ทาโซแบคแตม (Tazobactam)

สารบัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

บทนำ: คือยาอะไร?

ทาโซแบคแตม (Tazobactam หรือ Tazobactam sodium) คือ ยาปฏิชีวนะ/ยาใช้รักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย, โดยยานี้มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียกลุ่มเชื้อดื้อยาที่ดื้อต่อยากลุ่มเพนิซิลลิน, มักใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะอีกชนิดที่ชื่อ ‘Piperacillin’, โดยรูปแบบของยาจะเป็นชนิดยาฉีดเข้าหลอดเลือดดำ (IV injection)

ยาทาโซแบคแตม มีกลไกการออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ 'เบต้า-แลคแตมเมส/ Beta-lactamases' จากแบคทีเรีย ทำให้แบคทีเรียสูญเสียความสามารถในการดื้อยา, ซึ่งรูปแบบยาแผนปัจจุบันจะเป็นยาฉีดเท่านั้น, คณะกรรมการอาหารและยาของไทยได้บรรจุให้เป็นยาที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ และต้องใช้ยานี้ควบคู่กับยา Piperacillin ด้วยวัตถุประสงค์การใช้ เช่น

  • กรณีที่ใช้ยากลุ่ม Third generation cephalosporins ในการรักษาไม่ได้ และให้พิจารณาเลือกใช้ก่อนใช้ยากลุ่ม Carbapenems เช่น รักษาปอดบวม, การติดเชื้อที่ผิวหนังที่มีความรุนแรงและซับซ้อน, รวมถึงการติดเชื้อในช่องท้อง, อาการไข้ที่มีภาวะเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโตรฟิลต่ำ (Febrile neutropenia)         
  • ใช้ในกรณีเฉพาะ ตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ

อนึ่ง: ทั่วไปจะพบเห็นการใช้ยาทาโซแบคแตมแต่ในสถานพยาบาลเท่านั้น ซึ่งผู้บริโภคสามารถสอบถามข้อมูลการใช้ยาทาโซแบคแตมได้จากแพทย์/เภสัชกรที่ประจำในสถานพยาบาลที่เข้ารับบริการ

ทาโซแบคแตมมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?

ทาโซแบคแตม-01

 

ทางคลินิกจะใช้ยาทาโซแบคแตม ร่วมกับยา Piperacillin เพื่อใช้รักษาอาการป่วยจากโรคต่างๆ และช่วยรักษาการติดเชื้อที่ดื้อต่อยากลุ่มเพนิซิลลิน: เช่น

  • การติดเชื้อภายในช่องท้อง เช่น กรณีไส้ติ่งอักเสบจนแตก
  • การติดเชื้อที่ผิวหนังและที่เนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง (Skin and soft tissue infection)
  • เยื่อบุช่องท้องอักเสบ
  • เยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ
  • การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
  • โรคปอดบวม
  • การติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด/ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ
  • การติดเชื้อของเนื้อเยื่อชั้นลึกบริเวณคอ (Deep neck infection)
  • บำบัดอาการไข้ที่มีภาวะเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโทรฟิลต่ำ (Febrile neutropenia)
  • ข้ออักเสบติดเชื้อ   
  • กระดูกอักเสบ
  • กรวยไตอักเสบ
  • โรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ

ทาโซแบคแตมมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

ยาทาโซแบคแตมมีกลไกการออกฤทธิ์โดยตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์  'เบต้าแลคแตมเมส' จากแบคทีเรีย ทำให้แบคทีเรียสูญเสียคุณสมบัติของการต่อต้านกลุ่มยาเพนิซิลลิน (ตัวยากลุ่มเพนิซิลลินจะทำหน้าที่หยุดการสร้างผนังเซลล์ของแบคทีเรีย), ส่งผลให้แบคทีเรียหยุดการเจริญเติบโต ไม่สามารถขยายพันธุ์, และตายลงในที่สุด

ทาโซแบคแตมมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาทาโซแบคแตม มีรูปแบบการจัดจำหน่ายเป็น ยาฉีดที่ผสมร่วมกับยา Piperacillin เช่น

  • Piperacillin sodium/Na 2 กรัม + Tazobactam Na 25 กรัม  
  • Piperacillin sodium 3 กรัม + Tazobactam Na 375 กรัม
  • Piperacillin sodium 4 กรัม + Tazobactam Na 0.5 กรัม

ทาโซแบคแตมมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?

ยาทาโซแบคแตมมีขนาดการใช้ยาขึ้นกับแต่ละชนิดอาการ/โรค, ชนิดของแบคทีเรีย, ความรุนแรงของอาการ, ดังนั้นขนาดยาจึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีไป ในบทความนี้ ขอยกตัวอย่างขนาดยานี้ที่ใช้ในการติดเชื้อภายในช่องท้อง, เยื่อบุช่องท้องอักเสบ,  ผิวหนังติดเชื้อ, การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน เช่น

  • ผู้ใหญ่: ฉีดยา Piperacillin 3 กรัม + Tazobactam 0.375 กรัมเข้าหลอดเลือดดำทุก 6 ชั่วโมง, หรือฉีดยา Piperacillin 4 กรัม + Tazobactam 0.5 กรัม เข้าหลอดเลือดดำทุก 8 ชั่วโมง, ระยะเวลาของการใช้ยาอยู่ระหว่าง 7 - 10 วัน โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
  • เด็ก (นิยามคำว่าเด็ก): สำหรับการใช้ยานี้กับเด็ก เท่าที่พบเห็นบ่อยในทางคลินิกมักจะเป็นการใช้รักษาเยื่อบุช่องท้องอักเสบและภาวะไส้ติ่งอักเสบ, โดยขนาดการใช้ยานี้จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ และคำนวณจากอายุและน้ำหนักตัวของเด็ก

******หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึงยาทาโซแบคแตม ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกร เช่น

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก /หอบเหนื่อย
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาทาโซแบคแตมอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนม หรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมฉีดยาควรทำอย่างไร?

ทั่วไปในสถานพยาบาลจะมีตารางการให้ยาผู้ป่วย โดยมีบุคคลากรทางการแพทย์คอยดูแลกำกับและรับผิดชอบ กรณีที่มีข้อสงสัยว่าผู้ป่วยได้รับยาตรงตามเวลาที่กำหนดหรือไม่ ผู้ป่วย/ญาติ สามารถสอบถามจากบุคลากรทางการแพทย์ที่รับผิดชอบดูแลได้ตลอดเวลา

ทาโซแบคแตมมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาทาโซแบคแตมที่มีสูตรตำรับผสมกับยา Piperacillin สามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)  เช่น

  • ท้องเสีย
  • ปวดกระเพาะปัสสาวะ
  • ใบหน้า-แขน-ขา-มือ-เท้า มีอาการบวม
  • ตาพร่า
  • รู้สึกแสบบริเวณช่องท้องส่วนบน, ปวดท้อง
  • เจ็บหน้าอก
  • รู้สึกสับสน วิงเวียนคล้ายจะเป็นลม
  • มีไข้
  • เหงื่อออกมาก
  • ปวดหัว
  • ปวดหลังช่วงล่าง หรือไม่ก็ด้านข้าง
  • คลื่นไส้อาเจียน
  • แสบร้อนบริเวณปลายนิ้วมือนิ้วเท้า
  • มีผื่นคันตามผิวหนัง
  • ชีพจรเต้นช้าหรือไม่ก็เร็ว
  • อาจหายใจลำบาก

มีข้อควรระวังการใช้ทาโซแบคแตมอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาทาโซแบคแตม:  เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้ หรือแพ้ส่วนประกอบในสูตรตำรับยานี้
  • ห้ามใช้ยาที่มีสภาพเปลี่ยนไปจากเดิม
  • หลังการใช้ยานี้ อาจมีอาการวิงเวียน ผู้ป่วยจึงควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยวดยานพาหนะและ/หรือการทำงานกับเครื่องจักร
  • ตัวยากลุ่มนี้อาจลดการทำงานของเกล็ดเลือด ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บ เพราะหากมีเลือดออกจะทำให้การแข็งตัวของเลือดช้ากว่าปกติ
  • ยานี้ไม่สามารถรักษาอาการของโรคติดเชื้อไวรัส
  • การใช้ยานี้เป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อชนิดอื่นได้ เช่น โรคเชื้อรา 
  • หากพบอาการถ่ายอุจจาระมีเลือดปน/อุจจาระเป็นเลือดต้องรีบแจ้งแพทย์ทันทีด้วยอาจมีภาวะลำไส้ใหญ่อักเสบชนิดที่เรียกกันว่า Pseudomembranous colitis
  • การใช้ยานี้กับ สตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคไต ต้องได้รับคำสั่งจากแพทย์เท่านั้น ด้วยสภาพและอาการของผู้ป่วยต้องได้รับการปรับขนาดยาให้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ “ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาทาโซแบคแตมด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด   อาหารเสริม  ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

ทาโซแบคแตมมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาทาโซแบคแตมมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น: เช่น

  • การใช้ยาทาโซแบคแตม ร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น Dicoumarol สามารถทำให้การออกฤทธิ์ของ Dicoumarol เพิ่มขึ้น ผู้ป่วยอาจเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกง่าย หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกันแพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
  • การใช้ยาทาโซแบคแตม ร่วมกับยา Picosulfate สามารถทำให้ฤทธิ์ในการรักษาของ Picosulfate ด้อยประสิทธิภาพลง หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน

ควรเก็บรักษาทาโซแบคแตมอย่างไร?

ควรเก็บยาทาโซแบคแตม: เช่น

  • เก็บยาตามเงื่อนไขที่ระบุมาในเอกสารกำกับยา/ ฉลากยา
  • เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิด ชิด พ้นแสงแดด ความร้อน และความชื้น 
  • เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ทาโซแบคแตมมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาทาโซแบคแตม  มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น

ชื่อการค้า บริษัทผู้ผลิต
Astaz-P (แอสทาซ-พี) Sandoz
Pipertaz (ไพเพอร์ทาซ) Great Eastern
Tazocin (ทาโซซิน) Pfizer

 

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Tazobactam  [2022,Sept17]
  2. https://go.drugbank.com/drugs/DB01606  [2022,Sept17]
  3. https://www.drugs.com/dosage/piperacillin-tazobactam.html  [2022,Sept17]
  4. https://www.drugs.com/drug-interactions/piperacillin-tazobactam.html  [2022,Sept17]