โรคกล้ามเนื้อเสื่อม โรคกล้ามเนื้อเจริญผิดเพี้ยน (Muscular dystrophy)
- โดย ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า
- 16 มกราคม 2565
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ
- โรคกล้ามเนื้อเสื่อมคือโรคอะไร?
- โรคกล้ามเนื้อเสื่อมเกิดจากอะไร?
- โรคกล้ามเนื้อเสื่อมมีอาการอย่างไร?
- ผู้ป่วยควรมาพบแพทย์เมื่อใด?
- แพทย์วินิจฉัยโรคกล้ามเนื้อเสื่อมได้อย่างไร?
- โรคกล้ามเนื้อเสื่อมรักษาอย่างไร?
- โรคกล้ามเนื้อเสื่อมก่อภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้าง?
- โรคกล้ามเนื้อเสื่อมมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
- ดูแลตนเองอย่างไร? เมื่อไหร่ควรพบแพทย์ก่อนนัด?
- โรคกล้ามเนื้อเสื่อมป้องกันได้หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
- โรคกล้ามเนื้อ โรคระบบกล้ามเนื้อ (Muscle disease)
- สาเหตุการอ่อนแรงที่พบบ่อย (Common Causes of Motor Weakness)
- การตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ การตรวจอีเอ็มจี (Electromyography: EMG)
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง การตรวจอีอีจี (Electroencephalography; EEG)
- โรคกระดูกสันหลังคด (Scoliosis)
- โรคหัวใจ: หัวใจวายจากโรคหลอดเลือดหัวใจ (Heart disease: Heart failure from coronary artery disease)
- โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อระบบหายใจ (Respiratory tract infection)
- คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids)
บทนำ
ภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นภาวะผิดปกติทางระบบประสาทที่พบได้ทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะมีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตทั้งตัวผู้ป่วยเองและญาติผู้ดูแล และส่งผลต่อคุณภาพชีวิต สาเหตุ พบได้ทั้งสาเหตุที่เป็นมาแต่กำเนิดหรือเกิดขึ้นภายหลัง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง/อัมพาตในผู้ใหญ่, ซึ่งโรคที่พบบ่อยในเด็กที่เป็นโรคแต่กำเนิด คือ ‘โรคกล้ามเนื้อเสื่อม หรือโรคกล้ามเนื้อเจริญผิดเพี้ยน (Muscular dystrophy)’ โรคนี้มีอาการอย่างไร เกิดจากอะไร รักษาได้หรือไม่ ผลการรักษาดีหรือไม่ ลองติดตามจากบทความนี้ครับ
โรคกล้ามเนื้อเสื่อมคือโรคอะไร?
โรคกล้ามเนื้อเสื่อม คือ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่เป็นโรคแต่กำเนิดชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ เป็นผลให้เส้นใยกล้ามเนื้อลายค่อยๆเสื่อมสภาพ และอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ต่อเนื่อง เมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งความผิดปกติทางพันธุกรรมมีได้หลายรูปแบบที่มีความรุนแรงของโรค หรืออัตราการเสื่อมของกล้ามเนื้อเร็วช้าต่างกัน
โรคกล้ามเนื้อเสื่อมเป็นโรคพบได้พอควรแต่ไม่ถึงกับบ่อยมาก พบได้ประมาณ 5-90 รายต่อประชากรล้านคน(ขึ้นกับชนิดความผิดปกติของกรรมพันธุ์และเชื้อชาติ) และเนื่องจากเป็นโรคความผิดปกติทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับโครโมโซมเพศ(X-linked recessive) ผู้ป่วยเกือบทั้งหมดจึงมักเป็นเพศชาย
โรคกล้ามเนื้อเสื่อมเกิดจากอะไร?
โรคนี้เกิดจากการมีการกลายพันธุ์ในยีน/จีน (Gene) ที่ชื่อ ดิสโทรฟิน (Dystrophin gene) ซึ่งอยู่บนโครโมโซมเอ็กซ์ (Xp21) ยีนนี้จะถอดรหัสออกมาเป็นโปรตีนดิสโทรฟิน ซึ่งเป็นโปรตีนโครงสร้างที่สำคัญของกล้ามเนื้อ เมื่อมีการผิดปกติของยีนดังกล่าว จึงทำให้กล้ามเนื้อมีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด และส่งผลให้กล้ามเนื้อค่อยๆเสื่อมสภาพและอ่อนแรงมากขึ้นๆเรื่อยๆ ต่อเนื่องเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ความรุนแรงของอาการ/ของโรค ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของความผิดปกติของยีนและของโปรตีนดิสโทรฟินดังกล่าว
โรคกล้ามเนื้อเสื่อมมีอาการอย่างไร?
