ยาบำบัดหย่อนสมรรถภาพเพศชาย: พีดีอี 5 อินฮิบิเตอร์ (PDE5 inhibitor: Phosphodiesterase type 5 inhibitor)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 29 มกราคม 2565
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ:คือยาอะไร?
- ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
- ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายอย่างไร?
- ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษายาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายอย่างไร?
- ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- นกเขาไม่ขัน (Erectile dysfunction)
- โรคหัวใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด (Heart disease หรือ Cardiovascular disease)
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะหัวใจเสียจังหวะ (Arrhythmia)
- ภาวะหัวใจล้มเหลว ภาวะหัวใจวาย (Heart failure)
- เจ็บหน้าอกจากหัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อาการปวดเค้นหัวใจ (Angina Pectoris)
- ต่อมลูกหมากโต หรือ บีพีเอช (Benign prostatic hypertrophy or BPH)
- ความดันหลอดเลือดปอดสูง (Pulmonary hypertension)
บทนำ:คือยาอะไร?
ยาบำบัด/รักษาอาการหย่อนสมรรถภาพเพศชายกลุ่ม พีดีอี 5 อินฮิบิเตอร์ (PDE5 inhibitor: Phosphodiesterase type 5 inhibitor) คือยาที่ออกฤทธิ์เพื่อให้กระบวนการแข็งตัวของอวัยวะเพศชายเกิดขึ้นได้อย่างปกติ ซึ่งในบทความนี้จะใช้ชื่อว่า ‘ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย’
นอกจากนี้ กลุ่มยาเหล่านี้ยังออกฤทธิ์กับหลอดเลือดในปอดทำให้เกิดการคลายตัว จึงถูกนำไปใช้ลดโรค/ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูงอีกด้วย
อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในบุรุษ/ในเพศชาย (Erectile dysfunction, นกเขาไม่ขัน) นั้นมีสาเหตุได้หลายประการเช่น
- ได้รับยาต้านเศร้า เช่น SSRIs หรือยา Nicotine
- มีภาวะโรคของระบบประสาท /โรคสมอง
- อยู่ในภาวะเครียด มีความวิตกกังวล
- เพิ่งได้รับการผ่าตัด
- ป่วยเป็นโรคเบาหวาน โรคตับแข็ง
- สูบบุหรี่จัดจนเป็นเหตุให้หลอดเลือดในร่างกายตีบตัวลง
การแข็งตัวของอวัยวะเพศเกิดจากการกระตุ้นหรือสัมผัสและใช้ความรู้สึกนึกคิดจินตนาการของสมอง ส่งผลให้เกิดการหลั่งสารเคมีคือ ไนตริกออกไซด์ (Nitric oxide) ซึ่งมีหน้าที่ทำให้กล้ามเนื้อเรียบของเนื้อเยื่อในอวัยวะเพศชายที่มีหน้าที่ทำให้อวัยวะเพศชายเกิดการแข็งตัว (Corpora cavenosa) มีการคลายตัว ส่งผลให้เลือดเข้าไปเลี้ยงในบริเวณดังกล่าวได้มากขึ้น อวัยวะเพศฯจึงเกิดการแข็งตัวขึ้น
ตัวอย่างของยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย มีดังนี้
- Avanafil: คณะกรรมการอาหารและยาของต่างประเทศได้ยอมรับและขึ้นทะเบียนให้ยานี้ใช้รักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายได้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) และเป็นที่รู้จักภายใต้ยาชื่อการค้า “Stendra” และ “Spedra” ยา Avanafil ถูกใช้อย่างแพร่หลายมากกว่า 40 ประเทศทั่วทวีปยุโรปรวมถึงประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ จุดเด่นของยา Avanafil คือออกฤทธิ์เร็ว
- Lodenafil: จัดเป็นยารุ่นใหม่คล้ายกับยา Avanafil ถูกสังเคราะห์ในรูปของสารตั้งต้นที่เรียก ว่า Lodenafil carbonate ซึ่งเป็นโครงสร้างที่สามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว ในต่างประเทศจะรู้จักยา นี้ภายใต้ชื่อยาการค้า “Helleva”
