วัคซีนฮิบ (Haemophilus b vaccine: Hib Vaccine)

สารบัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

บทนำ:คือวัคซีนอะไร?

 วัคซีนฮิบ (Hib Vaccine)คือ วัคซีนที่ใช้ป้องกันการติดเชื้อ Haemophilus influenzae type b (ย่อว่า’ฮิป/Hib’), เชื้อฮิปเป็นกลุ่มแบคทีเรียที่สามารถอาศัยอยู่ในโพรงจมูกและลำคอของคนที่มีสุขภาพดีโดยไม่ก่อให้เกิดอาการใดๆ,  แบคทีเรียฮิบจะแพร่กระจายในลักษณะคล้ายกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยเชื้อฮิบจะผ่านไปกับละอองของเหลวจากการไอและจามของมนุษย์, การติดเชื้อฮิบในทารกและเด็กเล็กสามารทำให้เกิดโรคปอดบวม,  กล่องเสียงอักเสบ, หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ได้อย่างง่ายดาย, ดังนั้นปัจจุบันจึงใช้เป็นหนึ่งในวัคซีนทางเลือกโดยเฉพาะในเด็กที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อฮิบ   

เชื้อฮิบ เป็นแบคทีเรียที่มีเปลือกหรือแคปซูลห่อหุ้มตัว  บนเปลือก/แคปซูลจะมีโครงสร้างของสารโพลีแซ็กคาไรด์เป็นส่วนประกอบหลัก  นักวิทยาศาสตร์ตรวจพบว่าบนแคปซูลของเชื้อHib ยังมีสารที่เรียกว่า พอลิไรโบซิล ไรบิทอล ฟอสเฟต(PRP) นักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งสมมติฐานว่าแอนติบอดี/สารภูมิต้านทานที่มีฤทธิ์ต่อต้านสารPRP  น่าจะป้องกันการติดเชื้อฮิบได้ 

จากการวิจัยทำให้นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาวัคซีนฮิบออกมา 3 แบบ ดังนี้

1. วัคซีนชนิดโพลีแซ็กคาไรด์: เป็นวัคซีนฮิบตัวแรกที่ได้รับอนุมัติให้วางตลาด ครั้งแรกในปีพ.ศ.2528  โดยมีกลไกการทำงานคล้ายวัคซีนโพลีแซ็กคาไรด์ชนิดอื่น แต่พบว่าการตอบสนองของภูมิคุ้มกันของเด็กทารกที่อายุต่ำกว่า18 เดือนไม่ดีพอ ทำให้วัคซีนชนิดโพลีแซ็กคาไรด์ถูกถอนออกจากตลาดในเวลาต่อมา(พ.ศ.2531)

2. วัคซีนคอนจูเกต: ด้วยข้อบกพร่องของวัคซีนชนิดโพลีแซ็กคาไรด์ส่งผลให้นักวิทยาศาสตร์หาหนทางพัฒนาวัคซีนแบบคอนจูเกตโดยเพิ่มโปรตีนจากเชื้อก่อโรคบางชนิดลงบนโพลีแซ็กคาไรด์ของเชื้อฮิบ โปรตีนดังกล่าวช่วยเพิ่มความสามารถในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของเด็กเล็กได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันวัคซีนคอนจูเกตยังแบ่งเป็น3 ประเภทโดยใช้โปรตีนพาหะจากเชื้อก่อโรคที่แตกต่างกันเป็นตัวกำหนด เช่น  โปรตีนจาก’สารชีวพิษเชื่อง(Toxiod/ทอกซอยด์)’ของเชื้อบาดทะยัก,  โปรตีนจากเชื้อคอตีบกลายพันธุ์, และโปรตีนจากเชื้อก่อโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น

3. วัคซีนรวม: โดยนำวัคซีนฮิบผสมร่วมกับ ‘วัคซีนคอตีบ-วัคซีนบาดทะยักชนิด ท็อกซอยด์-วัคซีนไอกรน-วัคซีนโปลิโอ-และวัคซีนตับอักเสบบี’,  องค์การอนามัยโลก(WHO)ได้รับรองการผสมผสานวัคซีนฮิบดังกล่าว และนำมาใช้กับประเทศที่กำลังพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน                              

