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองหรือตรวจเลือดหรือไม่?
- โรคอะไรที่มีลักษณะคล้ายกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา?
- รักษากลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาอย่างไร?
- กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยามีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
- ต้องรักษานานเท่าไร?
- ครอบครัวมีส่วนร่วมในการรักษาได้อย่างไร?
- ผู้ป่วยควรดูแลตนเองอย่างไร?
- ผู้ป่วยควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อใด?
- ป้องกันกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาได้อย่างไร?
- สรุป
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- โดพามีน แอนตาโกนิสต์ (Dopamine antagonists)
- ยารักษาทางจิตเวช ยาจิตเวช (Psychotropics drugs)
- โดพามีน (Dopamine)
- เบนโซไดอะซีปีน (Benzodiazepine)
- แอนตี้มัสคารินิก (Antimuscarinic drugs)
- วิธีตรวจวินิจฉัยโรคระบบประสาท ตอน1 การตรวจร่างกาย Neurological Examination
- อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (Adverse Drug Reaction)
บทนำ/เรื่องนำ
หลายคนคงเคยเห็นผู้ป่วยบางคนมีการเคลื่อนไหวผิดปกติ เช่น แลบลิ้น เคี้ยวปาก ขยับแขนขาไปมาโดยไม่สามารถควบคุมได้ แต่เวลาหลับอาการเหล่านี้ก็หายไป, อาการเหล่านี้คืออะไร, เกิดจากอะไร, จะรักษาอย่างไร, หายหรือไม่ ,ลองติดตามจากบทความเรื่อง “กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา (Tardive dyskinesia/ทาร์ดีฟ ดีสคิเนเชีย ย่อว่า กลุ่มอาการ หรือ โรคทีดี/ TD)”
อนึ่ง: ‘ยึกยือ’ ความหมายจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 คือ หยิกไปหยิกมา ไม่ตรง ไม่เป็นระเบียบ
กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาคืออะไร?
กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา คือ กลุ่มอาการที่พบในผู้ป่วยที่รักษาโดยใช้ยาจิตเวชที่ออกฤทธิ์ต้านสารโดพามีน/โดปามีน/Dopamine (เช่น ยา Haloperidol, Pimozide)เป็นระยะเวลานาน โดยผู้ป่วยจะมีอาการเคลื่อนไหวผิดปกติของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของร่างกายที่ร่างกาย/สมองไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติเหล่านั้นได้
กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยามีอาการอย่างไร?
อาการเคลื่อนไหวผิดปกติใน 'กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา' ประกอบด้วย 2 อาการหลัก คือ
ก. อาการเคลื่อนไหวผิดปกติบริเวณปาก-ใบหน้า-คอ: เช่น อาการเคี้ยวปาก แลบลิ้น กระพริบตา ขยับกล้ามเนื้อใบหน้า คอบิดไปมา
ข. อาการเคลื่อนไหวผิดปกติบริเวณแขน-ขา: เช่น การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว อยู่ไม่สุข บิดมือ-แขน-ขา สะบัดแขน-ขา
กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาพบบ่อยหรือไม่?
กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาพบได้บ่อยประมาณ 15 - 30%ในผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านสารโดปามีนเป็นระยะเวลานาน โดยมีรายงานพบได้ตั้งแต่ได้รับยากลุ่มนี้นานประมาณ 1 ปีถึง 1 ปีขึ้นไป ซึ่งยิ่งใช้ยานานขึ้น โอกาสเกิดกลุ่มอาการนี้ก็ยิ่งสูงขึ้น นอกจากนั้นพบอาการนี้สูงขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉพาะในผู้สูงอายุเพศหญิงที่พบบ่อยกว่าผู้สูงอายุเพศชาย
ใครมีปัจจัยเสี่ยงเกิดกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา?
ผู้มีปัจจัยเสี่ยงเกิดกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา ได้แก่ ผู้ป่วยที่ใช้ยารักษาโรคทางจิตเวช ที่ออกฤทธิ์ต้านสารโดปามีน ซึ่งอาการมักเกิดกับผู้ป่วยที่มีลักษณะทั่วไปดังนี้ เช่น
- เป็นผู้ป่วยเพศชาย
- สูบบุหรี่
- ใช้ยาต้านสารโดปามีนขนาดสูงและ/หรือต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ
กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยานี้เกิดจากอะไร?
กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาเกิดจากผลข้างเคียงของยา (อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา)กลุ่มต้านสารโดปามีน ที่ส่งผลให้สารโดปามีนในสมองลดลง ซึ่งสารโดปามีนนั้นเป็นสารสื่อประสาท มีหน้าที่ด้านควบคุมการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกาย, ดังนั้นเมื่อสารโดปามีนลดลงจึงส่งผลถึงการควบคุมการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกายของสมอง จึงส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของส่วนต่างๆของร่างกาย
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?
ผู้ที่มีอาการดังกล่าวใน 'หัวข้อ อาการฯ' ควรรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลเสมอเมื่อเริ่มมีอาการผิดปกติตั้งแต่ที่เริ่มมีอาการ เพื่อที่แพทย์จะได้ให้การวินิจฉัยว่าอาการผิดปกติดังกล่าวนั้นมีสาเหตุจากอะไร, ใช่กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาหรือไม่, และจะได้พิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องปรับยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยอยู่หรือไม่
แพทย์ให้การวินิจฉัยกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาได้อย่างไร?
ทั่วไป แพทย์วินิจฉัยกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาได้โดย
- พิจารณาข้อมูลจากประวัติการเจ็บป่วย โรคประจำตัว ยาต่างๆที่ผู้ป่วยใช้ ร่วมกับการมีอาการเคลื่อนไหวผิดปกติดังกล่าวข้างต้น และร่วมกับ
- การตรวจร่างกาย และ การตรวจร่างกายทางระบบประสาท เป็นหลัก
จำเป็นต้องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองหรือตรวจเลือดหรือไม่?
กรณีแพทย์มีข้อมูลการเจ็บป่วย เช่น โรคประจำตัว, ประวัติการใช้ยาต้านโดปามีน, ลักษณะการเคลื่อนไหวผิดปกติที่เป็นลักษณะจำเพาะ, ก็สามารถให้การวินิจฉัยกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องส่งตรวจเพื่อการสืบค้นเพิ่มเติมด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์/ซีทีสแกนสมอง หรือ ด้วยการตรวจเลือด
โรคอะไรที่มีลักษณะคล้ายกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา?
โรคที่มีลักษณะคล้ายกับกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา เช่น โรคพาร์กินสัน, ภาวะการเคลื่อนไหวผิดปกติเหตุจากจิตใจ (Psychogenic causes), โรค Wilson (โรคที่มีการเผาผลาญสารทองแดงผิดปกติส่งผลให้สารทองแดงสะสมในเนื้อสมอง), ซึ่งแพทย์จะพิจารณาการวินิจฉัยแยกโรคได้จากข้อมูลประวัติการเจ็บป่วยของผู้ป่วย, สาเหตุของความผิดปกติอื่นๆที่พบร่วมด้วย, การตรวจร่างกาย, การตรวจร่างกายทางประสาทวิทยา, และที่สำคัญคือประวัติการใช้ยาต้านสารโดปามีน (เช่น กลุ่มยา โดพามีน-แอนตาโกนิสต์) ที่ต้องพบทุกรายในกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา
รักษากลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาอย่างไร?
การรักษากลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาที่สำคัญ คือ หยุดยาต้านสารโดปามีนเป็นอันดับแรก และให้ยาแก้ ได้แก่ ยากลุ่มแอนตี้มัสคารินิก (ยากลุ่มต้านโคลิเนอจิก (Anticholinergic agents), ยากลุ่มเบ็นโซไดอะซีบีน (Benzodiazepines) เป็นต้น
แต่ในบางกรณีที่อาการไม่มาก และผู้ป่วยก็มีความจำเป็นที่ต้องใช้ยาต้านสารโดปามีนจึงไม่สามารถหยุดยานี้ได้ แพทย์อาจต้องปรับขนาดยาต้านสารโดปามีนให้เหมาะสม, ร่วมกับให้ยาในกลุ่มต้านโคลิเนอจิกร่วมด้วย, หรือปรับเพิ่มยารักษาโรคที่เป็นกลุ่มยาใหม่ๆที่มีผลข้างเคียงที่ก่อให้เกิดกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาต่ำกว่ายาเดิมที่ใช้อยู่
กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยามีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยามีการพยากรณ์โรคที่ดี ผลการรักษาส่วนใหญ่ได้ผลดี แต่อาจไม่หายเป็นปกติในผู้ป่วยบางรายที่ได้รับยามาเป็นเวลานานมาก, และ/หรือยังมีอาการทางจิตที่ต้องใช้ยากลุ่มต้านสารโดปามีน (Dopamine) รักษาอยู่โดยหยุดยานี้ไม่ได้
ต้องรักษานานเท่าไร?
ระยะเวลาการรักษากลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาขึ้นกับการตอบสนองและความจำเป็น ต้องใช้ยารักษาโรคทางจิตกลุ่มต้านสารโดปามีน (Dopamine) ต่ออีกหรือไม่, ส่วนใหญ่แล้วถ้าหยุดยา อาการก็มักดีขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องรักษาเป็นระยะเวลานาน, กรณีที่ยังมีอาการหายได้ไม่ดี ก็จำเป็นต้องให้การรักษาต่ออีก
ครอบครัวมีส่วนร่วมในการรักษาได้อย่างไร?
ครอบครัวมีความสำคัญอย่างยิ่งในการมีส่วนร่วมในการรักษากลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา ซึ่งการดูแลผู้ป่วยจากครอบครัว ที่สำคัญ เช่น
- ดูแลการทานยาที่แพทย์สั่งให้สม่ำเสมอ
- สร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันให้กับผู้ป่วย
- ให้การประคับประคองด้านจิตใจซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ
- ดูแลให้ผู้ป่วยพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลตามแพทย์นัด
ผู้ป่วยควรดูแลตนเองอย่างไร?
การดูแลตนเองของผู้ป่วยกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา ทั่วไปที่สำคัญ เช่น
- การทำความเข้าใจกับอาการที่เกิดขึ้นว่า มีสาเหตุจากผลข้างเคียงจากยาที่ใช้รักษาโรคของตนเอง ดังนั้นต้องให้ความร่วมมือกับแพทย์ในการดูแลรักษาโรคประจำตัวที่จำเป็นต้องใช้ยาต้านสารโดปามีน, พยายามปรับตัวเพื่อให้อาการดีขึ้นตามคำแนะ นำของแพทย์ พยาบาลเพื่อที่จะได้ใช้ยารักษาอาการทางจิตใจให้น้อยที่สุด จะได้ลดโอกาสเกิดกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา
- ผู้ป่วยจำเป็นต้องทานยาต่างๆตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ไม่ขาดยา, ไม่หยุดยาเอง และ
- พบแพทย์/ไปโรงพยาบาลตามนัดเสมอ
ผู้ป่วยควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อใด?
ทั่วไปผู้ป่วยกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาควรพบแพทย์ก่อนนัด เมื่อ
- มีอาการทางจิตเวชรุนแรงมากขึ้นหลังหยุดยาหรือเปลี่ยนยารักษาทางด้านโรคทางจิตเวช
- เกิดอาการผิดปกติอื่นๆที่อาจพบได้จากยาที่ใช้แก้ฤทธิ์ของยารักษากลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา ช่น มึนงงอย่างรุนแรง, วิงเวียนศีรษะ, อาเจียน, หรือ เกิดอาการแพ้ยา
ป้องกันกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยาได้อย่างไร?
การป้องกันการเกิดกลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยา คือ การรักษาสุขภาพจิตให้ดีจะได้ไม่ต้องใช้ยาสารต้านโดปามีน, แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้ยานี้ก็ควรต้อง
- พบแพทย์สม่ำเสมอตามแพทย์นัด
- ควรพยายามปรับตัวให้อาการทางจิตนั้นไม่รุนแรงจะได้ใช้ยานี้ในขนาดไม่สูง และใช้ไม่นาน
- รวมถึง ไม่ซื้อยานี้ทานเอง
- ไม่ปรับขนาดรับประทานยานี้เองโดยไม่ใช่คำสั่งจากแพทย์
สรุป
กลุ่มอาการยึกยือเหตุจากยานั้น เป็นผลแทรกซ้อน (ผลข้างเคียง) จากการใช้ยาต้านสารโดปามีนที่ใช้รักษาโรคทางจิตเวช มิใช่อาการทางจิต ผู้ป่วยไม่ได้แกล้งทำ ทุกคนควรเข้าใจเห็นใจและให้กำลังใจแก่ผู้ป่วย
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Tardive_dyskinesia [2023,Feb11]