โปรตอนปั๊มอินฮิบิเตอร์ (Proton pump inhibitors)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 24 เมษายน 2563
- Tweet
- บทนำ
- ยายับยั้งการหลั่งกรดมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
- ยายับยั้งการหลั่งกรดมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ยายับยั้งการหลั่งกรดมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ยายับยั้งการหลั่งกรดมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ยายับยั้งการหลั่งกรดมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ยายับยั้งการหลั่งกรดอย่างไร?
- ยายับยั้งการหลั่งกรดมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษายายับยั้งการหลั่งกรดอย่างไร?
- ยายับยั้งการหลั่งกรดมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- กระเพาะอาหารอักเสบ (Gastritis)
- แผลเปบติค (Peptic ulcer) / แผลในกระเพาะอาหาร (Gastric ulcer)
- กรดไหลย้อน (Gastroesophageal reflux disease)
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีแก๊ส (Abdominal bloating)
- อาหารไม่ย่อย ธาตุพิการ (Indigestion)
- วิธีใช้ ยาลดกรด ยาแก้โรคกระเพาะ (Guide to safe use of antacid)
- โรคติดเชื้อเอชไพโลไร (H.pylori infection)
- ยากดการสร้างกรดของกระเพาะอาหาร (Gastric acid suppression medications)
บทนำ
ยายับยั้งการหลั่งกรดกลุ่มโปรตอนปั๊มอินฮิบิเตอร์ (Proton pump inhibitors ย่อว่า PPI) ซึ่งต่อไปในบทความนี้ขอเรียกว่า “ยายับยั้งการหลั่งกรดฯ” เป็นกลุ่มยาที่ออกฤทธิ์ลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารโดยออกฤทธิ์ได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ยายับยั้งการหลั่งกรดกลุ่มนี้ ถูกนำมารักษาหลายอาการโรค เช่น
- อาหารไม่ย่อย (Dyspepsia)
- แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้/แผลเปบติค (Peptic ulcer disease)
- โรคกรดไหลย้อน (GERD)
- โรคกรดไหลย้อนเข้ากล่องเสียง (Laryngopharyngeal reflux)
- รักษาสภาวะของการเปลี่ยนแปลงของหลอดอาหารส่วนล่าง เนื่องจากการอักเสบเรื้อรังจากการไหลย้อนของกรดในกระเพาะอาหาร (Barrett esophagus)
- โรคหลอดอาหารอักเสบจากเม็ดเลือดขาวชนิดอีโอสิโนฟิล (Eosinophilic esophagitis)
- ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะด้วยภาวะเสี่ยงต่างๆเช่น ได้รับยากลุ่มสเตียรอยด์ ยากลุ่มเอ็นเซด (Stress gastritis prevention)
- รักษาอาการโรคเนื้องอกในตับอ่อนหรือในลำไส้เล็กส่วนต้น ด้วยผลจากการหลั่งกรดในกระ เพาะอาหารออกมากเกินไป (Gastrinoma)
- กลุ่มอาการโรคโซลลิงเจอร์-เอลลิสัน (Zollinger-Ellison syndrome) เป็นภาวะที่ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแกสตริน (Gastrin) เพิ่มขึ้น จนเป็นเหตุกระตุ้นกระเพาะอาหารหลั่งกรดออกมามาก ซึ่งอาจมีสาเหตุจากเนื้องอกบริเวณตับอ่อน
อนึ่ง สำหรับตัวอย่างยากลุ่มยับยั้งการหลั่งกรดกลุ่ม Proton pump inhibitors/PPI
เช่นยา Omeprazole, Lansoprazole, Dexlansoprazole, Esomeprazole, Pantoprazole, Rabeprazole, และ Ilaprazole
บัญชียาหลักแห่งชาติของไทยได้บรรจุยายับยั้งการหลั่งกรดฯหลายตัวที่ถูกบันทึกไว้ และในกลุ่มยาประเภท Proton pump inhibitors มี Omeprazole และ Pantoprazole ร่วมอยู่ด้วย
การเลือกใช้ยาตัวใดในการรักษาอาการโรคต่างๆดังกล่าว ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ ด้วยศักยภาพของยาแต่ละตัวที่แตกต่างกันออกไป และยังมีข้อห้ามใช้ ผลข้างเคียงของยา ซึ่งเป็นรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย อีกทั้งระยะเวลาในการใช้ยาที่ต้องสัมพันธ์กับอาการโรค และเป็นการยากที่ผู้ป่วยจะสรุปด้วยตนเองว่าอาการโรคดีขึ้นหรือหายป่วยแล้วจากการรับประทานยาเพียงพอจริงๆหรือไม่
ยายับยั้งการหลั่งกรดมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
