วิตามินซี (Vitamin C or Ascorbic acid)

สารบัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

บทนำ: คือยาอะไร?

วิตามินซี  อีกชื่อคือ กรดแอสคอบิก (Ascorbic acid หรือ L-Ascorbic acid เรียกง่ายๆว่า Ascorbate) มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ดี เป็นวิตามินที่พบได้ตามธรรมชาติ เช่น ในผัก ผลไม้ หน้าที่ของวิตามินซีที่ร่างกายมนุษย์นำไปใช้ เช่น

  • ใช้ในกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจน (Collagen) และ แอลคาร์นิทีน (L-carnitine, สารที่ช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานได้อย่างปกติ)
  • เป็นส่วนร่วมในกระบวนการทำงานของสารสื่อประสาท (Neurotransmitters) ชนิดต่างๆ
  • เป็นส่วนประกอบในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective tissue) ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการสมานบาดแผล
  • เป็นส่วนร่วมของกระบวนการเปลี่ยนแปลงโปรตีนเพื่อการใช้งานในร่างกาย
  • เป็นสารต้านอนุมูลอิสระของร่างกายรวมถึงมีส่วนร่วมในการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นเช่น วิตามินอี หรือ Tocopherol อีกด้วย

หากร่างกายขาดวิตามินซีจะแสดงออกมาให้เห็นในลักษณะของเลือดออกตามไรฟัน (โรคลักปิดลักเปิด/โรคขาดวิตามินซี) อ่อนเพลีย และทำให้หลอดเลือดฝอยขาดความยืดหยุ่นไม่แข็ง แรงหลอดเลือดฯจึงแตกได้ง่าย

วิตามินซีสามารถดูดซึมจากระบบทางเดินอาหารได้อย่างรวดเร็วและถูกขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะ โดยปกติผู้ชายควรได้รับวิตามินซี 90 มิลลิกรัม/วัน ในขณะที่ผู้หญิงต้องการ 75  มิลลิกรัม/วัน แต่สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตรควรได้รับวิตามินซีสูงถึงประมาณ 120 มิลลิกรัม/วัน ซึ่งอาจมีความแตกต่างทางมาตรฐานการบริโภคของแต่ละประเทศที่ต่างกันเล็กน้อย

ยังมีผู้บริโภคบางกลุ่มที่สุ่มเสี่ยงต่อการขาดวิตามินซี เช่น

  • ผู้ที่สูบบุหรี่หรือผู้ที่ดมควันบุหรี่ (Passive smoker/สูบบุหรี่มือสอง) เป็นประจำ
  • เด็กทารกที่ต้องดื่มนมผงดัดแปลงชนิดที่ต้องผสมกับน้ำร้อนก่อนซึ่งน้ำร้อนเป็นตัวทำลายวิตามินซีได้อย่างรวดเร็ว
  • ผู้บริโภคอาหารซ้ำๆขาดความหลากหลายของสารอาหารก็จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะขาด วิตามินซีได้
  • ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการดูดซึมสารอาหารต่างๆก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ร่างกายได้รับวิตามินต่างๆรวมถึงวิตามินซีลดน้อยลง

อนึ่ง: ยังมีคุณประโยชน์ของวิตามินซีที่ถูกนำมาประยุกต์ในการรักษาอาการโรคต่างๆอาทิ

  • มีการใช้วิตามินซีร่วมกับผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งพบว่าช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
  • ลดภาวะ/โรคหลอดเลือดอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ
  • ลดภาวะเป็นต้อกระจก
  • การใช้กับผู้ป่วยด้วยโรคหวัดก็พบรายงานว่าการฟื้นตัวของร่างกายดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังพบข้อมูลเปรียบเทียบของการใช้วิตามินซีมากเกินไป อาจส่งผลให้มีอา การท้องเสีย คลื่นไส้ เป็นตะคริวที่ท้อง การบริโภควิตามินซีมากเกินความจำเป็นยังส่งผลต่อการเพิ่มปริมาณเกลือออกซาเลต (Oxalate) และกรดยูริค (Uric acid) อันเป็นสาเหตุเกิดนิ่วในไตได้อีกด้วย หรือการอมวิตามินซีชนิดเม็ดสำหรับรับประทานเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคไม่ควรกระทำด้วยวิตามินซีมีฤทธิ์เป็นกรดสามารถทำให้เคลือบฟันและฟันสึกกร่อนได้

ยาวิตามินซีถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติของไทย การเลือกใช้วิตามินซีได้อย่างเหมาะสมปลอดภัย ผู้บริโภคสามารถสอบถามข้อมูลการใช้วิตามินซีได้จากแพทย์หรือเภสัชกรตามร้านขายยาโดยทั่วไป

วิตามินซีมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?

วิตามินซี

 

ยาวิตามินซีมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้: เช่น

  • บำบัดอาการจากภาวะขาดวิตามินซี(โรคลักปิดลักเปิด)ของร่างกาย
  • รักษาโรคลักปิดลักเปิด/เลือดออกตามไรฟัน
  • ช่วยเพิ่มสภาวะเป็นกรดให้กับน้ำปัสสาวะในการรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบบางสาเหตุ

วิตามินซีมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

กลไกการออกฤทธิ์ของยาวิตามินซีคือ ตัวยาจะออกฤทธิ์ต่อร่างกายโดยช่วยในกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจน (Collagen) รวมถึงช่วยสนับสนุนการสร้างองค์ประกอบต่างๆของเซลล์ในร่างกาย

วิตามินซีมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาวิตามินซีมีรูปแบบการจัดจำหน่าย:

  • ยาฉีด ขนาด 500 มิลลิกรัม/2 มิลลิลิตร
  • ยาเม็ดชนิดรับประทาน ขนาด 50, 100 และ 500 มิลลิกรัม/เม็ด
  • เป็นส่วนประกอบกับวิตามินชนิดอื่นในลักษณะยาเม็ด ยาแคปซูล ชนิดรับประทาน

วิตามินซีมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?

วิตามินซีมีขนาดการบริหารยา/ใช้ยาได้หลากหลายขึ้นกับอาการโรคและความรุนแรง ในบทความนี้ขอยกตัวอย่างดังนี้ เช่น

 ก. สำหรับอาการขาดวิตามินซี: เช่น

  • ผู้ใหญ่: เช่น รับประทานหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำหรือฉีดเข้าผิวหนัง ขนาด 50 - 200 มิลลิกรัม/วัน
  • เด็ก (นิยามคำว่าเด็ก): เช่น รับประทานหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำหรือฉีดเข้าผิวหนัง ขนาด 35 - 100 มิลลิกรัม/วัน

 ข. สำหรับรักษาอาการเลือดออกตามไรฟัน/โรคลักปิดลักเปิด: เช่น

  • ผู้ใหญ่: เช่น รับประทานหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำหรือฉีดเข้าผิวหนังขนาด 100 - 250 มิลลิกรัมวันละ 1 - 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 2 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ
  • เด็ก: เช่น รับประทานหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำหรือฉีดเข้าผิวหนังขนาด 100 - 300 มิลลิกรัม หรือตามคำสั่งแพทย์ เป็นเวลา 2 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ

 * อนึ่ง: วิตามินซีชนิดรับประทานสามารถรับประทานก่อนหรือพร้อมอาหารก็ได้

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึงยาวิตามินซี ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยา หรืออาหารเสริมอะไรอยู่ เพราะยาวิตามินซีอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆ และ/หรือกับอาหารเสริมที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิด ผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

หากลืมรับประทานยาวิตามินซี สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า

อย่างไรก็ตามเพื่อประสิทธิผลของการรักษาควรรับประทานยาวิตามินซีให้ตรงเวลา

วิตามินซีมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

สำหรับวิตามินซีสามารถก่อให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)  เช่น  

