กล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis)

สารบัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ: คือโรคอะไร? พบบ่อยไหม?

         กล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis) คือ โรคจากมีการอักเสบของกล่องเสียง ส่วนใหญ่มักเป็นการอักเสบจากติดเชื้อ  ส่วนน้อยจากการอักเสบที่เกิดโดย’ไม่มี’การติดเชื้อโรค

         กล่องเสียงอักเสบที่เกิดอย่างรวดเร็วและอาการหายในประมาณ 3 สัปดาห์ เรียกว่า “กล่องเสียงอักเสบเฉียบพลัน/ฉับพลัน(Acute laryngitis)”  

 แต่ถ้าการอักเสบเป็นๆหายๆหรือต่อเนื่องเรื้อรังนานเกิน 3 สัปดาห์ขึ้นไป มักเรียกว่า “กล่องเสียงอักเสบเรื้อรัง(Chronic laryngitis)”

         กล่องเสียงอักเสบ  พบบ่อย โดยเฉพาะกล่องเสียงอักเสบเฉียบพลัน  แต่ทั้งนี้ไม่มีรายงานสถิติเกิดกล่องเสียงอักเสบในภาพรวมที่ชัดเจน เพราะทั่วไปมักเป็นอาการที่หายได้เองใน 3-5 วันโดยไม่ต้องพบแพทย์ นอกจากนั้นยังมักเกิดรวมอยู่ในอาการของกลุ่มโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน  เช่น  โรคหวัด,   ไข้หวัดใหญ่  จึงไม่ได้แยกศึกษาเฉพาะอาการกล่องเสียงอักเสบ

         สามารถพบกล่องเสียงอักเสบได้ทุกอายุ ตั้งแต่เด็ก(นิยามคำว่าเด็ก) จนถึงผู้สูงอายุ ในเด็กมักพบในช่วงอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ส่วนในผู้ใหญ่มักพบในช่วงอายุ 18-40 ปี  เพศหญิงและเพศชายมีโอกาสเกิดได้ใกล้เคียงกัน

อะไรเป็นสาเหตุของกล่องเสียงอักเสบ?

กล่องเสียงอักเสบ

กล่องเสียงอักเสบ เกิดจากเนื้อเยื่อกล่องเสียงที่รวมถึงสายเสียงเกิดการอักเสบ เสียหาย จึงมีอาการ บวม แดง ส่งผลให้การทำงานของเนื้อเยื่อต่างๆโดยเฉพาะสายเสียงทำงานไม่ได้เต็มที่ เจ็บ และเสียงแหบเมื่อเปล่งเสียงพูด  รวมไปในถึงเจ็บเมื่อกลืน  เพราะนอกจากมีหน้าที่เปล่งเสียงและเป็นทางผ่านของอากาศเข้าสู่หลอดลมแล้ว กล่องเสียงยังเป็นอวัยวะที่มีส่วนช่วยในการกลืนด้วย

          สาเหตุของกล่องเสียงอักเสบที่พบได้บ่อย:

ก. กล่องเสียงอักเสบเฉียบพลัน:

  • เกือบทั้งหมดมีสาเหตุจากโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน จากโรคติดเชื้อไวรัส เช่น โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่    
  • ส่วนน้อยเกิดจาก
    • ติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น คออักเสบ  ต่อมทอนซิลอักเสบ และ สเตรปโธรท    
    • การใช้เสียงผิดวิธี เช่น ตะโกน หรือขึ้นเสียงสูงรุนแรง ซ้ำๆ บ่อยๆ หรือเป็นประจำ
    • การระคายเคืองของกล่องเสียงต่อสารเคมีต่างๆหรือต่อสารก่อภูมิแพ้ เช่น จาก กรดในโรคกรดไหลย้อน    จากโรคภูมิแพ้หูคอจมูก    จากควันต่างๆ(เช่น ควันจากการเผาไหม้)   จากสารระเหยต่างๆ    การสูบบุหรี่/ควันบุหรี่/สูบบุหรี่มือสอง   

ข. กล่องเสียงอักเสบเรื้อรัง: ส่วนใหญ่จะเกิดจากการระคายเคืองต่อกล่องเสียงจากสารเคมีต่างๆซึ่งเช่นเดียวกับสาเหตุเกิดกล่องเสียงอักเสบเฉียบพลันแต่จะเป็นการสัมผัสสาร/สิ่งต่างๆเหล่านี้เรื้อรัง เช่น  การติดบุหรี่   โรคกรดไหลย้อนที่รุนแรงและควบคุมโรคไม่ได้  โรคภูมิแพ้หูคอจมูกเรื้อรัง    การสูดดมสารระเหยต่างๆเรื้อรัง   รวมถึงการใช้เสียงผิดวิธีเรื้อรัง (เช่น ในอาชีพ นักร้อง  ครู  พ่อค้า/แม่ค้า นักพูด พิธีกร)  