- Mirodenafil: ถูกพัฒนาโดยบริษัท SK Chemicals Life Science มีการจัดจำหน่ายและทำการตลาดที่ประเทศเกาหลี แต่ยานี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับในอเมริกา ยา Mirodenafil มีจุดเด่นตรงที่ละ ลายได้ภายในปากโดยไม่ต้องดื่มน้ำ
- Sildenafil: จะรู้จักกันดีภายใต้ชื่อการค้าว่า “Viagra” ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท Pfizer เพื่อวัตถุประสงค์รักษาความดันโลหิตสูง อาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ต่อมาได้มีการศึกษาใช้บำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายในปี ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) สำหรับประเทศไทยยังถือเป็นยาควบคุมพิเศษไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
- Tadalafil: ถูกค้นพบโดยบริษัทยา Glaxo รู้จักภายใต้ยาชื่อการค้าว่า “Cialis” และ “Adcirca” ทางคลินิกนำมาใช้บำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย ลดความดันโลหิตสูงในปอด รวมถึงบำบัดอาการของต่อมลูกหมากโตอีกด้วย
- Vardenafil: ถูกจำหน่ายภายใต้ชื่อการค้า “Levitra”, “Staxyn” และ “Vivanza” มีสรรพคุณใกล้เคียงกับยา Sildenafil และ Tadalafil แต่ต้องรับประทานก่อนมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง มีสูตรตำรับที่ออกแบบให้เม็ดยาละลายได้ในปากก่อนกลืน
- Udenafil: รู้จักในยาชื่อการค้า “Zydena” ถูกพัฒนาโดยบริษัท Dong-A pharmaceutical หลังรับประทานยาจะเริ่มออกฤทธิ์ในเวลาประมาณ 1 -5 ชั่วโมงและอยู่ในร่างกายได้นานถึงประ มาณ 11 - 13 ชั่วโมงก่อนที่จะถูกกำจัดออก ยานี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับในสหรัฐอเมริกา
อนึ่ง ก่อนการใช้ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจร่างกายจากแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและความปลอดภัยในการใช้ยานี้ ด้วยตัวยานี้แต่ละรายการมีข้อห้ามใช้ ข้อควรระวัง ผลข้างเคียง ที่เป็นรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย การซื้อยามารับประทานเองย่อมเกิดความเสี่ยงทั้งอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตทั้งสิ้น
ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย มีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้:
- บำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย (นกเขาไม่ขัน)
- บำบัดอาการต่อมลูกหมากโต
- บำบัดอาการความดันหลอดเลือดปอดสูง
ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย มีกลไกการออกฤทธิ์โดยตัวยาในกลุ่มนี้จะออกฤทธิ์ยับยั้งการทำลายสารสื่อสัญญาณ (Messenger) บางตัวที่อยู่ตามเนื้อเยื่อของร่างกายเช่น cGMP (Cyclic Guanosine Monophosphate) ส่งผลให้กล้ามเนื้อเรียบรอบๆอวัยวะเพศ, บริเวณผนังหลอดเลือดของปอด รวมถึงในต่อมลูกหมากเกิดการคลายตัว ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดเป็นไปได้ดีขึ้น จนก่อให้เกิดฤทธิ์ของการรักษาตามสรรพคุณ
ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีรูปแบบการจัดจำหน่าย:
- เป็นยาเม็ดชนิดรับประทาน
- มีบางรูปแบบของยาในกลุ่มนี้ที่มีลักษณะเป็นเจลสำหรับรับประทานซึ่งพบเห็นได้ไม่มากนัก
ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ด้วยตัวยาในกลุ่มยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีหลายรายการ การรับประ ทานยากลุ่มนี้ได้เหมาะสมถูกต้องและปลอดภัยจึงต้องเป็นไปตามคำสั่งของแพทย์ผู้รักษาแต่เพียงผู้เดียว
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจติดขัด/หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดรับประทานเป็น 2 เท่า
ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายสามารถก่อให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) เช่น
- ปวดหัว
- วิงเวียน
- ใบหน้าแดง
- ท้องอืด
- คัดจมูก
- อาจพบภาวะหูดับได้
มีข้อควรระวังการใช้ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยากลุ่มนี้ร่วมกับยาประเภทไนเตรท (Nitrate, ยากลุ่มขยายหลอดเลือดแดง)
- ห้ามใช้ยากลุ่มนี้กับผู้ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ เช่น ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ภาวะหัวใจล้มเหลว หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ห้ามปรับขนาดรับประทานด้วยตนเอง
- ห้ามใช้ยากลุ่มนี้กับผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูง หรือ โรคความดันโลหิตต่ำ
- การใช้ยากลุ่มนี้กับผู้ป่วยต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น ห้ามมิให้ผู้ป่วยไปหาซื้อหรือทดลองใช้ด้วยตนเอง
- ไม่มีข้อแนะนำให้ใช้ยากลุ่มนี้กับเพศหญิงในเรื่องบำบัดสมรรถภาพทางเพศ
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- ห้ามใช้ยาTadalafil ร่วมกับยากลุ่มแอลฟา-บล็อกเกอร์ (Alpha-blocker) เช่นยา Doxazosin หรือ ยากลุ่มไนเตรท เช่นยา Isosorbide mononitrate และ Isosorbide dinitrate ด้วยจะก่อให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำอย่างรุนแรง
- การใช้ยา Sildenafil ร่วมกับยา Cimetidine อาจทำให้ระดับยา Sildenafil ในกระแสเลือดเพิ่มสูงขึ้นและสามารถส่งผลทั้งประสิทธิภาพและพิษของ Sildenafil ได้ทั้งสิ้น หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกันแพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
- การใช้ยา Vardenafil ร่วมกับยากลุ่ม Alpha-blockers จะเสี่ยงกับการเกิดความดันโลหิตต่ำ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
ควรเก็บรักษายาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายอย่างไร?
ควรเก็บยากลุ่มยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย:
- เก็บยาภายใต้อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส (Celsius)
- ไม่เก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
- ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/ แสงแดด ความร้อน และความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชายมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาบำบัดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย มียาชื่อการค้า และบริษัท ผู้ผลิตเช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Cialis (เซียลิส) | Eli-Lilly |
ERECTALIS (อีเรคทาลิส) | Cipla |
FORZEST (ฟอร์เซส) | Ranbaxy |
MEGALIS (เมกาลิส) | Macleods |
ONEAID (วันเอด) | BMW |
MILDFIL (ไมด์ฟิล) | Fourrts |
POPUP (ป็อปอัฟ) | AHPL |
PULMOPRES (พูลโมเพลส) | Cipla |
TADACIP (ทาดาซิป) | Cipla |
TAGIL (ทากิล) | Asclepius |
TAZZLE (ทาเซิล) | Dr. Reddy's |
TD-PILL (ทีดี-พิล) | Delvin |
Elonza (อิลอนซา) | Unison |
Revatio (เรวาทิโอ) | Pfizer |
Sidegra (ไซเดกรา) | GPO |
Tonafil (โทนาฟิล) | T. O. Chemicals |
Viagra (ไวอะกร้า) | Pfizer |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/PDE5_inhibitor [2022,Jan29]
- https://www.medscape.com/viewarticle/542736_4 [2022,Jan29]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Erectile_dysfunction#Causes [2022,Jan29]
- https://www.mims.com/Thailand/drug/info/Viagra/ [2022,Jan29]
- https://www.mims.com/India/drug/info/vardenafil/?type=brief&mtype=generic [2022,Jan29]