ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำ (Fixed Drug Eruption)
- โดย พญ. ธนัฐนุช วงศ์ชินศรี
- 19 ธันวาคม 2564
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ: คือโรคอะไร? พบบ่อยไหม?
- อะไรเป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำ?
- ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำติดต่ออย่างไร?
- ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำมีอาการอย่างไร?
- แพทย์วินิจฉัยผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำได้อย่างไร?
- ควรพบแพทย์เมื่อไหร่?
- รักษาและป้องกันผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำได้อย่างไร?
- ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
- ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำก่อผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
- ดูแลตนเองอย่างไร?
- ป้องกันผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำได้อย่างไร?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- โรคผิวหนัง (Skin disorder)
- ผิวหนัง (Human skin)
- ลมพิษ (Urticaria)
- ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- สะตีเวนส์จอห์นสัน (Stevens-Johnson syndrome)
- ครีมกันแดด (Sunscreen)
- รอยดำหลังผิวหนังอักเสบ (Post inflammatory hyperpigmentation)
- อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (Adverse Drug Reaction)
บทนำ: คือโรคอะไร? พบบ่อยไหม?
ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำ(Fixed drug eruption) คือ ผื่นแบบหนึ่งที่เกิดจากการแพ้ยา มีลักษณะเฉพาะคือ ‘ผื่นจะขึ้นในตำแหน่งเดิมเมื่อมีการได้รับยาชนิดนั้นๆอีก’ ซึ่งผื่นแพ้ยาชนิดนี้พบได้บ่อยประมาณ 20% ของผื่นที่เกิดจากการแพ้ยาทั้งหมด พบผื่นนี้ได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชายโดยจะพบในเพศหญิงได้มากกว่าเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าพบผื่นแพ้ยาชนิดนี้ได้ในเกือบทุกช่วงอายุ
การแพ้ยา เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง เนื่องจากการรักษาโรคต่างๆจำเป็นต้องอาศัยยาเป็นส่วนประกอบการรักษาที่สำคัญ การแพ้ยานั้นมีความหลากหลายในอาการแสดงตั้งแต่มีผื่นขึ้นตามผิวหนังจนไปถึงเกิดอาการตีบตันของทางเดินหายใจจนทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว
อาการแสดงทางผิวหนังของการแพ้ยาก็มีความหลากหลายเช่นกัน เป็นได้ตั้งแต่ผื่น ลมพิษ ผื่นแดงกระจายทั่วๆตัว ตุ่มน้ำ หรือเกิดการที่ผิวหนังลอกและเกิดการตายของผิวหนังเป็นบริเวณกว้าง การจะวินิจฉัยผื่นแพ้ยาจึงต้องอาศัยข้อมูลหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นประวัติการใช้ยา ลำดับเวลาความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องของผื่นและการได้รับยา อัตราความชุกของการเกิดการแพ้ในยาชนิดต่างๆของผู้ป่วย ลักษณะผื่น อาการร่วมอื่นๆ บางครั้งอาจจำเป็นที่จะต้องมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการต่างๆเพิ่มเติม
การวินิจฉัยว่าผู้ป่วยรายนั้นๆมีการแพ้ยาหรือไม่ แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากในอนาคตผู้ป่วยจะได้ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงยาที่แพ้ได้
อนึ่ง: ผื่นแพ้ยาชนิด “Fixed drug eruption” ไม่ได้มีชื่อภาษาไทยโดยตรง แต่ถ้าแปลตามศัพท์ภาษาอังกฤษจะได้ความหมายว่า “ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำ”
อะไรเป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำ?
สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำ คือ การได้รับยาที่แพ้ ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำเป็นปฏิกิริยาการแพ้ยาแบบหนึ่ง แต่สาเหตุที่ผื่นขึ้นบริเวณเดิมซ้ำๆเมื่อใช้ยานั้นซ้ำอีกยังไม่ทราบแน่ชัด
ยาที่มักพบทำให้เกิดผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำ เช่น ยากลุ่มยาแก้ปวด, ยานอนหลับ, ยากันชัก, ยาปฏิชีวนะ, โดยยาที่พบทำให้เกิดผื่นแพ้ยาชนิดนี้มากที่สุดคือ ยาปฏิชีวนะกลุ่มซัลฟา
ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำติดต่ออย่างไร?
ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อทางใดรวมถึงการสัมผัส คลุกคลีหรือการใช้ของร่วมกัน
ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำมีอาการอย่างไร?
ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำจะมีอาการ/ลักษณะกลมๆรีๆ ขอบผื่นชัดเจนโดยทั่วไปขนาดประมาณ 0.5 - 5 เซนติเมตร (ซม.) ช่วงแรกจะมีสีแดงๆบวมๆ บางทีอาจเป็นตุ่มน้ำนำมาก่อน หรือบางครั้งอาจมีเนื้อตายอยู่ตรงกลางวงผื่น เมื่อผื่นเริ่มหายจะค่อยๆเปลี่ยนสีเป็นม่วงๆน้ำตาลคล้ำๆ และจะค่อยๆจางไปเมื่อไม่ได้สัมผัสยานั้นอีก อาจมีอาการคัน แสบร้อน หรือเจ็บบริเวณผื่นได้
อาการร่วมต่างๆที่อาจพบได้เช่น มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้อาเจียน ปวดเกร็ง/ปวดบีบช่องท้อง โดยอาการเหล่านี้อาจพบได้แต่ไม่บ่อย
หลังจากได้รับยาที่แพ้ ผื่นจะขึ้นในเวลาประมาณ 30 นาทีถึง 16 ชั่วโมง โดยการได้รับยาครั้งแรกอาจใช้เวลานานถึง 2 สัปดาห์กว่าผื่นจะขึ้น ผื่นที่เกิดจากการแพ้ยาฯครั้งแรกมักเป็นผื่นเดียวเดี่ยวๆหรือมีไม่กี่อัน แต่ในการใช้ยาครั้งต่อๆไปนอกจากผื่นจะขึ้นที่ตำแหน่งเดิมๆแล้ว ผื่นอาจจะขึ้นในที่ใหม่ด้วยโดยจะเพิ่มความเข้ม สี ขนาด และจำนวนผื่น
ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำสามารถพบได้ที่ผิวหนังทุกบริเวณของร่างกาย แต่ที่พบบ่อย ได้แก่ อวัยวะสืบพันธุ์ รอบทวารหนัก มือ เท้า รอบปาก นอกจากนี้ยังสามารถพบได้ในเนื้อเยื่อบุช่องปาก
แพทย์วินิจฉัยผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำได้อย่างไร?
การวินิจฉัยผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำ แพทย์วินิจฉัยได้โดย
- อาศัยประวัติการใช้ยาต่างๆ
- ความสัมพันธ์ของการได้รับยากับการขึ้นของผื่น
- และลักษณะของผื่นเป็นหลัก
- แต่ในบางครั้ง แพทย์อาจ
- ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- รวมถึงการตัดชิ้นเนื้อตรงรอยโรคเพื่อการตรวจวินิจฉัยทางพยาธิวิทยาหากมีความสงสัยหรือต้องการวินิจฉัยแยกโรคผิวหนังชนิดอื่นๆ เช่น โรคผื่นในโรคลูปัส-โรค เอสแอลอี ชนิดดิสคอยด์ (Discoid Lupus Erythematosus), โรคสะเก็ดเงิน, และผื่นผิวหนังอีกหลายชนิดที่อาจมีรอยโรคคล้ายกันได้
ควรพบแพทย์เมื่อไหร่?
เมื่อมีผื่นขึ้นและผื่นไม่ดีขึ้นหรือผื่นแย่ลงหลังการดูแลตนเองใน 1 - 2 วัน หรือผื่นขึ้นรุน แรงตั้งแต่แรก ควรรีบไปพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลไม่ควรทิ้งไว้จนผื่นลุกลาม
รักษาและป้องกันผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำได้อย่างไร?
การรักษาหลักในผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำคือ
- การรักษาเพื่อที่จะทำให้ผื่นหายโดยการหยุดยาที่เป็นต้นเหตุ
- นอกจากนั้นจะเป็นการรักษาตามอาการ เช่น
- การให้ยาสเตียรอยด์ทาบริเวณผื่น ร่วมกับให้ยาแก้แพ้ (Antihistamine drug)
- ในกรณีที่มีตุ่มน้ำ ไม่ควรเจาะทำลายตุ่มน้ำเพราะจะเพิ่มโอกาสการติดเชื้อแบคทีเรีย
- แต่หากตุ่มน้ำมีการแตกทำลายแล้วหรือมีแผลเนื้อตาย ให้ดูแลรักษาแผลให้สะอาด ทาแผลด้วยยาปฏิชีวนะชนิดทาแผล
- หากมีการติดเชื้อที่แผล แพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะชนิดรับประทานร่วมด้วย
ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำมีการพยากรณ์โรคที่ดี มักหายเมื่อหยุดยาที่เป็นสาเหตุ แต่เมื่อผื่นหายมักพบรอยดำเหลือได้บ่อย โดยทั่วไปรอยดำอาศัยเวลานานประมาณ 6 - 12 เดือนกว่าที่จะจางหายไป การดูแลรักษารอยดำสามารถทำได้โดยการทาครีมกันแดดร่วมกับทายากลุ่มลดรอยดำเช่น ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone), กรดเรติโนอิก (Retinoic acid), กรดอะเซเลอิค (Azeleic acid) ทั้งนี้ อ่านเพิ่มเติมเรื่อง รอยดำหลังผิวหนังอักเสบ ได้ในเว็บ haamor.com
ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำก่อผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
ผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้ นอกจากนี้หากผื่นมีอาการแย่ลงหรือมีอาการร่วมอื่นๆที่รุนแรงเช่น มีไข้สูง ควรกลับไปพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล เพราะในบางครั้งการแพ้ยาแบบที่รุนแรงกว่านี้อาจมีรอยโรคเริ่มต้นที่มีลักษณะคล้ายผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำได้
ดูแลตนเองอย่างไร?
เมื่อเป็นผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำ การดูแลตัวเองคือ
- หยุดยาที่แพ้และควรทราบว่ายาที่แพ้ชื่อว่าอะไร และมียากลุ่มไหนบ้างที่อาจจะเกิด ปฏิกริยาการแพ้ข้ามกลุ่ม/Cross reaction (เช่น ผู้ที่แพ้ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Penicillin ก็อาจแพ้ยาปฏิชีวนะอื่นๆในกลุ่มยา Beta lactam ได้) เพื่อที่จะสามารถหลีกเลี่ยงยาที่มีโอกาสแพ้ได้ถูกต้อง
- รักษาความสะอาดบริเวณผื่น กรณีไม่มีแผลสามารถอาบน้ำได้ตามปกติ ใช้สบู่ที่ระคายเคืองน้อยต่อผิว (เช่น สบู่เด็กอ่อน) รีบซับผื่นให้แห้งด้วยผ้าเช็ดตัวที่นุ่มสะอาด แต่หากกรณีมีแผลควรสอบถามแพทย์ผู้รักษาเกี่ยวกับวิธีดูแลแผล จะได้การดูแลแผลที่เหมาะสมเป็นกรณีๆไป
- ห้ามแกะเกาบริเวณรอยโรคเพราะจะทำให้รอยโรคแย่ลงและเพิ่มโอกาสการติดเชื้อ แบคทีเรีย
- หากผื่นมีอาการแย่ลงเช่น ลุกลาม เจ็บปวดบริเวณแผล/ผื่นมากขึ้น ควรกลับไปพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลก่อนนัด
ป้องกันผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำได้อย่างไร?
การป้องกันผื่นแพ้ยาชนิดขึ้นที่ประจำคือ ผู้ป่วยควรทราบว่ายาที่แพ้ชื่อว่าอะไร และมียา กลุ่มไหนบ้างที่อาจจะเกิดปฏิกิริยาการแพ้ข้ามกลุ่ม (Cross reaction) เพื่อที่จะสามารถหลีก เลี่ยงยาที่มีโอกาสแพ้ได้ถูกต้อง, และควรแจ้งให้แพทย์/พยาบาล/เภสัชกรทราบทุกครั้งเมื่อมีการรักษาพยาบาลและ/หรือการสั่งยา
บรรณานุกรม
- ปรียากุลละวณิชย์,ประวิตร พิศาลยบุตร .Dermatology 2020:พิมพ์ครั้งที่1.กรุงเทพฯ:โฮลิสติก,2555
- Burns, T., & Rook, A. (2010). Rook's textbook of dermatology (8th ed.). Chichester, West Sussex, UK ; Hoboken, NJ: Wiley-Blackwell.
- Lowell A.Goldsmith,Stephen I.Katz,BarbaraA.Gilchrest,Amy S.Paller,David J.Leffell,Klaus Wolff.Fitzpatrick Dermatology in general medicine .eight edition.McGraw hill.
- https://dermnetnz.org/topics/fixed-drug-eruption/ [2021,Dec25]
- https://emedicine.medscape.com/article/1336702-overview [2021,Dec25]