เซฟีพิม (Cefepime)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 29 ตุลาคม 2565
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ: คือยาอะไร?
- เซฟีพิมมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
- เซฟีพิมมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- เซฟีพิมมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- เซฟีพิมมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- เซฟีพิมมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้เซฟีพิมอย่างไร?
- เซฟีพิมมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาเซฟีพิมอย่างไร?
- เซฟีพิมมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)
- ยาเซฟาโลสปอริน (Cephalosporin)
- อะมิโนไกลโคไซด์ (Aminoglycoside)
- เพนิซิลลิน (Penicillin)
- ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)
- ถุงยางอนามัยชาย (Male Condom)
บทนำ: คือยาอะไร?
เซฟีพิม (Cefepime) คือ ยาปฏิชีวนะ โดยเป็นยารุ่นที่ 4 ของกลุ่มยาเซฟาโลสปอริน (Fourth-gene ration cephalosporin) มีฤทธิ์กว้างขวางในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียทั้งชนิดแกรมบวกและแกรมลบ (Gram positive and Gram negative bacteria)ได้ดีกว่ายาเซฟาโลสปอรินรุ่นที่ 3, ยาเซฟีพิมถูกพัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) และได้วางจำหน่ายและเป็นที่แพร่หลายทั่วโลกมาจนกระทั่งปัจจุบัน
รูปแบบของผลิตภัณฑ์ยาเซฟีพิมเป็นยาฉีดโดยสามารถฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อหรือเข้าหลอดเลือดก็ได้ ตัวยาในกระแสเลือดจะถูกตับทำลายโครงสร้างประมาณ 15% จากปริมาณยาทั้งหมด ร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงขึ้นไปเพื่อกำจัดยานี้โดยผ่านทิ้งไปกับปัสสาวะ
ยานี้ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติแพ้ยากลุ่มเซฟาโลสปอรินหรือแพ้ยากลุ่มเพนิซิลลิน และต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากหากจะใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวบางโรค เช่น ผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบ, ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการทำงานของเกล็ดเลือด, ผู้ป่วยโรคตับ, โรคไต รวมถึงผู้ที่ร่าง กายอยู่ในสภาพที่ขาดสารอาหาร
นอกจากนี้ต้องคอยหลีกเลี่ยงการใช้ยาเซฟีพิมร่วมกับยาปฏิชีวนะกลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์ ด้วยการใช้ยาร่วมกันจะส่งผลให้เกิดพิษกับไตของผู้ป่วย
การใช้ยาเซฟีพิมช่วยรักษาอาการโรค ผู้ป่วยจะรู้สึกมีอาการดีขึ้นภายใน 2 - 3 วัน แต่ยังต้องใช้ยาต่อเนื่องให้ครบคอร์ส (Course) ของการรักษาเหมือนกับยาปฏิชีวนะอื่นทั่วไป
มีข้อมูลเพิ่มเติมที่ผู้บริโภคควรทราบเกี่ยวกับยาเซฟีพิมโดยอาจสรุปได้เป็นข้อๆ เช่น
- ยาเซฟีพิมเป็นยาที่ใช้ต่อต้านเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย ไม่สามารถนำมารักษาโรคที่มีสาเหตุจากโรคติดเชื้อไวรัสได้
- การใช้ยานี้เป็นเวลานานๆหรือบ่อยครั้งจนเกินไป อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดการติดเชื้อที่ยานี้ไม่สามารถต่อต้านได้ เช่น โรคเชื้อรา เป็นต้น
- ผู้ที่ได้รับยาเซฟีพิมอาจมีอาการท้องเสียได้ หากพบอาการท้องเสียอย่างรุนแรง มีเลือดปนมากับอุจจาระ ควรต้องรีบแจ้งแพทย์/ไปโรงพยาบาล ไม่แนะนำให้ผู้ป่วยไปซื้อยาแก้ท้องเสียมารับประทานเอง
- ยาเซฟีพิมอาจทำให้การรวมตัวของเกล็ดเลือดช้าลงกว่าปกติ ระหว่างการใช้ยานี้จึงควรหลีก เลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดบาดแผลและทำให้มีภาวะเลือดออกตามมา
- กรณีผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับยาเซฟีพิม ตัวยานี้อาจทำให้ผลการตรวจน้ำตาลในปัสสาวะของผู้ป่วยผิดปกติ ควรแจ้งและสื่อสารกับแพทย์ที่รักษาอาการเบาหวานด้วยว่าผู้ป่วยได้รับยาเซฟีพิมมา ก่อน
- การใช้ยานี้กับผู้สูงอายุต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วยเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดพิษ หรือการเกิดอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)ได้มากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอื่น
