แลนโซพราโซล (Lansoprazole)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 3 ธันวาคม 2565
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ: คือยาอะไร?
- แลนโซพราโซลมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
- แลนโซพราโซลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- แลนโซพราโซลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- แลนโซพราโซลมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- แลนโซพราโซลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้แลนโซพราโซลอย่างไร?
- แลนโซพราโซลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาแลนโซพราโซลอย่างไร?
- แลนโซพราโซลมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยากดการสร้างกรดของกระเพาะอาหาร (Gastric acid suppression medications)
- โรคติดเชื้อเอชไพโลไร (H.pylori infection)
- แผลเปบติค (Peptic ulcer) / แผลในกระเพาะอาหาร (Gastric ulcer)
- โปรตอนปั๊มอินฮิบิเตอร์ (Proton pump inhibitors)
- โซลลิงเจอร์เอลลิสัน (Zollinger Ellison syndrome)
- กลุ่มอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ (Flu-like Syndrome)
บทนำ: คือยาอะไร?
แลนโซพราโซล (Lansoprazole) คือ ยากดการสร้างกรดของกระเพาะอาหาร, มีข้อบ่งใช้ หลายประการ เช่น ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ รวมถึงแผลในทางเดินอาหารที่เกิดจากการใช้ยากลุ่มเอ็นเสด, นอกจากนี้ยังใช้ร่วมรักษาแผลในกระเพาะอาหารจากโรคติดเชื้อเอชไพโลไร โดยต้องใช้ควบคู่ไปกับยาปฏิชีวนะบางตัว เช่นยา Amoxicillin 1,000 มิลลิกรัม และ Clarithromycin 500 มิลลิกรัม มีระยะเวลาของการใช้ยาปฏิชีวนะอยู่ประมาณ 10 - 14 วัน, ยาแลนโซพราโซลมีวางจำหน่ายในรูปแบบยารับประทาน และชนิดฉีด
ยาแลนโซพราโซล เป็นยาในกลุ่มโปรตอน-ปั๊ม อินฮิบิเตอร์ (Proton-pump inhibitor) มีฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งกรดของกระเพาะอาหาร บริษัทยาหลายแห่งได้ผลิตยานี้ออกจำหน่ายภายใต้ชื่อการค้าที่หลากหลาย เช่น Prevacid ซึ่งลิขสิทธิ์ได้สิ้นสุดในปี ค.ศ. 1995 (พ.ศ. 2538) และมีวางจำหน่ายในร้านขายยาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หลังการรับประทาน ตัวยาแลนโซพราโซลจะถูกดูดซึมจากระบบทางเดินอาหารได้มากกว่า 80%, ตัวยาในกระแสเลือดจะเข้าจับกับพลาสมาโปรตีนประมาณ 97%, ตับจะเป็นอวัยวะที่คอยเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมีของยานี้, ร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 1 - 1.5 ชั่วโมงเพื่อกำจัดยานี้ออกจากกระแสเลือด โดยผ่านทิ้งไปกับปัสสาวะและอุจจาระ
ยาแลนโซพราโซลไม่สามารถบรรเทาอาการแสบร้อนกลางอกเนื่องจากมีกรดมากได้ทันที ผู้ป่วยต้องรับประทานยานี้ไปสักระยะหนึ่งจึงจะพบว่าอาการป่วยดีขึ้นเป็นลำดับ
มีข้อห้ามและเงื่อนไขบางประการที่ผู้บริโภคควรทราบก่อนการใช้ยาแลนโซพราโซล เช่น
- ห้ามผู้ป่วยไปซื้อยานี้มารับประทานเองโดยไม่มีคำสั่งแพทย์
- อาการต่างๆที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วย ที่ควรต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการใช้ยานี้ เช่น อาการแสบร้อนกลางอกมาเป็นเวลามากกว่า 3 เดือนแล้ว น้ำหนักตัวลด คลื่นไส้อาเจียน และปวดท้องมาตลอดก่อนมาพบแพทย์
- การรับประทานยานี้เป็นเวลานานเกินไป หรือรับประทานในปริมาณมากเกินไป อาจเป็นเหตุให้กระดูกหักได้ง่ายโดยเฉพาะกับผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