ยายับยั้งการหลั่งกรดฯมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- รักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ (แผลเปบติค) รวมถึงภาวะอาหารไม่ย่อย
- รักษาภาวะกรดไหลย้อน และภาวะต่างๆที่มีกรดหลั่งออกมามากผิดปกติดังได้กล่าวในหัวข้อบทนำ
- ใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะในการรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหาร กรณีมีการติดเชื้อ Helicobac tor pylori (โรคติดเชื้อเอชไพโรไล)
ยายับยั้งการหลั่งกรดมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธ์ของยายับยั้งการหลั่งกรดฯคือ ตัวยาจะเข้ายับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ชื่อว่า Hydrogen/potassium adenosine triphosphatase (เอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างกรดของกระเพาะอาหาร) ซึ่งอยู่ภายในเซลล์กระเพาะอาหารที่มีชื่อว่า Gastric parietal cells ทำให้การแลกเปลี่ยนไฮโดรเจนไอออน กับ โปแตสเซียมไอออน เปลี่ยนแปลงจากเดิม จนทำให้การหลั่งกรดในกระเพาะอาหารลดน้อยลงในที่สุด
ยายับยั้งการหลั่งกรดมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ด้วยตัวยายับยั้งการหลั่งกรดฯมีหลายรายการ อาจสรุปรูปแบบการจัดจำหน่ายในท้องตลาดยาได้ เช่น
- ยาเม็ด ขนาดความแรง 15, 20, 30, และ 40 มิลลิกรัม/เม็ด
- ยาแคปซูล ขนาดความแรง 10, 20, 30, 40, และ 60 มิลลิกรัม/แคปซูล
- ยาน้ำแขวนตะกอน ขนาดความแรง 2.5, 10, 20, และ 40 มิลลิกรัม
- ยาฉีด ขนาดความแรง 40 มิลลิกรัม
ยายับยั้งการหลั่งกรดมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยายับยั้งการหลั่งกรดฯมีหลายรายการ จึงขอกล่าวถึงเฉพาะชนิดยาที่ใช้บ่อย ซึ่งมีขนาดรับประทาน เช่น
ก. อีโซมีพราโซล (Esomeprazole): เช่น
- รักษาแผลในกระเพาะอาหาร: รับประทาน 40 มิลลิกรัมวันละครั้ง 10 วัน
- รักษาอาการ Zollinger-Ellison syndrome: รับประทาน 40 มิลลิกรัมวันละ 2 ครั้ง หากจำเป็นสามารถปรับขนาดรับประทานเป็น 240 มิลลิกรัม/วัน โดยแบ่งรับประทาน
- รักษากรดไหลย้อน: รับประทาน 20 มิลลิกรัมวันละครั้ง 4 สัปดาห์
- รักษาแผลที่หลอดอาหาร: รับประทาน 20 - 40 มิลลิกรัมวันละครั้งเป็นเวลา 4 - 8 สัปดาห์
ข. แลนโซพราโซล (Lansoprazole): เช่น
- รักษาแผลในกระเพาะอาหาร: รับประทาน 30 มิลลิกรัมวันละครั้ง 8 สัปดาห์
- รักษาแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น: รับประทาน 15 มิลลิกรัมวันละครั้ง 4 สัปดาห์
- รักษากรดไหลย้อน: รับประทาน 15 มิลลิกรัมวันละครั้ง 8 สัปดาห์
- รักษาแผลที่หลอดอาหาร: รับประทาน 30 มิลลิกรัมวันละครั้ง 8 สัปดาห์
ค. โอเมพราโซล (Omeprazole): เช่น
- รักษาแผลในกระเพาะอาหาร: รับประทาน 40 มิลลิกรัมวันละครั้ง 4 - 8 สัปดาห์
- รักษาแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น: รับประทาน 20 มิลลิกรัมวันละครั้ง 4 - 8 สัปดาห์
- รักษากรดไหลย้อน: รับประทาน 20 มิลลิกรัมวันละครั้ง 4 สัปดาห์
- รักษาแผลที่หลอดอาหาร: รับประทาน 20 มิลลิกรัมวันละครั้ง 4 - 8 สัปดาห์
- สำหรับการรักษาเชิงป้องกันการเกิดแผลในระบบทางเดินอาหาร: รับประทาน 20 มิลลิกรัมวันละครั้ง 12 เดือน
ง. แพนโทพราโซล (Pantoprazole): เช่น
- รักษากรดไหลย้อน: รับประทาน 40 มิลลิกรัมวันละครั้ง 8 สัปดาห์ ซึ่งอาจต้องรักษาต่ออีก 8 สัปดาห์หากอาการไม่ดีขึ้น
- รักษาภาวะกรดหลั่งออกมามาก: รับประทาน 40 มิลลิกรัมวันละ 2ครั้ง
จ. ราบีพราโซล (Rabeprazole): เช่น
- รักษาแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น: รับประทาน 20 มิลลิกรัมวันละครั้งก่อนอาหารเช้า 4 สัปดาห์
- รักษากรดไหลย้อน: รับประทาน 20 มิลลิกรัมวันละครั้ง 4 - 8 สัปดาห์
- รักษาภาวะกรดหลั่งออกมามาก: รับประทาน 60 มิลลิกรัมวันละครั้ง อาจปรับขนาดรับประทานสูงสุดถึง 100 มิลลิกรัมวันละครั้ง หรือ 60 มิลลิกรัมวันละ 2 ครั้ง ตามความจำเป็น
อนึ่ง:
- การใช้ยา/ขนาดยา ดังกล่าว เป็นตัวอย่างการใช้ยาในผู้ใหญ่