นอกจากนั้น ยังอาจเกิดจากบางโรค เช่น มีก้อนเนื้อที่ไม่ใช่มะเร็งกล่องเสียง   หรือ มะเร็งกล่องเสียง (เป็นได้ทั้งสาเหตุของกล่องเสียงอักเสบเรื้อรัง หรือ เป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากกล่องเสียงอักเสบเรื้อรัง)  หรือ การอักเสบจากโรคออโตอิมมูน/โรคภูมิต้านตนเองต่อกล่องเสียงซึ่งพบสาเหตุนี้ได้น้อย 

กล่องเสียงอักเสบมีอาการอย่างไร?

อาการของกล่องเสียงอักเสบ ได้แก่ อาการจากตัวกล่องเสียงเอง และร่วมกับอาการจากโรคที่เป็นสาเหตุของกล่องเสียงอักเสบที่แตกต่างกันในแต่ละผู้ป่วยตามแต่ละสาเหตุ จึงจะไม่กล่าวในบทความนี้(อ่านเพิ่มเติมจากเว็บ haamor.com ในแต่ละเรื่องที่เป็นสาเหตุ  เช่น  แบคทีเรีย  โรคติดเชื้อไวรัส  ไข้หวัดใหญ่  โรคหวัด หรือ มะเร็งกล่องเสียง  ฯลฯ)

  บทความนี้ จะกล่าวถึงเฉพาะอาการจากตัวกล่องเสียงอักเสบเอง ซึ่งที่พบบ่อย ได้แก่

  • เสียงแหบ
  • อาจมี ไข้  ปวดเนื้อตัว  ปวดหัว   เมื่อเกิดจากกล่องเสียงติดเชื้อ
  • เจ็บคอ/ คออักเสบ และจะเจ็บมากขึ้นเมื่อใช้เสียง ถ้าเป็นมากอาจเจ็บเวลากลืนร่วมด้วยได้  ซึ่งอาการเจ็บคอ อาจร้าวไปถึงหู(เจ็บหูร่วมด้วย)จากมีเส้นประสาทและลักษณะทางกายวิภาคที่สัมพันธ์กันระหว่าง กล่องเสียง คอ และ หู
  • อาจ มีเลือดปนน้ำลาย/ปนเสลด หรือ ไอเป็นเลือด
  • อาจมี หายใจลำบาก/หอบเหนื่อยเมื่อกล่องเสียงบวมมาก หรือมีก้อนเนื้อที่อุดกั้นกล่องเสียง/ทางเดินหายใจ
  • อาจมีคอบวม โดยเฉพาะในตำแหน่งของกล่องเสียง
  • อาจคลำได้ต่อมน้ำเหลืองลำคอโตด้านใดด้านหนึ่ง หรือ 2 ด้าน อาจมีต่อมเดียวหรือหลายต่อม ซึ่งมักจะมีขนาดเล็กกว่า 1 เซนติเมตร นุ่มและเจ็บ 
    • *แต่ถ้าเป็นต่อมน้ำเหลืองสาเหตุจากมะเร็ง ต่อมฯมักโตกว่า 1 เซนติเมตร ค่อนข้างแข็ง และไม่เจ็บ

เมื่อไหร่ควรพบแพทย์

ควรพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลเสมอเมื่อมีอาการดังกล่าวใน’หัวข้อ อาการฯ’ และอาการไม่ดีขึ้นภายในประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังการดูแลตนเอง โดยเฉพาะถ้าเสียงแหบเรื้อรังและ/หรือมี เสลด  น้ำลาย หรือไอเป็นเลือด เรื้อรัง โดยเฉพาะในวัย40ปีขึ้นไปที่สูบบุหรี่ และ/หรือดื่มสุราเพราะอาจเป็นอาการของมะเร็งกล่องเสียง   

 ถ้าอาการต่างๆเลวลง ก็ควรรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล ไม่ควรรอจนถึง 1-2  สัปดาห์  

นอกจากนี้ หากมีอาการหายใจลำบาก/หอบเหนื่อยต้องไปรีบโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน

แพทย์วินิจฉัยสาเหตุกล่องเสียงอักเสบได้อย่างไร?