ข้อจำกัดประการหนึ่งของวัคซีนฮิบ คือ “ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ Haemophilus influenzae ชนิดอื่น, นอกจาก ‘type b’ เท่านั้น ”  

อนึ่ง: ทางการแพทย์กำหนดการฉีดวัคซีนฮิบเข้าทางกล้ามเนื้อบริเวณต้นขาของ’เด็กทารก’ ดังนี้:

  • เข็มแรกฉีดที่อายุ 2 เดือน, เข็มที่2 ฉีดอายุเข้า 4 เดือน,  เข็มที่3 ฉีดที่อายุ 6 เดือน
  • หากจำเป็น สามารถฉีดกระตุ้นอีกครั้งเมื่อทารกมีอายุ 12-15 เดือนโดยเป็นไปตามความเห็นของแพทย์

 หมายเหตุ: หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนฮิบ อาจมีอาการปวดบริเวณที่ฉีด หรือ มีไข้  

วัคซีนฮิบที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน มีทั้งรูปแบบวัคซีนเดี่ยว เช่น ActHIB ,  Hiberix,  และVaxem-Hib,  ส่วนวัคซีนฮิบแบบรวมที่ประกอบด้วยวัคซีนชนิดอื่น เช่น วัคซีนโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน โปลิโอ และโรคไวรัสตับอักเสบบี สามารพบเห็นในตลาดยา อาทิเช่น INFANRIX-IPV/Hib , INFANRIX Hexa , PEDIACEL , PENTAXIM และ Quinvaxem,  เป็นต้น

 ทั่วไป ทารกที่ได้รับวัคซีนฮิบเข็มที่ 2 หรือ 3  มักจะสร้างภูมิคุ้มกันได้มากกว่า95%, แม้ภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการกระตุ้นของวัคซีนฮิบจะอยู่กับร่างกายได้ยาวนานก็จริง,  แต่ทางการแพทย์ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าภูมิคุ้มกันดังกล่าวจะอยู่กับร่างกายไปตลอดชีวิตหรือไม่

วัคซีนฮิบมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)/ข้อบ่งใช้อย่างไร?

วัคซีนฮิบใช้ป้องกันการติดเชื้อฮิบ (Haemophilus influenzae type b) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรค เยื่อหุ้มสมองอักเสบ, ปอดบวม,  กล่องเสียงอักเสบ, เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ, ข้ออักเสบติดเชื้อ,  กระดูกอักเสบ,  เยื่อบุหัวใจอักเสบ,  และเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ,  ซึ่งทางการแพทย์แนะนำใช้ ’วัคซีนฮิบกับเด็ก’ที่มี ‘ช่วงอายุ 2-59 เดือน’

วัคซีนฮิบมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

 Hib เป็นแบคทีเรียที่มีเปลือกหุ้ม(Polysaccharide capsule) วัคซีนฮิบจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ผลิตแอนติบอดี/สารภูมิต้านทาน ที่มีความจำเพาะในการจับกับเปลือกหุ้มของเชื้อฮิบ  ทำให้แอนติบอดีดังกล่าวเข้าไปทำลายโครงสร้างของเชื้อฮิบจน  เป็นเหตุให้เชื้อดังกล่าวไม่สามารถดำรงชีวิตได้อีกต่อไป

วัคซีนฮิบมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

รูปแบบจำหน่ายของวัคซีนฮิบ:

  • วัคซีนเดี่ยวที่มีองค์ประกอบของเชื้อตาย(Hib capsular polysaccharide): ลักษณะเป็นผงแห้ง ขนาดบรรจุ 0.5 มิลลิลิตร, ชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อ, และมีสารละลายโซเดียมคลอไรด์เป็นตัวทำละลาย
  • วัคซีนรวมกับ วัคซีนคอตีบ วัคซีนบาดทะยักท็อกซอยด์  วัคซีนไอกรน  วัคซีนตับอักเสบบี   วัคซีนโปลิโอ

วัคซีนฮิบมีขนาดการใช้อย่างไร?