- *การรับประทานยายับยั้งการหลั่งกรดกลุ่มนี้ มีทั้งรับประทานก่อนอาหาร พร้อมอาหาร หรือหลังอาหาร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของยาแต่ละตัว ก่อนใช้ยาจึงควรอ่านฉลากยาให้ถูกต้อง
- เด็ก: การใช้ยานี้ ขนาดยานี้ในเด็ก อยู่ในดุลพินิจของแพทย์เป็นกรณีไป
*****หมายเหตุ: ขนาดยา และระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ผู้รักษาได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษา แพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงกลุ่มยายับยั้งการหลั่งกรดฯ ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยายับยั้งการหลั่งกรดอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยายับยั้งการหลั่งกรดฯ สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียง กับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
ยายับยั้งการหลั่งกรดมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
กลุ่มยายับยั้งการหลั่งกรดฯ สามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) เช่น
- ทำให้การย่อยอาหารกลุ่มโปรตีนน้อยลง จนอาจก่อให้เกิดการแพ้อาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่รับประทานเข้าไปได้
- สามารถกระตุ้นให้ร่างกายมีอาการแพ้ยาต่างๆได้
- การใช้ยากลุ่มนี้กับหญิงตั้งครรภ์: อาจก่อให้เกิด
- โรคหืดในทารกที่เกิด
- และทำให้ร่างกายผู้ใช้ยานี้ขาดสารอาหาร เช่น วิตามินบี12, ธาตุแมกนีเซียม, ธาตุแคลเซียม และธาตุเหล็ก เป็นต้น
- ผลข้างเคียงในระยะสั้นอื่นๆ เช่น
- คลื่นไส้-อาเจียน
- ปวดท้อง
- อ่อนเพลีย
- วิงเวียน
- ผื่นคัน
- ท้องอืด
- ท้องผูก
- วิตกกังวล
- ซึมเศร้า
- ส่วนผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ในระยะยาว เช่น
- ภาวะไตอักเสบเฉียบพลัน จนถึงไตอักเสบเรื้อรัง และอาจเป็นโรคไตเรื้อรังในที่สุด
- นอกจากนี้ยังพบว่า การใช้ยานี้ต่อเนื่องเกิน 1 ปีขึ้นไป อาจก่อให้เกิดภาวะ/โรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย
มีข้อควรระวังการใช้ยายับยั้งการหลั่งกรดอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยายับยั้งการหลั่งกรดฯ เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยาในกลุ่มยายับยั้งการหลั่งกรด
- ระวังการใช้ยากลุ่มนี้กับผู้ป่วยด้วยโรคตับระยะรุนแรง
- การใช้ยากลุ่มนี้กับสตรีตั้งครรภ์ต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์เท่านั้น ด้วยยาในกลุ่มนี้มีทั้งตัวยาที่ไม่เหมาะสมกับสตรีตั้งครรภ์ และบางตัวอยู่ในฐานะที่ใช้ได้ในระยะสั้นๆ
- ไม่แนะนำให้ใช้ยากลุ่มนี้ในสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยายับยั้งการหลั่งกรดประเภท Proton pump inhibitors ด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด เสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ยายับยั้งการหลั่งกรดมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยายับยั้งการหลั่งกรดฯมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยากลุ่มนี้ร่วมกับยาต้านเชื้อรา เช่นยา Griseofulvin , Ketoconazole, Itraconazole จะทำให้การดูดซึมของยาต้านเชื้อราลดลง หากไม่มีความจำเป็นใดๆควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- การใช้ยากลุ่มนี้ร่วมกับยากลุ่มวิตามินและเกลือแร่ เช่น วิตามินบี12 ,ยาเสริมธาตุเหล็ก, จะทำให้การดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุดังกล่าวลดลง ควรหลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกัน
- การใช้ยากลุ่มนี้ร่วมกับยากันชักยาต้านชัก เช่นยา Carbamazepine หรือยาบรรเทาอาการวิตกกังวล/ยาคลายเครียด เช่นยา Diazepam จะทำให้ระดับยาทั้ง 2 กลุ่มอยู่ในร่างกายผู้ป่วยได้ยาวนานขึ้น แพทย์จะปรับขนาดการรับประทานให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลไป
ควรเก็บรักษายายับยั้งการหลั่งกรดอย่างไร?
