ไกลโอมา เนื้องอกไกลโอมา (Glioma)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 15 พฤษภาคม 2565
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ: คือโรคอะไร? พบบ่อยไหม?
- เนื้องอกไกลโอมามีกี่ชนิด?
- อะไรเป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงเกิดเนื้องอกไกลโอมา?
- เนื้องอกไกลโอมามีอาการอย่างไร?
- ควรพบแพทย์เมื่อไร?
- แพทย์วินิจฉัยเนื้องอกไกลโอมาได้อย่างไร?
- เนื้องอกไกลโอมามีกี่ระยะ?
- รักษาเนื้องอกไกลโอมาอย่างไร?
- มีผลข้างเคียงจากการรักษาอย่างไร?
- เนื้องอกไกลโอมามีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
- ดูแลตนเองอย่างไร?
- มีวิธีตรวจคัดกรองเนื้องอกไกลโอมาไหม?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เนื้องอก (Tumor)
- มะเร็ง (Cancer)
- เนื้องอกสมอง และมะเร็งสมอง (Brain tumor)
- โรคสมอง โรคทางสมอง (Brain disease)
- โรคไขสันหลัง (Spinal cord disease)
- รังสีรักษา ฉายรังสี ใส่แร่ (Radiation therapy)
- ยาเคมีบำบัด (Cancer chemotherapy)
- ยารักษาแบบจำเพาะต่อเซลล์มะเร็ง ยารักษาตรงเป้า (Targeted Cell Therapy)
บทนำ: คือโรคอะไร? พบบ่อยไหม?
ไกลโอมา(Glioma) คือ เนื้องอกชนิดหนึ่งของเซลล์สมอง หรือ ของเซลล์ไขสันหลัง ที่เรียกว่าเซลล์เกลีย(Glia cell) พบได้ทั้งเป็นเนื้องอกชนิด’ไม่ใช่มะเร็ง’ และเนื้องอกชนิด’มะเร็ง’
ทั้งนี้ ในเนื้องอกสมองและเนื้องอกไขสันหลังชนิด’ไม่ใช่มะเร็ง’พบเป็นเนื้องอก ชนิดไกลโอมาประมาณ 30% แต่ในเนื้องอกสมองและเนื้องอกไขสันหลังชนิด’เป็นมะเร็ง’จะพบเป็นมะเร็งชนิดไกลโอมาได้สูงถึงประมาณ 80%
ไกลโอมาทั่วโลกในทุกอายุ ตั้งแต่เด็ก(นิยามคำว่าเด็ก)จนถึงผู้สูงอายุ แต่พบไม่บ่อยมากและยังไม่มีรายงานสถิติเกิดทั่วโลกที่ชัดเจน เป็นเนื้องอกพบทั้งเพศชายและเพศหญิงใกล้เคียงกัน ในสหรัฐอเมริกามีรายงานเนื้องอกสมองทุกชนิดในแต่ละปีประมาณ80,000ราย ซึ่งประมาณ25%เป็นชนิดไกลโอมา
สำหรับประเทศไทย รายงานในวารสาร Cancer in Thailand 2021(Vol X)ที่ รวมเนื้องอกทั้งชนิดไม่ใช่มะเร็งและชนิดมะเร็งของสมองและของไขสันหลัง (รวมถึงไกลโอมาด้วย) พบในเพศชาย 2.4 รายต่อประชากรชายไทย 1แสนคน และในเพศหญิง 2.1 รายต่อประชากรหญิงไทย 1แสนคน
เนื้องอกไกลโอมามีกี่ชนิด?
เนื้องอกไกลโอมา แบ่งเป็นหลายชนิด ที่พบบ่อย ได้แก่
- Astrocytoma
- Oligodendroglioma
- Ependymoma
- Optic glioma
- Brain stem glioma
- และบางครั้งพบหลายๆชนิดเกิดในก้อนเนื้อเดียวกัน
ทั้งนี้ เนื้องอกไกลโอมาทุกชนิด มีธรรมชาติของโรคคล้ายกัน เช่น อาการ วิธีวินิจฉัย วิธีตรวจและรักษา รวมถึงการดูแลผู้ป่วย จึงเหมือนๆกัน
อะไรเป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงเกิดเนื้องอกไกลโอมา?