โดยทั่วไป แพทย์มักวินิจฉัยหาสาเหตุของกล่องเสียงอักเสบเฉียบพลันได้จาก

  • ซักถามประวัติอาการ  ประวัติทางการแพทย์ต่างๆ   ประวัติสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
  • การตรวจร่างกาย  
  • การตรวจทางหูคอจมูก   

แต่ถ้าเป็นกล่องเสียงอักเสบรุนแรง หรือ เรื้อรัง: แพทย์จะพิจารณาการสืบค้นเพิ่มเติม เช่น

  • อาจจำเป็นต้องมีการส่องกล้องตรวจกล้องเสียง โดยอาจร่วมกับ
    • ตัดชิ้นเนื้อจากกล่องเสียงส่วนที่ผิดปกติเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา
    • และอาจมีการตรวจภาพกล่องเสียงด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์(ซีทีสแกน) และ/หรือเอมอาร์ไอ

รักษากล่องเสียงอักเสบอย่างไร?

แนวทางการรักษากล่องเสียงอักเสบ คือ การรักษาสาเหตุ และการรักษาตามอาการ

ก.    การรักษาสาเหตุ: จะแตกต่างกันในแต่ละผู้ป่วยตามสาเหตุ เช่น รักษา โรคหวัด,  คออักเสบ,  โรคภูมิแพ้หูคอจมูก,  โรคกรดไหลย้อน   เช่น ใช้ยาปฏิชีวนะเมื่อกล่องเสียงติดเชื้อแบคทีเรีย(เช่น ในโรคสเตรปโธรท), หรือ รักษามะเร็งกล่องเสียง เป็นต้น

 ข.     การรักษาตามอาการ ที่สำคัญที่สุด คือ

  • พักใช้เสียง หยุดการตะโกน  
  • ให้ความชุ่มชื้นกับกล่องเสียง เช่น ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ, อมยาลูกอม
  • เลิกบุหรี่ และหลีกเลี่ยงสารก่อการระคายเคืองต่อกล่องเสียงที่รวมถึงควันบุหรี่
  • หลีกเลี่ยงควันต่างๆ
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

 นอกจากนั้น เช่น

  • ใช้ยาบ้วนปาก มักไม่ได้ผลเพราะตัวยาไม่สามารถสัมผัสกล่องเสียงที่อยู่ลึกลงไปได้  แต่ได้ผลบ้างถ้ามีคออักเสบร่วมด้วย   
  • อมยาแก้เจ็บคอ อาจช่วยได้บ้างแต่ไม่มาก
  • กินยาแก้ปวด Paracetamol เมื่อมีอาการเจ็บคอมาก ปวดหัว หรือปวดเนื้อตัว ฯลฯ
  • แพทย์อาจมีการใช้ยาสเตียรอยด์เพื่อช่วยลดการบวมของกล่องเสียง แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์

กล่องเสียงอักเสบมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?

การพยากรณ์โรคในกล่องเสียงอักเสบ ขึ้นกับสาเหตุ

ก. กล่องเสียงอักเสบเฉียบพลัน: ทั่วไป มักหายได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยเฉพาะเมื่อเกิดจากโรคติดเชื้อไวรัส  ซึ่งมักหายเมื่อการติดเชื้อไวรัสดีขึ้น โดยใช้เพียงการรักษาตามอาการ หรือการใช้ยาปฏิชีวนะในกรณีติดเชื้อแบคทีเรีย

ข. กล่องเสียงอักเสบเรื้อรัง: จะมีธรรมชาติของโรคที่รุนแรงกว่ากล่องเสียงอักเสบเฉียบพลันมาก การรักษาจึงยุงยากกว่า และอาจต้องใช้เวลารักษาต่อเนื่องไปตลอด เช่น ในโรคกรดไหลย้อน หรือโรคออโตอิมมูน/ภูมิต้านตนเอง หรือ อาจต้องมีการผ่าตัด กรณีเป็นเนื้องอก หรือติ่งเนื้อ หรือ อาจต้องตัดกล่องเสียง และ/หรือฉายรังสีรักษา และ/หรือใช้ยาเคมีบำบัด กรณีเป็นมะเร็งกล่องเสียง

กล่องเสียงอักเสบก่อผลข้างเคียงอะไรบ้าง?