ควรเก็บยายับยั้งการหลั่งกรดฯ เช่น
- เก็บยาที่อุณหภูมิ 15 – 30 องศาเซลเซียส (Celsius)
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- และไม่ควรเก็บยาในห้องน้ำ
ยายับยั้งการหลั่งกรดมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยายับยั้งการหลั่งกรดฯ มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Desec (เดเส็ก) | T.O. Chemicals |
Dosate (โดเสท) | Pharmasant Lab |
Duosolin (ดูโอโซลิน) | Pond’s Chemical |
Eucid (ยูซิด) | Greater Pharma |
Gaster (แก๊สเตอร์) | Unison |
Losec MUPS (โลเส็ก มัพส์) | AstraZeneca |
Miracid (ไมราสิด) | Berlin Pharm |
Mosec (โมเส็ก) | P P Lab |
Omeprazole GPO (โอเมพราโซล จีพีโอ) | GPO |
Omesec Capsule (โอเมเส็ก แคปซูล) | The United Drug (1996) |
Omezol (โอเมซอล) | Standard Chem & Pharm |
Omezole (โอเมโซล) | Millimed |
Opramed (โอพราเมด) | Charoon Bhesaj |
O-Sid (โอ-สิด) | Siam Bheasach |
Ulpracid (อัลพราสิด) | Polipharm |
Zefxon (เซฟซอน) | Biolab |
Zigacap (ซิกาแคป) | Bangkok Lab & Cosmetic |
Prevacid FDT/IV (พรีวาซิด เอฟดีที/ไอวี) | Takeda |
Dexilant (เด็กซิแลนท์) | Takeda |
Nexium (เน็กเซียม) | AstraZeneca |
Controloc (คอนโทรล็อก) | Takeda |
Pantocid (แพนโทสิด) | Sun Pharma |
Pantoprazol Sandoz (แพนโทพราโซล แซนดอซ) | Sandoz |
Pantoprol (แพนท็อปโรล) | Sinensix Pharma |
Stripole (สไตรโพล) | Gufic Stridden |
Pariet (พาริเอ็ท) | Eisai |
บรรณานุกรม
1 http://en.wikipedia.org/wiki/Proton-pump_inhibitor [2020,April18]
2 http://en.wikipedia.org/wiki/Discovery_and_development_of_proton_pump_inhibitors [2020,April18]
3 http://www.medicinenet.com/proton-pump_inhibitors/article.htm#tocc [2020,April18]
4 http://www.globalrph.com/proton_pump_inhibitors.htm [2020,April18]
5 http://www.medscape.com/viewarticle/804146_2 [2020,April18]
6 http://www.medicinenet.com/proton-pump_inhibitors/article.htm [2020,April18]
7 http://www.aafp.org/afp/2002/0715/p273.html [2020,April18]
8 http://www.mims.com/Thailand/drug/search/?q=omeprazole [2020,April18]
9 http://www.mims.com/Thailand/drug/search/?q=pantoprazole [2020,April18]
10 http://www.mims.com/Captcha/DefaultCaptcha?returnUrl=http%3a%2f%2fwww.mims.com%2fThailand%2fdrug%2finfo%2fprevacid%2520fdt-iv%2f%3ftype%3dbrief [2020,April18]
11 http://www.medicinenet.com/pantoprazole/article.htm [2020,April18]
12 http://www.medicinenet.com/omeprazole/article.htm [2020,April18]
13 http://www.medicinenet.com/esomeprazole/article.htm [2020,April18]