  • ท้องเสีย
  • วิงเวียน
  • เป็นลม
  • ใบหน้าแดง
  • ปวดหัว
  • ปัสสาวะบ่อย
  • คลื่นไส้อาเจียน
  • เป็นตะคริวที่ท้อง
  • การอมวิตามินซีชนิดรับประทานสามารถทำลายเคลือบฟันได้
  • บางกรณีกับผู้ที่ได้รับวิตามินซีเป็นปริมาณมากจะทำให้มีอาการปวดหลังช่วงล่าง

มีข้อควรระวังการใช้วิตามินซีอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้วิตามินซี  เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้แพ้ยานี้
  • ห้ามใช้ยานี้กับ สตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร และเด็ก โดยไม่ได้มีคำสั่งจากแพทย์
  • ห้ามปรับขนาดรับประทานด้วยตนเอง
  • การใช้วิตามินซีชนิดฉีดควรต้องได้รับคำสั่งจากแพทย์ ผู้บริโภคไม่ควรซื้อหาและนำมาฉีดด้วยตนเอง
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ         

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ "ยา" ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมวิตามินซีด้วย) ยาแผนโบราณ   อาหารเสริม   ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด ) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

วิตามินซีมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาวิตามินซีมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น  เช่น

  • การใช้วิตามินซี ร่วมกับยา Dextroamphetamine อาจทำให้ฤทธิ์ในการรักษาของยา Dextroamphetamine ด้อยประสิทธิภาพลงไป กรณีที่จำเป็นต้องใช้ยาร่วมกันแพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
  • การใช้วิตามินซี ร่วมกับยา Deferoxamine  อาจก่อให้เกิดปัญหากับหัวใจ และมีภาวะต้อกระจก กรณีที่ต้องใช้ยาร่วมกัน ควรเว้นระยะเวลาหลังการใช้ยา Deferoxamine ไปแล้วประมาณ 1 เดือน
  • การใช้วิตามินซี ร่วมกับยารักษาโรคมะเร็ง เช่นยา Bortezomib อาจทำให้ประสิทธิภาพของยา Bortezomib ด้อยลงไป หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน

ควรเก็บรักษาวิตามินซีอย่างไร?

ควรเก็บยาวิตามินซี:

  • เก็บยาในช่วงอุณหภูมิห้องที่เย็น
  • ไม่เก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
  • เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อน และ ความชื้น
  • เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
  • ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยน

วิตามินซีมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาวิตามินซีที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้าอื่นและบริษัทผู้ผลิตเช่น

ชื่อการค้า บริษัทผู้ผลิต
Ascorbic Acid A.N.H. (แอสคอบิก แอซิด เอ.เอ็น.เฮช) A N H Products
Ascorbic Acid Osoth Interlab (แอสคอบิก แอซิด โอสถ อินเตอร์แล็บ) Osoth Interlab
Ascorbic Acid Patar (แอสคอบิก แอซิด พาตาร์) Patar Lab
Ascorbic Acid Pharma Square (แอสคอบิก แอซิด ฟาร์มา สแควร์) Pharma Square
Blackmores Bio C (แบล็คมอร์ ไบโอ ซี) Blackmores

 

บรรณานุกรม

  1. https://ods.od.nih.gov/factsheets/VitaminC-HealthProfessional/#h2   [2023,Feb4]
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Vitamin_C   [2023,Feb4]
  3. https://food.fda.moph.go.th/Rules/dataRules/4-4-2ThaiRDI.pdf   [2023,Feb4]
  4. https://oryor.com/media/checkSureShare/media_specify/847   [2023,Feb4]
  5. https://www.mims.com/Thailand/drug/search?q=ascorbic%20acid   [2023,Feb4]
  6. https://www.mims.com/thailand/drug/info/ascorbic%20acid?mtype=generic   [2023,Feb4]
  7. https://www.drugs.com/sfx/ascorbic-acid-side-effects.html   [2023,Feb4]
  8. https://www.drugs.com/drug-interactions/ascorbic-acid-index.html?filter=2&generic_only= [2023,Feb4]