ไดโซไพราไมด์ (Disopyramide)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 17 ธันวาคม 2565
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ: คือยาอะไร?
- ไดโซไพราไมด์มีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
- ไดโซไพราไมด์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ไดโซไพราไมด์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ไดโซไพราไมด์มีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ไดโซไพราไมด์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ไดโซไพราไมด์อย่างไร?
- ไดโซไพราไมด์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาไดโซไพราไมด์อย่างไร?
- ไดโซไพราไมด์มีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- แอนตี้มัสคารินิก (Antimuscarinic drugs)
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะหัวใจเสียจังหวะ (Arrhythmia)
- โรคหัวใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด (Heart disease หรือ Cardiovascular disease)
- โรคตับ (Liver disease)
- โรคไต (Kidney disease)
บทนำ: คือยาอะไร?
ไดโซไพราไมด์(Disopyramide) คือ ยารักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะ จัดอยู่ในกลุ่มยาโซเดียมแชนแนลบล็อกเกอร์ (Sodium channel blocker, ยาเกี่ยวข้องกับการทำงานของโซเดียมในกล้ามเนื้อหัวใจ), ทางคลินิกนำมาใช้รักษาอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดต่างๆ เช่น หัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดปกติ, โดยตัวยาจะมีกลไกลดการหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ, โดยมีรูปแบบเป็นยา รับประทาน และยาฉีด
นอกจากนี้ ตัวยาไดโซไพราไมด์ยังสามารถออกฤทธิ์เป็นสารประเภท Anticholinergic ได้อีกด้วย ซึ่งผลที่ตามมาคือ ยานี้ทำให้เกิดอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)ได้มากมายตามการออกฤทธิ์เช่นกัน
ยาไดโซไพราไมด์ทั้งชนิดยารับประทานและชนิดยาฉีด(ขึ้นกับแต่ละประเทศ) ก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อร่างกายได้น้อยหากใช้ยาอย่างถูกต้อง, หลังการดูดซึมจากระบบทางเดินอาหาร/เมื่อยานี้เข้าสู่กระแสเลือด ยานี้บางส่วนประมาณ 50 – 65% จะเข้ารวมตัวกับพลาสมาโปรตีน, ตับจะเป็นอวัยวะที่คอยทำลายและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมีของยานี้, ร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 4 – 10 ชั่วโมงเพื่อการกำจัดยานี้ออกจากร่างกาย โดยผ่านทิ้งไปกับปัสสาวะ
มีเงื่อนไขบางประการที่ผู้ป่วยควรทราบก่อนที่จะได้รับยาไดโซไพราไมด์มาใช้ เช่น
- ต้องไม่มีประวัติแพ้ยา หรือแพ้ส่วนประกอบในสูตรตำรับยาไดโซไพราไมด์มาก่อน
- ไม่อยู่ในภาวะหัวใจหยุดเต้น (Second/third-degree heart block)
- ไม่ได้กำลังใช้ยาอื่นที่รักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือที่อาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาไดโซไพราไมด์ เช่นยา Astemizole, Cisapride, Amiodarone, Sotalol, ยากลุ่ม Phenothiazine, ยากลุ่ม Quinolone, และ Terfenadine
- ประวัติสุขภาพและโรคประจำตัวที่มีผลกระทบต่อการใช้ยาไดโซไพราไมด์, ผู้ป่วยควรต้องแจ้งให้แพทย์ผู้รักษารับทราบ เช่น อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรืออยู่ในภาวะให้นมบุตร มีภาวะหัวใจโต ภาวะหัวใจล้มเหลว โรคต้อหิน โรคเบาหวาน เป็นโรคตับ โรคไต โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง มีระดับเกลือโพแทสเซียมในเลือดสูงหรือมีระดับเกลือโพแทสเซียมในเลือดต่ำเกินไป มีภาวะปัสสาวะขัด อยู่ในภาวะ Wolff-Parkinson-white syndrome (กลุ่มอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดหนึ่งที่เกิดแต่กำเนิด พบได้น้อยมาก) หรือมีปัญหาสุขภาพของต่อมลูกหมาก
นอกจากนี้ ยังมีข้อแนะนำอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค เช่น การใช้ยาไดโซไพราไมด์ จะต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตาม ข้อดีบางประการของยาไดโซไพราไมด์ คือ สามารถรับประทาน ก่อนหรือพร้อมอาหารก็ได้
ในระหว่างการใช้ยาไดโซไพราไมด์แล้วเกิดอาการ วิงเวียน ผู้ป่วยต้องหลีกเลี่ยงการขับขี่ยวดยานพาหนะต่างๆ รวมถึงการทำงานกับเครื่องจักร เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย, นอกจากนั้น ผู้ป่วยไม่ควรอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศร้อน ด้วยผลข้างเคียงจากยานี้อาจกระตุ้นให้เกิดโรคลมแดดได้