อาการผิดปกติที่พบบ่อยของโรคกล้ามเนื้อเสื่อม ได้แก่
- พัฒนาการของการนั่ง เดิน และวิ่งล่าช้า
- เดินท่าเตาะแตะคล้ายเป็ด
- ลุก ขึ้น-ลง ได้ลำบาก
- ขึ้น-ลงบันไดลำบาก
- กล้ามเนื้อบางส่วนของร่างกายโตขึ้นผิดปกติ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อน่อง (Calf hypertrophy)
- กระดูกสันหลังผิดรูป/กระดูกสันหลังคด (Scoliosis)
อนึ่ง เด็กโรคกล้ามเนื้อเสื่อม จะมีพัฒนาการกำลังของกล้ามเนื้อช้ากว่าเด็กปกติ ไม่ว่าจะเป็นการ นั่ง เดิน หรือวิ่ง
ประมาณร้อยละ 25 (25%) ของเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้ จะมีความพิการทางปัญญาร่วมด้วย
อาการผิดปกติเนื่องจากโรคกล้ามเสื่อมนี้ มักจะตรวจพบได้เมื่อเด็กมีอายุประมาณ 3 ปี โดยอาการของโรคฯจะทรุดลงเรื่อย ๆ เด็กจะเดินท่าเตาะแตะที่มี ลักษณะการเดินคล้ายเป็ด หลังจะโค้ง เนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณสะโพกอ่อนแรง เด็กจะขึ้นลงบันไดด้วยความลำบากมาก กล้ามเนื้อน่องแม้ว่าจะอ่อนแรงลง แต่จะมีขนาดใหญ่ผิดปกติเช่นเดียวกับกล้ามเนื้อต้นแขน และจากการที่กล้ามเนื้อเสื่อมลงเรื่อยๆ เมื่ออายุได้ประมาณ 12 ปี เด็กมักจะเดินไม่ได้
ผู้ป่วยควรมาพบแพทย์เมื่อใด?
ผู้ป่วยมักเป็นเด็ก(นิยามคำว่าเด็ก) ดังนั้นผู้ปกครองที่สังเกตพบว่า ลูกตนเองมีอาการพัฒนาการล่าช้าในการ ลุกนั่ง ยืน เดิน ก็ควรพาลูกพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ
แพทย์วินิจฉัยโรคกล้ามเนื้อเสื่อมได้อย่างไร?
การวินิจฉัยโรคกล้ามเนื้อเสื่อมที่สำคัญ คือ
- วินิจฉัยจากอาการผิดปกติดังกล่าวข้างต้นใน ‘หัวข้อ อาการฯ’
- ร่วมกับการตรวจร่างกาย โดยเฉพาะที่ตรวจพบกล้ามเนื้อน่องโต กล้ามเนื้อส่วน ต้นแขน ต้นขา สะโพก ไหล่ อ่อนแรง
- การสืบค้น อื่นๆ เช่น
- ตรวจเลือด ดูค่าเอนไซม์กล้ามเนื้อ/ซีพีเค(CPK, Creatine phosphokinase) ซึ่งจะสูงขึ้นไม่มาก
- ตรวจดูจีน/ยีนที่ผิดปกติ
- การตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ พบความผิดปกติเข้าได้โรคฯ
- แต่การวินิจฉัยที่แน่นอนคือ การตรวจทางพยาธิวิทยาของกล้ามเนื้อด้วยการตัดชิ้นเนื้อจากกล้ามเนื้อ ซึ่งจะพบลักษณะจำเพาะของโรคฯ
โรคกล้ามเนื้อเสื่อมรักษาอย่างไร?
เนื่องด้วยโรคนี้ยังไม่มีการรักษาที่ได้ผล ปัจจุบันการรักษาที่สำคัญ คือ
- การรักษาประคับระคองตามอาการที่เกิดขึ้น
- การทำกายภาพบำบัด ฝึกการหายใจ ป้องกันข้อยึดติด
- การรักษาความผิดปกติทางหัวใจ
- การป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ
- นอกจากนั้น คือ
- การรักษาด้วยการให้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์(Corticosteroid)ซึ่งได้ผลบ้างเล็กน้อย
- และการรักษาทางด้านพันธุกรรมที่ยังไม่ประสบผลสำเร็จในปัจจุบัน
โรคกล้ามเนื้อเสื่อมก่อภาวะแทรกซ้อนอะไรบ้าง?
ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยในโรคกล้ามเนื้อเสื่อม คือ
- การหายใจไม่สะดวก เพราะมีกล้ามเนื้อที่ทำงานทางการหายใจอ่อนแรง
- ภาวะกระดูกสันหลังผิดรูป/กระดูกสันหลังคด
- ภาวะข้อยึดติด
- การติดเชื้อ/โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ที่เป็นสาเหตุการตาย
โรคกล้ามเนื้อเสื่อมมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
การพยากรณ์โรคของโรคกล้ามเนื้อเสื่อม คือ เป็นโรคที่รักษาไม่หาย อาการผิดปกติต่างๆจะค่อยๆเลวลงไปเรื่อยๆ จะเลวลงเร็วหรือช้าขึ้นกับชนิดความผิดปกติของพันธุกรรม โดยทั่วไปเมื่ออายุได้ประมาณ 12 ปี เด็กจะเดินไม่ได้
โรคกล้ามเนื้อเสื่อม ยังไม่มีการรักษาที่ได้ผล ดังนั้น เด็กที่ป่วยประมาณร้อยละ 75 (75%) จะตายเมื่ออายุประมาณ 20 ปี
เนื่องจากเด็กที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อเสื่อม จะมีกล้ามเนื้อหัวใจ และกล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจอ่อนแรงด้วย จึงอาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อโรคของระบบหายใจ/โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ และภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งจะทำให้ตายโดยเฉียบพลันได้
ดูแลตนเองอย่างไร? เมื่อไหร่ควรพบแพทย์ก่อนนัด?
การดูแลเด็กป่วยโรคกล้ามเนื้อเสื่อมที่สำคัญ คือ
- ปฏิบัติตามแพทย์ พยาบาล นักกายภาพบำบัด แนะนำ
- เด็กอาจต้องเข้าโรงเรียนสำหรับเด็กพิการทางร่างกายโดยเฉพาะ และส่วนมากจะต้องใช้รถเข็นเมื่ออายุไต้ 12 ปี
- ในระหว่างที่เด็กยังเดินได้ คุณพ่อคุณแม่ควรจะช่วยกระตุ้นให้ลูกมีการเคลื่อนไหวร่างกายให้มากที่สุด เพื่อให้เด็กสามารถรักษาการเดินไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ต้องระวังอย่าให้เด็กออกกำลังมากเกินไป เพราะจะทำให้อาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว คุณพ่อคุณแม่อาจให้ลูกใช้ไม้คํ้ายันช่วย ซึ่งจะทำให้ลูกรักษาความสามารถในการเดินไว้ให้ได้นานขึ้น การนอนอยู่แต่บนเตียงจะยิ่งทำให้กล้ามเนื้อเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว
- การรักษาด้วยกายภาพบำบัด จะช่วยประคองความพิการไม่ให้เกิดมากขึ้น
- คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจเช็คสุขภาพเด็กเป็นประจำ เพราะ
- ต้องคอยประเมินอาการผิดปกติทางหัวใจ
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ตามแพทย์แนะนำ เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อโดยเฉพาะโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ
- พาเด็กพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลตามนัดเสมอ
- และพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลก่อนนัด เมื่อ
- เด็กมีไข้
- มีอาการต่างๆเลวลง
- มีอาการผิดปกติไปจากเดิม
- และ/หรือเมื่อคุณพ่อคุณแม่กังวลในอาการ
โรคกล้ามเนื้อเสื่อมป้องกันได้หรือไม่?
การป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดโรคกล้ามเนื้อเสื่อม คงไม่สามารถทำได้ในขณะนี้ แต่สามารถให้การวินิจฉัยก่อนคลอดได้ โดยการทำการตรวจน้ำคร่ำในขณะที่ทารกอยู่ในครรภ์ ในครอบครัวที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ (มีประวัติคนเป็นโรคนี้ในครอบครัว) ในระยะเดือนแรกๆของการตั้งครรภ์ การเจาะเอาน้ำคร่ำออกมาตรวจหาเพศของบุตรในครรภ์ ซึ่งถ้าพบว่าเป็นบุตรชาย จะมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ถึงร้อยละ 50(50%) คุณพ่อและคุณแม่อาจจะต้องตัดสินใจว่า จะยุติการตั้งครรภ์หรือไม่
โรคกล้ามเนื้อเสื่อมเกือบทั้งหมดมักจะเกิดเฉพาะกับเด็กผู้ชาย โดยจะมีแม่เป็นพาหะโรค ดังนั้น ผู้หญิงที่จะแต่งงาน/จะมีบุตร หากมีสมาชิกในครอบครัวเคยป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อเสื่อมนี้ ควรวางแผนครอบครัวโดยปรึกษาแพทย์เสียก่อน เพราะโรคนี้ มีโอกาสถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์แก่ลูกชายถึงประมาณร้อยละ 50(50%) ส่วนลูกสาวประมาณร้อยละ 50(50%) เช่นกัน ที่จะเป็นพาหะโรค ที่สามารถถ่ายทอดโรคนี้ให้กับลูกๆต่อไป ทั้งลูกหญิงและลูกชาย