สาเหตุเกิดเนื้องอกไกลโอมา ยังไม่ทราบ แต่พบปัจจัยเสี่ยง เช่น
- พันธุกรรม: โรคนี้พบสูงขึ้นในผู้ป่วยที่มีประวัติครอบครัวหรือตนเองป่วยเป็นเนื้องอกผิวหนังชนิด Neurofibromatosis(ท้าวแสนปม)ชนิด1 หรือ ชนิด2 ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรม
- ผู้ป่วยที่เคยได้รับรังสีรักษาบริเวณสมองในช่วงวัยเด็ก
- และที่กำลังถกเถียงและศึกษากันอย่างจริงจัง แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจน คือ รังสีจากโทรศัพท์มือถือ ที่ได้มีคำเตือนและคำแนะนำการใช้มือถือจากองค์กรต่างๆในด้านความปลอดภัยของผู้บริโภคโดยเฉพาะในเด็ก(แนะนำอ่านเพิ่มเติม บทความจากเว็บ com เรื่อง รังสีจากโทรศัพท์มือถือ) เพราะขณะพูดคุย มือถือจะอยู่ใกล้สมอง เซลล์สมองจึงมีโอกาสได้รับรังสีร่วมไปด้วย
เนื้องอกไกลโอมามีอาการอย่างไร?
อาการของเนื้องอกไกลโอมา จะขึ้นกับขนาดก้อนเนื้อ/ขนาดเนื้องอก,และตำแหน่งที่เกิดโรค
ก. ขนาดก้อนเนื้อ: เมื่อก้อนเนื้อมีขนาดเล็ก ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการ แต่เมื่อก้อนเนื้อโตขึ้น
- เมื่อโรคเกิดที่สมอง: ก้อนเนื้อจะกดทับเนื้อสมอง ส่งผลให้เกิดอาการที่พบได้บ่อย คือ ปวดศีรษะเรื้อรัง ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ อาจร่วมกับอาเจียน และ/หรือมีแขน/ขาอ่อนแรง
- ส่วนเมื่อโรคเกิดที่ไขสันหลัง: ก้อนเนื้อมักกดเบียดทับเนื้อไขสันหลัง ส่งผลให้เกิดอาการแขนขาอ่อนแรง หรือมีปัญหาในการถ่ายปัสสาวะ หรือถ่ายอุจจาระ
ข. ตำแหน่งก้อนเนื้อ: อาการต่างๆเป็นไปตามหน้าที่ของแต่ละตำแหน่งของรอยโรค เช่น
- เมื่อโรคเกิดที่ประสาทตา: อาการหลัก คือการเห็นภาพมัวลง จนถึงตาบอด,
- การมีแขน/ขาด้านเดียวกันอ่อนแรงเมื่อเกิดโรคในสมองใหญ่ส่วนนอก(Cerebral cortex)
- เดินเซ, การทรงตัวผิดปกติ, การหายใจผิดปกติ, เมื่อโรคเกิดที่ก้านสมอง
- หรือ มีแขน หรือ ขาทั้งสองข้างอ่อนแรพร้อมกันเมื่อโรคเกิดที่ไขสันหลัง
ควรพบแพทย์เมื่อไร?
เมื่อมีอาการดังกล่าวใน’หัวข้ออาการฯ’ โดยเฉพาะเมื่อปวดศีรษะเรื้อรังและปวดมากๆขึ้นตลอดเวลา และ/หรือ มีแขนขาอ่อนแรง ควรพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลเสมอ
แพทย์วินิจฉัยเนื้องอกไกลโอมาได้อย่างไร?