ทั้งนี้ผู้สูงอายุ จะเป็นกลุ่มที่จะเกิดอาการข้างเคียงจากยาไดโซไพราไมด์ได้มากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอายุอื่น, และยานี้ไม่เหมาะที่จะนำไปใช้กับเด็ก(นิยามคำว่าเด็ก)ด้วยยังไม่มีการศึกษาข้อมูลความปลอดภัยที่แน่ชัดทางคลินิก
*กรณีเกิดข้อผิดพลาดในการใช้ยาไดโซไพราไมด์ เช่น รับประทานยานี้เกินขนาด อาจสังเกตจากอาการดังต่อไปนี้ เช่น เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หยุดหายใจเป็นระยะๆขณะนอนหลับ ขาดสติสัมปชัญญะ ภาวะหัวใจล้มเหลว ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นช้า
*การดูแลรักษาคือ จะต้องรีบนำตัวผู้ป่วยส่งไปพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลโดยเร็ว ทันที/ฉุกเฉิน
ยาไดโซไพราไมด์จัดเป็นยาอันตรายหากใช้ผิดวิธี นอกจากอาการโรคจะไม่ดีขึ้นแล้ว อาจส่งผลข้างเคียงมากมาย, ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย/ผู้บริโภค การใช้ยาไดโซไพราไมด์ควรต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
ไดโซไพราไมด์มีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
ยาไดโซไพราไมด์มีสรรพคุณ/ ข้อบ่งใช้:
- บำบัดรักษาอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ
ไดโซไพราไมด์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาไดโซไพราไมด์ คือตัวยาจะลดการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้อัตราการคลายตัวของกล้ามเนื้อหัวใจกลับเป็นปกติ ลดแรงการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ รวมถึงปรับสัญญาณที่ใช้ควบคุมการเต้นของหัวใจให้กลับเป็นปกติ,จากกลไกเหล่านี้จึงส่งผลให้เกิดฤทธิ์การรักษาตามสรรพคุณ
ไดโซไพราไมด์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาไดโซไพราไมด์มีรูปแบบการจัดจำหน่าย:เช่น
- ยาแคปซูลชนิดรับประทาน ขนาด 100 และ 150 มิลลิกรัม/แคปซูล
- ยาเม็ดชนิดรับประทาน ขนาด 100 มิลลิกรัม/เม็ด
ไดโซไพราไมด์มีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาไดโซไพราไมด์ มีขนาดรับประทาน: เช่น
- ผู้ใหญ่: รับประทาน 400 – 800 มิลลิกรัม/วัน โดยแบ่งรับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมง, ขนาดรับประทานที่ใช้คงระดับของการรักษาอยู่ที่ 600 มิลลิกรัม/วัน, ผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อย กว่า 50 กิโลกรัมลงมา ไม่ควรรับประทานยานี้เกิน 400 มิลลิกรัม/วัน
- เด็ก(นิยามคำว่าเด็ก): ทางคลินิก ยังไม่มีข้อมูลเรื่องผลข้างเคียงของยานี้ในเด็กอย่างชัดเจน การใช้ยานี้ในเด็ก จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีไป
*อนึ่ง:
- สามารถรับประทานยานี้ก่อนหรือพร้อมอาหารก็ได้
- ผู้ป่วย โรคตับ โรคไต แพทย์จะทำการปรับลดขนาดรับประทานตามความเหมาะสม
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้นไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาไดโซไพราไมด์ ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาไดโซไพราไมด์ อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กินอยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนม หรือรกและเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาไดโซไพราไมด์ สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดรับประทานเป็น 2เท่า
อย่างไรก็ตาม เพื่อประสิทธิผลของการรักษา ควรรับประทานยาไดโซไพราไมด์ ตรงเวลา
ไดโซไพราไมด์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาไดโซไพราไมด์ สามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย: เช่น
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น ท้องผูก ปากคอแห้ง คลื่นไส้ ท้องอืด เบื่ออาหาร ท้องเสีย อาเจียน
- ผลต่อการทำงานของหัวใจ: เช่น มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตต่ำ ภาวะหัวใจล้มเหลว การหดตัวของหัวใจลดลง หัวใจห้องล่างซ้ายทำงานผิดปกติ
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ ความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน
- ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: เช่น ปัสสาวะขัด ปัสสาวะบ่อย สมรรถภาพทางเพศถดถอย
- ผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ: เช่น เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ตับอ่อนมีการปลดปล่อยฮอร์โมนอินซูลินมากขึ้น
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น เกิดอาการผื่นคัน
- ผลต่อการมองเห็น: เช่น อาการตาพร่าอาจเกิดขึ้นได้
มีข้อควรระวังการใช้ไดโซไพราไมด์อย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ไดโซไพราไมด์: เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับ สตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก และผู้สูงอายุ โดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์
- ห้ามปรับขนาดการรับประทาน หรือหยุดการใช้ยานี้ โดยไม่ได้ขอคำปรึกษาจากแพทย์
- ห้ามใช้ยาที่มีสภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
- ระวังการใช้ยานี้ซ้ำซ้อนกับยาเดิมของผู้ป่วย เช่น ผู้ป่วยมีการรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะด้วยยาอื่นอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
- ระหว่างการใช้ยานี้ ระวังการเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ แพทย์มักจะแนะนำให้ผู้ป่วยตรวจสอบความดันโลหิตเป็นประจำ
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วย โรคตับ โรคไต โรคต้อหิน โรคเบาหวาน
- ปฏิบัติตัว รับประทานยาต่างๆ อาหาร การออกกำลังกาย ตามคำแนะนำของแพทย์ และมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามนัดทุกครั้ง
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ "ยา" ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาไดโซไพราไมด์ด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ไดโซไพราไมด์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาไดโซไพราไมด์ มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น: เช่น
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาไดโซไพราไมด์ ร่วมกับกลุ่มยาที่จะทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะติดตามมา กลุ่มยาดังกล่าว เช่นยา Astemizole, Apomorphine, Ritodrine, Promethazine, Hydroxyzine, Chloroquine, Propoxyphene, Clozapine, Ondansetron, Sertraline, Amitriptyline
- การใช้ยาไดโซไพราไมด์ ร่วมกับยา Hyoscyamine อาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนตาพร่า ปากคอแห้ง การทนความร้อนหรืออุณหภูมิสูงของร่างกายได้ไม่ดีเท่าเดิม เหงื่อออกน้อยลง ปัสสาวะขัด หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- การใช้ยาไดโซไพราไมด์ ร่วมกับยา Amiodarone อาจทำให้มีการรบกวนจังหวะการเต้นของหัวใจ ด้วยยา Amiodarone จะทำให้ระดับยาไดโซไพราไมด์ในเลือดเพิ่มสูงขึ้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน หรือ แพทย์ปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นกรณีบุคคลไป
- การใช้ยาไดโซไพราไมด์ ร่วมกับยา Atazanavir จะทำให้ร่างกายได้รับอาการข้างเคียงจากยาไดโซไพราไมด์มากขึ้น โดยจะพบอาการ ปากคอแห้ง ปวดท้อง ท้องผูก ตาพร่า ปัสสาวะขัด น้ำตาลในเลือดต่ำ กรณีที่จำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
ควรเก็บรักษาไดโซไพราไมด์อย่างไร?
ควรเก็บยาไดโซไพราไมด์: เช่น
- เก็บยาในช่วงอุณหภูมิ 20 – 25 องศาเซลเซียส (Celsius)
- ไม่เก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
- ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อน และความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไดโซไพราไมด์มีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาไดโซไพราไมด์ มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Norpace (นอร์เพส) | Searle |
Regubeat (เรกูบีท) | Glaxo SmithKline |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Disopyramide#Mechanism_of_action [2022,Dec17]
- https://www.drugs.com/dosage/disopyramide.html [2022,Dec17]
- https://www.mims.com/India/drug/info/disopyramide/?type=full&mtype=generic#Actions [2022,Dec17]
- https://www.drugs.com/imprints/searle-2752-norpace-100-mg-2252.html [2022,Dec17]
- https://www.drugs.com/drug-interactions/disopyramide-index.html?filter=3&generic_only= [2022,Dec17]
- https://www.medindia.net/drug-price/disopyramide.htm [2022,Dec17]