ผลข้างเคียงที่พบบ่อยจากกล่องเสียงอักเสบ คือ เสียงแหบ แต่ที่พบได้น้อยและรุนแรงที่จำเป็นต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที่ คืออาการหายใจลำบาก/หอบเหนื่อยจากกล่องเสียง/ทางเดินหายใจตีบแคบหรืออุดตัน

นอกจากนั้น ถ้ากล่องเสียงอักเสบเรื้อรังมีสาเหตุจากสูบบุหรี่ จะเป็นปัจจัยเสี่ยงเกิดมะเร็งกล่องเสียงสูงโดยเฉพาะเมื่อร่วมกับดื่มแอลกอฮอล์ และอาจพบมะเร็งปอดร่วมด้วยได้เพราะมีสาเหตุเดียวกันคือการสูบบุหรี่

ดูแลตนเองอย่างไร?

การดูแลตนเองเมื่อมีกล่องเสียงอักเสบ ได้แก่

  • ปฏิบัติตาม แพทย์ พยาบาล แนะนำกรณีได้รับการตรวจรักษาจากแพทย์
  • กินยา/ใช้ยาต่างๆที่แพทย์สั่งให้ครบถ้วย ถูกต้อง ไม่ขาดยา หรือ ไม่หยุดใช้ยาเอง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • พักการใช้เสียง พูดให้เบาลง (ไม่ต้องกระซิบ) อาจใช้เครื่องขยายเสียงช่วย
  • ดูแลรักษาให้กล่องเสียงชุ่มชื้นตลอด ด้วยการดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ถ้าไม่มีโรคที่แพทย์ให้จำกัดน้ำดื่ม
  • รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน(สุขบัญญัติแห่งชาติ) กรณีเกิดจากการติดเชื้อ เพื่อไม่ให้โรคแพร่กระจายสู่ผู้อื่น
  • รู้จักใช้หน้ากากอนามัย กรณีกล่องเสียงติดเชื้อ
  • หยุดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงสูดดม ควัน และ/หรือ สารต่างๆที่ก่อการระคายเคืองต่อกล่องเสียง
  • อาจใช้น้ำยาบ้วนปาก หรืออมยาลูกอม กรณีมีอาการเจ็บคอร่วมด้วย
  • ใช้ยา Paracetamol ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ เจ็บกล่องเสียง
  • กินอาหารอ่อน(อ่านเพิ่มเติมในเว็บ com บทความเรื่อง ประเภทอาหารทางการแพทย์) กรณีเจ็บคอ และ/หรือ เจ็บเวลากลืน
  • งดบุหรี่และแอลกอฮอล์จนกว่าโรคจะหายดี หรือตลอดชีวิตกรณีกล่องเสียงอักเสบเรื้อรัง หรือกล่องเสียงอักเสบเฉียบพลันที่เกิดเป็นซ้ำบ่อย

ควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไหร่?

ควรพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลก่อนนัด เมื่อ

  • อาการต่างๆแย่ลง เช่น เสียงแหบมากขึ้น ไอมากขึ้น
  • มีอาการใหม่เกิดขึ้น เช่น มีเลือดปนน้ำลาย/ปนเสลด   ไอเป็นเลือด
  • มีผลข้างเคียงต่อเนื่องจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันจากยาที่แพทย์สั่ง เช่น ท้องผูกหรือท้องเสีย
  • กังวลในอาการ

ป้องกันกล่องเสียงอักเสบอย่างไร?

การป้องกันกล่องเสียงอักเสบ คือ การป้องกันสาเหตุดังกล่าวใน’หัวข้อสาเหตุฯ’ ที่สำคัญ คือ

  • รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน(สุขบัญญัติแห่งชาติ) เพื่อลดโอกาสติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ให้ร่างกายแข็งแรง เพื่อลดโอกาสติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ
  • เลิกบุหรี่ ไม่สูบบุหรี่
  • หลีกเลี่ยงสารก่อการระคายเคืองกล่องเสียง ที่รวมถึงควันนุหรี่/บุหรี่มือสอง และควันต่างๆ
  • เลิกสุรา ไม่ดื่มสุรา
  • รู้จักใช้หน้ากากอนามัย
  • รู้จักรักษาสุขภาพเสียง (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ com เรื่อง การรักษาสุขอนามัยเสียง)

บรรณานุกรม

  1. Huntzinger, A. (2010). Am Fam Physician. 81, 1292-1296
  2. https://medlineplus.gov/ency/article/001385.htm [2022.June25]
  3. https://emedicine.medscape.com/article/864671-overview#showall [2022.June25]