- ถึงแม้ยานี้มีข้อสรุปจากห้องทดลองว่า ไม่ทำอันตรายต่อทารกในครรภ์ก็จริง แต่ผู้ป่วยควรต้องแจ้งแพทย์ทุกครั้งว่า ตนเองอยู่ในสถานะตั้งครรภ์หรือไม่ รวมถึงต้องไม่ใช้ยากับสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
- ห้ามใช้ยานี้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีลงมา
- กรณีที่ผู้ป่วยได้รับยาแลนโซพราโซลชนิดออกฤทธิ์นาน ห้ามเคี้ยว หักยา หรือบดยา ให้ รับประทานยานี้โดยกลืนพร้อมน้ำดื่มอย่างปกติ
- หากผู้ป่วยไม่สามารถกลืนยาแคปซูลชนิดออกฤทธิ์นานได้ ให้แกะแคปซูล และละลายผงยาลงในโยเกิร์ตแล้วกลืนทันที, หรืออาจละลายยาผสมใน น้ำแอปเปิ้ล หรือน้ำส้ม หรือ น้ำมะเขือเทศ, จากนั้นดื่มจนหมด, แล้วเติมน้ำผลไม้ในแก้วเดิม คนเบาๆแล้วดื่มจนหมดอีกครั้ง
- กรณีที่ผู้ป่วยได้รับยานี้มาเป็นเวลานานกว่า 3 ปีขึ้นไป อาจทำให้ร่างกายขาดวิตามินบี12 ได้
สำหรับระยะเวลาของการใช้ยาแลนโซพราโซลในการรักษาแผลในกระเพาะอาหาร-ลำไส้ (แผลเปบติค) จะมีความแตกต่างกันออกไป เช่น การรักษาแผลในลำไส้เล็กโดยใช้ยาแลนโซพราโซลชนิดออกฤทธิ์นาน ผู้ป่วยอาจรับประทานยาในระยะสั้นเพียง 4 สัปดาห์ก็จะเพียงพอทำให้อาการปวดของแผลในลำไส้หายเป็นปกติ, ในขณะที่ต้องใช้เวลาถึง 8 สัปดาห์เพื่อรักษาอาการของแผลในกระเพาะอาหาร, หรือใช้ยาแบบออกฤทธิ์นานบำบัดอาการกรดไหลย้อนต้องใช้เวลาในการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ขึ้นไป
ทั่วไป การใช้ยาแลนโซพราโซลแบบออกฤทธิ์นาน โดยมีการควบคุมดูแลจากแพทย์อย่างต่อเนื่องจะใช้ยานี้ไม่เกิน 12 เดือน
ยาแลนโซพราโซล สามารถก่อให้เกิดอาการข้างเคียง (ผลข้างเคียง) เหมือนกับยาอื่นทั่วไป เช่น ท้องเสีย ปวดท้อง คลื่นไส้ รวมถึงอาการข้างเคียงที่อาจเกิดต่อระบบทำงานของอวัยวะต่างๆของร่างกายอีกหลายประการ, ดังนั้นการใช้ยานี้ได้อย่างปลอดภัยและเหมาะสม ควรต้องใช้ยาตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น
แลนโซพราโซลมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
ยาแลนโซพราโซลมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้: เช่น
- รักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
- รักษาภาวะกรดไหลย้อน
- ใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะในการรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารกรณีของโรคติดเชื้อเอชไพโลไร
- รักษากลุ่มอาการโซลลิงเจอร์เอลลิสัน (Zollinger-Ellison syndrome)
- รักษาแผลในกระเพาะอาหารที่เกิดจากการใช้ยากลุ่ม NSAIDs
- ป้องกันการเกิดแผลในลำไส้เล็ก
- ป้องกันการเกิดแผลในอวัยวะระบบทางเดินอาหารอันมีสาเหตุจากยา NSAID
แลนโซพราโซลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาแลนโซพราโซล คือ ตัวยาจะเข้ายับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ชื่อว่า ‘Hydrogen/potassium adenosine triphosphatase’ ซึ่งอยู่ภายในเซลล์ผนังกระเพาะอาหารโดยมีชื่อว่า ‘Gastric parietal cells’ ทำให้การแลกเปลี่ยนไฮโดรเจนไอออน (Hydrogen ion) กับโพแทสเซียมไอออน (Potassium ion) ของ Gastric parietal cell เปลี่ยนแปลงจากเดิม, จึงส่งผลให้การหลั่งกรดของกระเพาะอาหารลดน้อยลงในที่สุด
แลนโซพราโซลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาแลนโซพราโซลมีรูปแบบการจัดจำหน่าย: เช่น
- ยาแคปซูลชนิดรับประทานแบบออกฤทธิ์นาน ขนาด 15 และ 30 มิลลิกรัม/แคปซูล
- ยาเม็ดชนิดรับประทาน ขนาด 15 และ 30 มิลลิกรัม/เม็ด