แพทย์วินิจฉัยเนื้องอกไกลโอมาได้จาก
- ประวัติอาการของผู้ป่วย
- การตรวจร่างกาย และ การตรวจร่างกายทางระบบประสาท
- การตรวจภาพสมองด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (ซีทีสแกน) และ/หรือ เอมอาร์ไอ
- แต่การจะให้ได้ผลและทราบว่าเป็นเซลล์เนื้องอกไกลโอมาชนิดไหน และมีการแบ่งตัว (Grade/G)ของเซลล์เนื้องอกอย่างไร ต้องได้จากการตรวจชิ้นเนื้อจากก้อนเนื้อก่อนหรือหลังผ่าตัดเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา, ทั่วไป กรณีผ่าตัดไม่ได้ แพทย์อาจใช้เทคนิคเฉพาะเพื่อการตัดชิ้นเนื้อผ่านทางการเจาะกะโหลกศีรษะ
อนึ่ง: ก้อนเนื้อที่เกิดในบางตำแหน่งของสมองหรือของไขสันหลังที่อาจผ่าตัดหรือเจาะ/ตัดชิ้นเนื้อไม่ได้เพราะเป็นตำแหน่งที่อันตรายสูง อาจทำให้ผู้ป่วยถึงตายได้ จากภาวะเลือดออก และ/หรือสมองบวม หรือไขสันหลังบวมจากการเจาะ/ตรวจ หรือจากผ่าตัด ซึ่งกรณีเช่นนี้ แพทย์จะวินิจฉัยโดยไม่มีผลตรวจทางพยาธิวิทยา และแพทย์จะให้การรักษาด้วยรังสีรักษาเพียงวิธีการเดียว โดยพิจารณายาเคมีบำบัดร่วมด้วยเป็นรายๆไป โดยไม่มีผลตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยา ใช้เพียงการวินิจฉัยโรคจากทางคลินิก
นอกจากนี้ เนื่องจากไกลโอมา เป็นโรคที่ธรรมชาติของโรค มักไม่ลุกลามแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองและอวัยวะอื่นๆ (พบแพร่กระจายไป ปอดและกระดูกได้บ้าง แต่พบน้อยมากๆ) ดังนั้นจึงไม่มีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อการหาระยะโรคเพราะไม่มีการจัดระยะโรค แต่เป็นเพียงการตรวจสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย เช่น
- ตรวจเลือดซีบีซี/CBC
- ตรวจเลือด ดูเบาหวาน ดูการทำงานของตับและของไต
- การตรวจปัสสาวะ
- เอกซเรย์ปอดดูโรคของปอดและหัวใจ
เนื้องอกไกลโอมามีกี่ระยะ?
เนื้องอกไกลโอมาส่วนใหญ่เป็นชนิด’ไม่ใช่มะเร็ง’ จึงไม่มีการแพร่กระจาย จึงไม่มีการจัดระยะของโรค ทั่วไปแพทย์จัดระยะโรคตามลักษณะทางคลินิก โดยมีความรุนแรงของโรคตั้งแต่น้อยไปหามาก เช่น
- ระยะหรือกลุ่มที่โรคสามารถผ่าตัดได้หมด
- ระยะหรือกลุ่มที่โรคผ่าตัดได้ แต่ผ่าตัดได้ไม่หมด
- ระยะ/กลุ่มที่โรคที่ผ่าตัดไม่ได้
- ระยะ/กลุ่มที่โรคย้อนกลับเป็นซ้ำหลังผ่าตัดและ/หรือหลังรังสีรักษา
นอกจากนั้น แพทย์ยังจะพิจารณาร่วมกับลักษณะการแบ่งตัวของเซลล์เนื้องอกที่ได้จากการตรวจทางพยาธิวิทยาจากก้อนเนื้อ โดยการแบ่งตัวของเซลล์เนื้องอกกลุ่มโรคนี้แบ่งเป็น 4 ระดับ (Grade หรือย่อว่า G) ตามการแบ่งตัวจากน้อยไปหามาก คือ
- G1=Well differentiated (เซลล์แบ่งตัวน้อย)
- G2=Moderated differentiated (เซลล์แบ่งตัวปานกลาง)
- G3=Poorly differentiated หรือ Anaplastic (เซลล์แบ่งตัวมาก)
- และG4= Undifferentiated (เซลล์แบ่งตัวมากที่สุดจนลักษณะต่างจากเซลล์เดิมมาก) ซึ่งเรียกว่าเป็นมะเร็งชนิด Glioblastoma หรือ Glioblastoma multiforme ย่อว่า GBM/ จีบีเอม
อนึ่ง:
- เมื่อเซลล์เนื้องอกฯมีการแบ่งตัวน้อย โรคจะรุนแรงน้อย มีการพยากรณ์โรคที่ดี ละเมื่อเซลล์ยิ่งแบ่งตัวมาก การพยากรณ์โรคจะยิ่งแย่ลง
- เนื้องอกไกลโอมา:
- ชนิด G1 และ G2 เรียกรวมกันว่า “Low grade glioma” ซึ่งจัดเป็น “ชนิดไม่ใช่มะเร็ง”
- แต่ชนิด G3 และ G4 เรียกรวมกันว่า “High grade glioma” จัดเป็นโรครุนแรง คือ เป็น “ชนิดเป็นมะเร็ง”
รักษาเนื้องอกไกลโอมาอย่างไร?