ขนาดการใช้วัคซีนฮิบ:

  • วัคซีนเดี่ยวฉีดเข้ากล้ามเนื้อที่ช่วงอายุ 2, 4และ 6 เดือน, สามารถกระตุ้นอีกหนึ่งเข็มที่อายุ 15 ถึง 18 เดือน อาจให้วัคซีนฮิบในทารกที่มีอายุ 6 สัปดาห์ ขึ้นไปโดยเป็นไปตามคำสั่งแพทย์
  • วัคซีนฮิบชนิดรวม ให้ฉีดตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในเอกสารกำกับยาของ ผลิตภัณฑ์

         ***หมายเหตุ:     

  • ห้ามใช้วัคซีนฮิบกับทารกมี่มีอายุน้อยกว่า 6 สัปดาห์
  • ****ขนาดและระยะเวลาในการใช้วัคซีนที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียง      ตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น  ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งการใช้วัคซีนของแพทย์ได้,  การใช้วัคซีนหรือยาใดๆสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งฉีดวัคซีนควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งฉีดวัคซีนทุกชนิดที่รวมถึงวัคซีนฮิบ  ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร เช่น

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำลาก/หอบเหนื่อย
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคเลือด, โรคมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง, รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่เพราะวัคซีนฮิบอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นๆที่รับประทานอยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ใน’ภาวะตั้งครรภ์’ หรือ ‘กำลังให้นมบุตร’ เพราะยา/วัคซีนหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมฉีดวัคซีนฮิบควรทำอย่างไร?

กรณีลืมมารับการฉีดวัคซีนตามนัดหมาย สามารถติดต่อสถานพยาบาลหรือคลินิก เพื่อทำการนัดหมายวันรับการฉีดวัคซีนใหม่

วัคซีนฮิบมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

 วัคซีนฮิบสามารถก่อให้เกิดอาการข้างเคียง/ผลข้างเคียง/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาต่อระบบต่างๆของร่างกาย เช่น

  • ผลต่อระบบประสาท: เช่น มีไข้  ง่วงนอน
  • ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้ 
  • ผลต่อผิวหนัง: เช่น ระคายเคือง ปวด/เจ็บ บวม แดงเล็กน้อย บริเวณที่ฉีดวัคซีน

มีข้อควรระวังการใช้วัคซีนฮิบย่างไร?

ข้อควรระวังการใช้วัคซีนฮิบ: เช่น             

  • ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้วัคซีนชนิดนี้
  • ห้ามใช้กับสตรีมีครรภ์, สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร,  เด็ก, และผู้สูงอายุ, โดยไม่ได้รับคำสั่งจากแพทย์
  • ห้ามปรับขนาดการใช้วัคซีนโดยไม่มีคำสั่งแพทย์
  • ห้ามใช้วัคซีนที่หมดอายุแล้ว
  • ศึกษาเรื่อง ขนาดการฉีดวัคซีน, ผลข้างเคียง, ข้อห้าม, ข้อควรระวัง, ด้วยความ เข้าใจ
  • ผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน อาจทำให้ร่างกายไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้นของวัคซีนฮิบ
  • กรณีพบอาการแพ้วัคซีนฯ เช่น มีผื่นคันขึ้นเต็มตัว,  หายใจไม่ออก/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย,  ตัวบวม, ต้องรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที
  • แจ้งแพทย์ถึงประวัติ โรคประจำตัว, และมียาชนิดใดที่ใช้อยู่บ้างโดยละเอียด, ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนทุกครั้ง
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • และควรมาพบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง

         ***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมวัคซีนฮิบด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด  อาหารเสริม, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, และสมุนไพรต่างๆ เพราะยา/วัคซีนมีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยา/วัคซีนทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.comบทความเรื่อง ‘ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด)’ รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ

วัคซีนฮิบมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ทางคลินิก การใช้วัคซีนฮิบ’ชนิดเดี่ยว’ร่วมกับ’วัคซีน’ป้องกัน ’โรคหัด, คางทูม, หัดเยอรมัน, หรือ โรคไวรัสตับอักเสบบี,’ ไม่ส่งผลกระทบต่อการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของวัคซีนแต่ละชนิด,  เพียงแต่การฉีดวัคซีนเดี่ยวมากกว่าหนึ่งชนิดควรเปลี่ยนตำแหน่งฉีดบนร่างกาย, ห้ามฉีดวัคซีนซ้ำในบริเวณเดิม

การใช้วัคซีนฮิบร่วมกับยาประเภท แอนติเมทาโบไลท์(Antimetabolites), Alkylating agents, Cytotoxic drugs  , Corticosteroids, รวมถึงรังสีรักษาสามารถทำให้การตอบสนองของร่างกายต่อวัคซีนลดลง

ควรเก็บรักษาวัคซีนฮิบอย่างไร?