- ยาฉีด ขนาด 30 มิลลิกรัม
แลนโซพราโซลมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาแลนโซพราโซลมีขนาดรับประทานขึ้นกับชนิดและความรุนแรงของอาการ/ของโรค, ขนาดรับประทานจึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป ตัวอย่าง เช่น
ก. รักษาแผลในกระเพาะอาหาร:
- ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป: เช่น รับประทาน 30 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง ก่อนอาหารเช้าประมาณ 30 นาที เป็นเวลา 4 - 8 สัปดาห์
ข. รักษาแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น:
- ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป: เช่น รับประทาน 15 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้งก่อนอาหารเช้าประมาณ 30 นาที เป็นเวลา 4 สัปดาห์
ค. รักษากรดไหลย้อน: เช่น
- ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป: เช่น รับประทาน 15 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง ก่อนอาหารเช้าประมาณ 30 นาที เป็นเวลา 8 สัปดาห์
ง. รักษาแผลที่หลอดอาหาร:
- ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป: เช่น รับประทาน 30 มิลลิกรัม วันละ 1ครั้ง ก่อนอาหารเช้าประมาณ 30 นาที, กรณีรับประทานยานี้ไม่ได้ให้หยดยานี้เข้าหลอดเลือดดำ 30 มิลลิกรัมโดยใช้เวลาในการให้ยานาน 30 นาทีขึ้นไป เป็นเวลา 8 สัปดาห์
*อนึ่ง: ในเด็ก(นิยามคำว่าเด็ก)และผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี: การจะใช้ยานี้กับผู้ป่วยกลุ่มนี้ให้เป็นไปตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาแลนโซพราโซล ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาแลนโซพราโซลอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆ ที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประ เภทสามารถผ่านทางน้ำนม หรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาแลนโซพราโซลสามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับ การรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดรับประทานเป็น 2 เท่า
อย่างไรก็ตาม เพื่อประสิทธิผลของการรักษา ควรรับประทานยาแลนโซพราโซลตรงเวลา
แลนโซพราโซลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาแลนโซพราโซนสามารถก่อให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย: เช่น
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น มีอาการท้องเสียหรือท้องผูก ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน ตับอ่อนอักเสบ
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น ปวดหัว วิงเวียน การพูดจาไม่ชัดเจน
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น เกิดผื่นคัน
- ผลต่ออวัยวะตับ: เช่น ตับอักเสบ
- ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น เยื่อจมูกอักเสบ ไอ เกิดกลุ่มอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่
- ผลต่อภาวะทางจิต: เช่น มีอาการซึมเศร้า หรือไม่ก็วิตกกังวล
- ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น เกิดภาวะเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ มีภาวะหัวใจล้มเหลว มีความดันโลหิตสูงหรือไม่ก็ต่ำ
มีข้อควรระวังการใช้แลนโซพราโซลอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาแลนโซพราโซล: เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยด้วยโรคตับระยะรุนแรง ผู้ที่มีเกลือแมกนีเซียมในเลือดอยู่ในระดับต่ำ ผู้ที่มีภาวะกระดูกพรุน