การรักษาเนื้องอกไกลโอมาขึ้นกับหลายปัจจัย ที่สำคัญ ได้แก่ ขนาดก้อนเนื้อ, ตำแหน่งก้อนเนื้อในสมอง/ไขสันหลัง , การแบ่งตัวของเซลล์เนื้องอก, อายุ, และสุขภาพผู้ป่วย
ทั้งนี้ การรักษาหลักของเนื้องอกไกลโอมา คือ การผ่าตัด
- โดยในกรณีที่ผ่าตัดได้:
- เนื้องอกชนิด G1 และ G2 การรักษาจะผ่าตัดวิธีเดียว
- แต่ในโรคที่เป็น G3, G4 หรือ กรณีโรคย้อนกลับเป็นซ้ำ การรักษามักเป็นผ่าตัดร่วมกับรังสีรักษา
- กรณีผ่าตัดไม่ได้: การรักษาจะใช้รังสีรักษาวิธีการเดียว
- ส่วนยาเคมีบำบัด จะพิจารณาให้ในผู้ป่วยเป็นกรณีไป ทั้งกรณีหลังผ่าตัด และ/หรือใช้ร่วมกับรังสีรักษา เพราะเนื้องอกไกลโอมา ยังตอบสนองไม่ดีต่อยาเคมีบำบัดชนิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และยังไม่สามารถรักษาโรคให้หายได้ด้วยยาเคมีบำบัดวิธีเดียว
อนึ่ง: การรักษาเนื้องอกไกลโอมาด้วยยารักษาตรงเป้า/ยารักษามุ่งเป้า/ยารักษาแบบจำเพาะต่อเซลล์มะเร็ง, การใช้วัคซีนจากตัวเนื้องอกเอง, ยังอยู่ในการศึกษาวิจัยซึ่งกำลังก้าวหน้าอย่างมา
มีผลข้างเคียงจากการรักษาอย่างไร?
ผลข้างเคียงจากการรักษาเนื้องอกหรือมะเร็งทุกชนิดที่รวมถึงเนื้องอกไกลโอมา จะเช่นเดียวกัน โดยขึ้นกับวิธีรักษา เช่น
- การผ่าตัด: เช่น การสูญเสียอวัยวะ การเสียเลือด แผลผ่าตัดติดเชื้อ และเสี่ยงต่อการดมยาสลบ
- รังสีรักษา: คือ ผลข้างเคียงต่อผิวหนังและต่อเนื้อเยื่อสมอง (อ่านเพิ่มเติมในบทความเรื่อง การดูแลผิวหนังและผลข้างเคียงต่อผิวหนังบริเวณฉายรังสีรักษา และเรื่อง การดูแลตนเองเมื่อฉายรังสีรักษาบริเวณสมอง)
- ยาเคมีบำบัด: คือ อาการ คลื่นไส้อาเจียน ผมร่วง ภาวะซีด และการติดเชื้อจากภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำจากเคมีบำบัด และ / หรือรังสีรักษา: การดูแลตนเอง) และการมีเลือดออกได้ง่ายจากภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
อนึ่ง ผลข้างเคียงจากการรักษาโรคเนื้องอกไกลโอมาจะสูงและรุนแรงขึ้นเมื่อ
- ใช้หลายวิธีรักษาร่วมกัน
- มีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และ ไขมันในเลือดสูง
- สูบบุหรี่
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ผู้สูงอายุ
- เด็กเล็ก
เนื้องอกไกลโอมามีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
การพยากรณ์โรคของเนื้องอกไกลโอมาขึ้นกับ
- อายุ:
- การพยากรณ์โรคแย่ในเด็กอ่อนและในผู้สูงอายุ
- การพยากรณ์โรคดีปานกลางในเด็กโตและในผู้ใหญ่
- การพยากรณ์โรคดีในเด็กเล็ก
- ขนาดก้อนเนื้อ/ขนาดรอยโรค: ยิ่งขนาดใหญ่การพยากรณ์โรคยิ่งแย่
- ตำแหน่งที่เกิดก้อนเนื้อ: การพยากรณ์โรคไม่ดีถ้าก้อนเนื้อเกิดในตำแหน่งที่ผ่าตัดไม่ได้ เช่น ที่ก้านสมอง
- การผ่าตัด:
- ถ้าผ่าตัดก้อนเนื้อออกได้หมด การพยากรณ์โรคดี
- ถ้าผ่าตัดได้มากกว่า 50% การพยากรณ์โรคดีปานกลาง
- ถ้าผ่าตัดออกได้น้อย หรือผ่าตัดไม่ได้ การพยากรณ์โรคแย่