- สตรีตั้งครรภ์, สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เป็นกลุ่มที่ต้องระมัดระวังการใช้ยาแทบทุกชนิดซึ่งรวมถึงยาเซฟีพิมด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันในประเทศไทยก็มีการใช้ยาเซฟีพิมในสถานพยาบาลต่างๆ และรู้จักกันในหลายชื่อการค้า ผู้บริโภค/ผู้ป่วยสามารถสอบถามข้อมูลการใช้ยานี้เพิ่มเติมได้จากแพทย์ผู้รักษาหรือจากเภสัชกรที่ประจำในสถานพยาบาลหรือที่ประจำร้านขายยาได้โดยทั่วไป
เซฟีพิมมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
ยาเซฟีพิมมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ในการต่อต้านแบคทีเรียได้หลายชนิด อาทิ Pseudomonas, Escherichia, และ Streptococcus species ในทางคลินิกได้นำยานี้มารักษาอาการป่วยจากโรคต่างๆ เช่น
- ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด /ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ
- อาการไข้ที่มีภาวะเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโตรฟิลต่ำ (Febrile neutropenia)
- อาการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องท้อง (Intra abdominal infection)
- อาการปอดอักเสบ/ ปอดบวมที่สาเหตุเกิดจากในโรงพยาบาล (Nosocomial pneumonia) และปอดบวมทั่วไป
- กรวยไตอักเสบ
- รักษาโรคติดเชื้อผิวหนังและเนื้อเยื่ออ่อน
- โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ
เซฟีพิมมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาเซฟีพิม คือ ตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ของตัวแบคทีเรีย ส่งผลให้แบคทีเรียหยุดการเจริญเติบโต หมดความสามารถในการกระจายพันธุ์และตายลงในที่สุด ด้วยกลไกดังกล่าวจึงทำให้เกิดฤทธิ์ในการรักษาโรคตามสรรพคุณ
เซฟีพิมมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาเซฟีพิมมีรูปแบบการจัดจำหน่าย:
- เป็นยาฉีดขนาด 1 และ 2 กรัม/ขวด
เซฟีพิมมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
ยาเซฟีพิมมีขนาดการบริหารยา/ใช้ยาแตกต่างกันไปโดยขึ้นกับอาการจากแต่ละโรคและความรุนแรงของอาการ ดังนั้นขนาดการใช้ยาจึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา ในที่นี้ขอยกตัว อย่างเช่น
ก. สำหรับภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด: เช่น
- ผู้ใหญ่: ฉีดยา 2 กรัมเข้าหลอดเลือดดำทุก 8 ชั่วโมง ระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นกับแพทย์ผู้ รักษา
- เด็ก (นิยามคำว่าเด็ก) : ขนาดการใช้ยานี้ในเด็กอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป
ข. สำหรับบำบัดอาการไข้ที่มีภาวะเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโตรฟิลต่ำ: เช่น
- ผู้ใหญ่อายุมากกว่า 16 ปีขึ้นไป: ฉีดยา 2 กรัมเข้าหลอดเลือดดำทุก 8 ชั่วโมงเป็นเวลา 7 วัน หรือจนกระทั่งปริมาณเม็ดเลือดขาวกลับมาเป็นปกติ
- เด็กอายุตั้งแต่ 2 เดือน - อายุ 16 ปี: ฉีดยาขนาด 50 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมเข้าหลอดเลือดดำทุก 8 ชั่วโมงเป็นเวลา 7 - 10 วัน ขนาดการใช้ยาสูงสุดต้องไม่เกินขนาดการใช้ยาของผู้ใหญ่
ค. สำหรับโรคติดเชื้อผิวหนังและเนื้อเยื่ออ่อน: เช่น
- ผู้ใหญ่อายุมากกว่า 16 ปีขึ้นไป: ฉีดยา 2 กรัมเข้าหลอดเลือดดำทุก 12 ชั่วโมงเป็นเวลา 10 วัน
- เด็กอายุตั้งแต่ 2 เดือน - อายุ 16 ปี: ฉีดยาขนาด 50 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมเข้าหลอดเลือดดำทุก 12 ชั่วโมงเป็นเวลา 7 - 10 วัน ขนาดการใช้ยาสูงสุดต้องไม่เกินขนาดการใช้ยาของผู้ใหญ่
*อนึ่ง:
- การใช้ยานี้กับเด็กอายุต่ำกว่า 2 เดือนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น ด้วยยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิผลของการรักษากับผู้ป่วยกลุ่มนี้
- อาการป่วยบางโรคอาจไม่มีขนาดการใช้ยานี้ของเด็ก การใช้ยานี้ของเด็กจึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัช กรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึงยาเซฟีพิม ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิดเช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆรวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาเซฟีพิมอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่รับประทาน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประ เภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
เซฟีพิมมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาเซฟีพิมสามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย เช่น
- ผลต่อลำไส้: เช่น มีอาการท้องเสียซึ่งมักจะพบได้กับผู้ที่ต้องใช้ยาขนาด 2 กรัมทุก 8 ชั่วโมง นอก จากนี้ยังอาจพบอาการคลื่นไส้อาเจียนตามมาได้ด้วย
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น มีอาการทางสมอง เช่น ปวดหัว ประสาทหลอน อาการชัก และ/หรือ กล้ามเนื้อกระตุกรัว
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น มีภาวะผด ผื่นคัน ลมพิษ มีภาวะผิวหนังร้อนแดง บางกรณีอาจพบภาวะ Redman syndrome (กลุ่มอาการแพ้ยาที่ทำให้เกิดผื่นผิวหนังทั่วตัวร่วมกับภาวะ Anaphylaxis)
- ผลต่อระบบเลือด: เช่น อาจพบภาวะโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก, เกล็ดเลือดใช้เวลานานกว่าปกติในการรวมตัวเป็นลิ่มเลือดเพื่อหยุดอาการเลือดออกจึงอาจเกิดภาวะเลือดออกง่าย
- ผลต่ออวัยวะตับ: เช่น ตับทำงานผิดปกติ จำนวนบิลิรูบินในเลือดเพิ่มขึ้น ระดับเอนไซม์อัลคาไลน์ฟอสเฟต (Alkaline phosphatase, เอนไซม์การทำงานของตับ)ในเลือดสูงขึ้น และ/หรือเกิดภาวะน้ำดีคั่งในเลือด/ตัว-ตาเหลือง
- ผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย: เช่น มีภาวะเกลือโพแทสเซียมในเลือดสูง, ระดับแคลเซียมในเลือดเพิ่มขึ้นหรือไม่ก็ลดลง
- ผลต่อระบบสืบพันธุ์: เช่น มีภาวะช่องคลอดอักเสบ
มีข้อควรระวังการใช้เซฟีพิมอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาเซฟีพิม เช่น
- ห้ามใช้กับผู้แพ้ยากลุ่มเซฟาโซลินหรือกลุ่มเพนิซิลลิน
- ห้ามใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก และผู้สูงอายุ โดยไม่มีคำสั่ง จากแพทย์
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ที่มีภาวะลำไส้อักเสบ และตับ-ไตทำงานผิดปกติ
- หากพบอาการเป็นลม รู้สึกสับสน ประสาทหลอน ระหว่างการใช้ยานี้ ควรต้องรีบปรึกษาแพทย์/ไปโรงพยาบาล/ไปโรงพยาบาลก่อนนัดเพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ "ยา" ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาเซฟีพิมด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
เซฟีพิมมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาเซฟีพิมมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การใช้ยาเซฟีพิม ร่วมกับยาเม็ดคุมกำเนิดเช่น Ethinyl estradiol อาจทำให้ประสิทธิภาพ การคุมกำเนิดด้อยลงและเสี่ยงต่อภาวะตั้งครรภ์ตามมา หากไม่มีความจำเป็นใดๆควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน หรือใช้วิธีคุมกำเนิดชนิดอื่นร่วมด้วยเมื่อจำเป็นต้องใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดร่วมกับยาเซฟีพิมเช่น การใช้ถุงยางอนามัยชาย
- การใช้ยาเซฟีพิม ร่วมกับยา Probenecid อาจทำให้ระดับยาเซฟีพิมในเลือดเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้ผู้ป่วยได้รับอาการข้างเคียงตามมา หากไม่มีความจำเป็นใดๆควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- ห้ามหรือหลีกเลี่ยงการใช้ยาเซฟีพิม ร่วมกับยา Amikacin, Gentamicin ด้วยอาจเป็นเหตุให้ไตได้รับความเสียหายตามมา
ควรเก็บรักษาเซฟีพิมอย่างไร?
ควรเก็บยาเซฟาโซลิน: เช่น
- เก็บยาตามคำแนะนำในเอกสารกำกับยา/ ฉลากยา
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อนและความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
เซฟีพิมมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาเซฟาโซลิน มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Cefamax (เซฟาแม็กซ์) | Siam Bheasach |
Maxipime (แม็กซิพิม) | Bristol-Myers Squibb |
Megapime (เมกะพิม) | Alkem |
Pime (ไพม์) | MacroPhar |
Sefpime (เซฟพิม) | Shenzhen Zhijun Pharma |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Cephalosporin [2022,Oct29]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Cefepime [2022,Oct29]
- https://www.drugs.com/dosage/cefepime.html [2022,Oct29]
- https://www.mims.com/thailand/drug/info/cefepime?mtype=generic [2022,Oct29]
- https://www.drugs.com/drug-interactions/cefepime-index.html?filter=2&generic_only= [2022,Oct29]