ควรเก็บรักษาวัคซีนฮิบ: เช่น

  • เก็บวัคซีนภายใต้อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส(C)               
  • ห้ามเก็บวัคซีนในช่องแช่แข็งตู้เย็น
  • ห้ามใช้วัคซีนที่เปิดใช้แล้วเกิน 24 ชั่วโมง
  • เก็บวัคซีนในที่มิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อน และความชื้น          
  • ไม่เก็บวัคซีนในห้องน้ำหรือในรถยนต์                                                  
  • เก็บวัคซีนให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง                                    
  • ไม่ทิ้งวัคซีนที่หมดอายุลงบนพื้นดินและแม่น้ำคูคลองตามธรรมชาติ
  • ไม่เก็บวัคซีนที่หมดอายุ

วัคซีนฮิบมีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

 วัคซีนฮิบมีชื่อการค้าและบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น

ชื่อการค้า  บริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย   
ActHIB (แอกฮิบ) Sanofi Pasteur
Hiberix (ไฮเบอริกซ์) GlaxoSmithKline
Vaxem-Hib (วาเซ็มฮิบ) Biogenetech Co., Ltd.       
INFANRIX-IPV/Hib (อินแฟนริกซ์-ไอพีวี/ฮิบ) GlaxoSmithKline
INFANRIX Hexa (อินแฟนริกซ์ เฮกซา) GlaxoSmithKline
PEDIACEL (พิไดอะเซล) Sanofi pasteur
PENTAXIM (เพนตาซิม) Sanofi pasteur
QUINVAXEM (ควินวาเซ็ม)    Biogenetech Co., Ltd.

 

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Hib_vaccine [2022,June11]
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Haemophilus_influenzae [2022,June11]
  3. https://www.drugs.com/cg/hib-vaccine.html [2022,June11]
  4. https://www.fda.moph.go.th/sites/drug/Shared%20Documents/Vaccine/U1DR1C1062410028811C-SPC.pdf [2022,June11]
  5. https://www.drugs.com/monograph/haemophilus-b-vaccine.html#patient-advice [2022,June11]
  6. https://www.cdc.gov/vaccines/vpd/hib/hcp/about-vaccine.html [2022,June11]
  7. https://www.pdr.net/drug-summary/Hiberix-haemophilus-b-conjugate-vaccine--tetanus-toxoid-conjugate--1312 [2022,June11]
  8. https://en.wikipedia.org/wiki/Hib_vaccine#Mechanisms_of_action [2022,June11]
  9. https://www.fda.gov/media/74395/download [2022,June11]
  10. https://www.fda.gov/files/vaccines,%20blood%20&%20biologics/published/Package-Insert---HIBERIX.pdf
  11. https://pidst.or.th/userfiles/33_%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AE%E0%B8%B4%E0%B8%9A.pdf [2022,June11]
  12. https://www.fda.moph.go.th/sites/drug/Summary/1C_128_44_N_Vaxem-Hib.pdf [2022,June11]
  13. https://ca.gsk.com/media/6248/infanrix-ipv-hib.pdf [2022,June11]
  14. https://www.fda.moph.go.th/sites/drug/Shared%20Documents/Vaccine/U1DR2C1062450001611C-SPC.pdf [2022,June11]
  15. https://pdf.hres.ca/dpd_pm/00015723.PDF [2022,June11]
  16. https://www.fda.moph.go.th/sites/drug/Shared%20Documents/Vaccine/U1DR2C1062470002211C-SPC.pdf [2022,June11]
  17. https://www.fda.moph.go.th/sites/drug/Summary/2C_4_52_NBC_QUINVAXEM%20pdf [2022,June11]
  18. http://nvi.go.th/index.php/vaccine-knowledge/optional-vaccine [2022,June11]