- ระดับการแบ่งตัวของเซลล์ โดยเรียงตามลำดับจาก ดีมาก, ดี, เลว, ไปจนถึงเลวมาก คือ G1, G2, G3, และ G4
ทั้งนี้ในกลุ่มผู้ป่วยที่การแบ่งตัวของเซลล์อยู่ที่ระดับ G1,G2 โอกาสอยู่รอดได้ถึง 10 ปีนับจากหลังการวินิจฉัยโรคได้และได้รับการรักษาอยู่ที่ประมาณ 40-90%
- ผู้ป่วย G3 อัตรารอดที่ห้าปี ประมาณ 10-15% และ
- ผู้ป่วย G4 ทั่วไปมักอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี
อนึ่ง:
- ไกลโอมาในอายุตั้งแต่เด็กโตขึ้นไป มักมีโอกาสย้อนกลับเป็นซ้ำหลังผ่าตัด โดยเฉพาะโรคที่เซลล์แบ่งตัวตั้งแต่ระดับ G2 ขึ้นไปและในผู้ป่วยที่ผ่าตัดรอยโรคได้ไม่หมด ซึ่งเมื่อโรคย้อนกลับเป็นซ้ำ มีโอกาสที่เซลล์เนื้องอกจะกลายพันธ์ไปเป็นเซลล์ในระดับ G3,G4 (เป็นมะเร็ง)ได้
- เนื้องอกไกลโอมาชนิด G3,G4 ที่เกิดใกล้กับโพรงน้ำในสมอง เซลล์เนื้องอก/เซลล์มะเร็งจะลุกลามแพร่กระจายเข้าน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง (CSF: Cerebrospinal fluid) และสามารถแพร่ตาม CSF ไปยังสมองส่วนต่างๆรวมถึงไขสันหลังได้ ส่งผลให้โรครุนแรง รักษายาก และมักรักษาไม่หาย แต่การแพร่กระจายลักษณะนี้พบเกิดน้อย
ดูแลตนเองอย่างไร?
เนื่องจากสมองและไขสันหลังเป็นอวัยวะสำคัญมาก การเกิดเนื้องอก ถึงแม้จะเป็นชนิดไม่ใช่มะเร็ง ก็จัดเป็นโรครุนแรง คล้ายการเป็นมะเร็ง รวมทั้งวิธีที่ใช้รักษาด้วย
ดังนั้นการดูแลตนเองและการดูแลผู้ป่วย เนื้องอกไกลโอมา จึงเช่นเดียวกับการดูแลตนเองและการดูแลผู้ป่วยมะเร็งทุกชนิด ปรับใช้ด้วยกันได้ อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง
- การดูแลตนเองเมื่อป่วยเป็นโรคมะเร็ง และการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง
- และในเรื่อง การดูแลตนเอง การดูแลผู้ป่วยเคมีบำบัด
มีวิธีตรวจคัดกรองเนื้องอกไกลโอมาไหม?
ปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีตรวจคัดกรองให้พบเนื้องอกไกลโอมาตั้งแต่ยังไม่มีอาการ
ป้องกันเนื้องอกไกลโอมาได้อย่างไร?
ปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีป้องกันเนื้องอกไกลโอมา เพราะยังไม่ทราบสาเหตุ แต่การพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงได้ อาจช่วยลดโอกาสเกิดโรคนี้ลงได้บ้าง เช่น ลดการใช้โทรศัพท์มือถือ ให้ใช้แต่เฉพาะที่จำเป็น เพื่อลดปริมาณรังสีที่ได้รับจากโทรศัพท์มือถือ(อ่านเพิ่มเติมในบทความเรื่อง ’รังสีจากโทรศัพท์มือถือ’)โดยเฉพาะในเด็ก
บรรณานุกรม
- Halperin,E., Wazer, D., Perez,C., and Brady,L. (2013). Principle and practice of radiation oncology.(6th ed). Walter KLUWER/Lippincott Williams & Wilkins. Philadelphia.
- J.et al.(2021).Cancer in Thailand Vol X, 2016-2018,Thailand
- http://en.wikipedia.org/wiki/Glioma [2022,May14]
- https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/21969-glioma [2022,May14]
- https://www.medscape.org/viewarticle/564764_2 [2022,May14]