- ห้ามใช้ยานี้กับ สตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก และผู้สูงอายุ โดยไม่มีคำสั่งแพทย์
- ห้ามรับประทานยานี้เกินขนาดที่แพทย์สั่ง หรือปรับขนาดรับประทานยานี้ด้วยตนเอง
- ห้ามใช้ยาที่มีสภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
- *หลังการรับประทานยานี้แล้ว พบมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ถ่ายเหลวเป็นน้ำมีเลือดปน เกิดภาวะชัก ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะเป็นเลือด และ/หรือตัวบวม *ต้องรีบพาผู้ป่วยมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน
- *กรณีที่เกิดภาวะเกลือแมกนีเซียมในเลือดต่ำกว่าปกติหลังจากใช้ยานี้ ซึ่งจะสังเกตได้จาก อาการชี้นำ เช่น รู้สึกวิงเวียน สับสน หัวใจเต้นเร็ว มีภาวะตัวสั่น ไอ เป็นตะคริวที่มือและเท้า *ให้หยุดการใช้ยานี้ทันที แล้วรีบพาผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็วทันที/ฉุกเฉิน
- ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคไต
- มาตรวจร่างกาย/มาโรงพยาบาลตามที่แพทย์นัดทุกครั้ง
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ "ยา" ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาแลนโซพราโซลด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
แลนโซพราโซลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาแลนโซพราโซลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น: เช่น
- ห้ามใช้ยาแลนโซพราโซล ร่วมกับยาต้านไวรัส เช่นยา Atazanavir, Nelfinavir, ด้วยฤทธิ์ลดการหลั่งกรดของยาแลนโซพราโซลจะทำให้การดูดซึมของยาต้านไวรัสดังกล่าวลดต่ำลงจนส่งผลต่อการรักษาของผู้ป่วยโรคเอชไอวี
- การใช้ยาแลนโซพราโซล ร่วมกับยา Citalopram อาจทำให้ระดับยา Citalopram ใน กระแสเลือดเพิ่มมากขึ้น จนทำให้ผู้ป่วยได้รับอาการข้างเคียงต่างๆจากยา Citalopram ตามมา กรณีที่จำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลไป
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยาแลนโซพราโซล ร่วมกับยาที่มีธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบ ด้วยจะทำให้การดูดซึมของธาตุเหล็กลดต่ำลง กรณีที่จำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน อาจเว้นระยะเวลาการรับประทานยาทั้ง 2 ชนิดให้ห่างกันอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์/พยาบาล/เภสัชกร
ควรเก็บรักษาแลนโซพราโซลอย่างไร?
ควรเก็บยาแลนโซพราโซล: เช่น
- เก็บยาในช่วงอุณหภูมิ 15 - 30 องศาเซลเซียส (Celsius)
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อน และความชื้น
- ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
แลนโซพราโซลมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาแลนโซพราโซล มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต: เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Prevacid FDT/IV (พรีวาซิด เอฟดีที/ไอวี) | Takeda |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Proton-pump_inhibitor [2022,Dec3]
- https://www.drugs.com/lansoprazole.html [2022,Dec3]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Lansoprazole [2022,Dec3]
- https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/11825309/ [2022,Dec3]
- https://www.drugs.com/drug-interactions/lansoprazole-index.html?filter=3&generic_only= [2022,Dec3]