ลำไส้เล็กอักเสบ (Enteritis)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 5 มิถุนายน 2565
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ: คือโรคอะไร? พบบ่อยไหม?
- ลำไส้เล็กอักเสบมีสาเหตุจากอะไร?
- ลำไส้เล็กอักเสบมีอาการอย่างไร?
- เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?
- แพทย์วินิจฉัยลำไส้เล็กอักเสบอย่างไร?
- รักษาลำไส้เล็กอักเสบอย่างไร?
- ลำไส้เล็กอักเสบมีผลข้างเคียงอย่างไร?
- ลำไส้เล็กอักเสบมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
- ดูแลตนเองอย่างไร?
- ควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไหร่?
- ป้องกันลำไส้เล็กอักเสบอย่างไร?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ลำไส้อักเสบ (Enterocolitis)
- กระเพาะอาหารอักเสบ (Gastritis)
- ลำไส้ใหญ่อักเสบ (Colitis)
- ลำไส้อักเสบเรื้อรัง โรคไอบีดี (Inflammatory bowel disease: IBD)
- โรคโครห์น (Crohn’s disease)
- โรคซีลิแอก (Celiac disease)
- อาหารเป็นพิษ (Food poisoning)
- ลำไส้อุดตัน (Intestinal obstruction)
- ลำไส้ทะลุ (Gastrointestinal perforation)
- โรคบิดไม่มีตัว โรคบิดชิเกลลา (Shigellosis)
- โรคไทฟอยด์ ไข้ไทฟอยด์ (Typhoid fever)
บทนำ: คือโรคอะไร? พบบ่อยไหม?
ลำไส้เล็กอักเสบ(Enteritis) คือ กลุ่มโรค/ภาวะที่เกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อบุผิวหรือเนื้อเยื่อเมือกของผนังลำไส้เล็ก โดยอาจเกิดอย่างเฉียบพลัน คือ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือเกิดเรื้อรังเป็นเดือนหรือเป็นปี, อาการที่พบบ่อย เช่น ท้องเสีย ปวดท้อง มักมีไข้ อาจเป็นไข้ต่ำ หรือไข้สูง ขึ้นกับสาเหตุ อ่อนเพลีย เกิดภาวะขาดน้ำ และมีภาวะทุพโภชนา ฯลฯ
ลำไส้เล็กอักเสบอาจเกิดร่วมกับกระเพาะอาหารอักเสบก็ได้ เรียกว่า “กระเพาะอาหารและลำไส้เล็กอักเสบ(Gastroenteritis)” และ/หรือเกิดร่วมกับลำไส้ใหญ่อักเสบ เรียกว่า “ลำไส้อักเสบ (Enterocolitis)”
ลำไส้เล็กอักเสบ เป็นกลุ่มโรคที่ประกอบด้วยโรคที่มีสาเหตุหลากหลาย พบทุกเพศ และทุกอายุ ตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ เป็นโรคพบบ่อย แต่ไม่มีรายงานสถิติเกิดในภาพรวมเนื่องจากมักรายงานสถิติแยกเป็นแต่ละสาเหตุๆไป
ลำไส้เล็กอักเสบมีสาเหตุจากอะไร?
ลำไส้เล็กอักเสบ เกิดจากหลากหลายสาเหตุ ที่พบบ่อย เช่น
ก. ลำไส้เล็กอักเสบจากติดเชื้อแบคทีเรีย: เป็นสาเหตุพบบ่อยที่สุด เช่น โรคอาหารเป็นพิษจากติดเชื้อ อีโคไลcoli(Escherichia coli)หรือจากเชื้อ Staphylococcus aureus หรือเชื้อ Clostidium butulism, โรคไทฟอยด์จากเชื้อ Salmonella, โรคบิดไม่มีตัวจากเชื้อ Shigella
ข. โรคออโตอิมมูน/โรคภูมิต้านตนเอง เช่น โรคโครห์น
ค. ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด: เช่น ยาในกลุ่มเอ็นเสด เช่น ยา Ibuprofen, Naproxen
ง. ผลข้างเคียงจากสารเสพติดบางชนิด เช่น โคเคน
จ. ผลข้างเคียงจากการฉายรังสีรักษาบริเวณช่องท้องหรืออุ้งเชิงกราน/ท้องน้อย เช่นในโรค มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปากมดลูก
ฉ. ผลข้างเคียงจากยาเคมีบำบัดบางชนิด เช่นยา Irinothecan, Methotrexate
ช. อื่นๆ: เช่น โรคซีลิแอก (โรคผิดปกติทางพันธุกรรมที่พบน้อยที่ทำให้ผู้ป่วยแพ้โปรตีนชนิดที่เรียกว่า Gluten/โปรตีนที่มักพบในธัญพืช)
ลำไส้เล็กอักเสบมีอาการอย่างไร?
อาการของลำไส้เล็กอักเสบ ที่พบบ่อย เช่น
- ท้องเสีย ร่วมกับ ปวดท้อง
- ถ้าท้องเสียรุนแรงจะมีภาวะขาดน้ำร่วมด้วย
- อาจมีคลื่นไส้อาเจียน
- มักมีไข้ พบได้ทั้งไข้สูง หรือไข้ต่ำ ทั้งนี้ขึ้นกับสาเหตุ
- เบื่ออาหาร
- อ่อนเพลีย
- ผอมลง น้ำหนักลด และภาวะทุพโภชนา จากการขาดสารอาหารจากลำไส้เล็กดูดซึมอาหารได้น้อยลง
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?
เมื่อมีอาการผิดปกติต่างๆที่รวมถึงอาการที่กล่าวใน’หัวข้อ อาการฯ’ และอาการไม่ดีขึ้นหลังดูแลตนเองใน 2-3 วัน ควรพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลเสมอ แต่หากอาการแย่ลง ควรรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลโดยไม่ต้อรอถึง 2-3 วัน
แพทย์วินิจฉัยลำไส้เล็กอักเสบอย่างไร?
แพทย์วินิจฉัยลำไส้เล็กอักเสบ ได้จาก
- ประวัติทางการแพทย์ต่างๆของผู้ป่วย เช่น อาการ โรคที่เป็นอยู่ การใช้ยาต่างๆ
- การตรวจร่างกาย
- ตรวจเลือดดูการอักเสบ เช่น ซีบีซี/CBC
- การตรวจอุจจาระ
- การเพาะเชื้อจากอุจจาระ
- การตรวจภาพช่องท้อง/ลำไส้ ด้วย อัลตราซาวด์ เอกซแรย์กลืนแป้ง เอกซเรย์คอมพิวเตอร์(ซีทีสแกน)
- การตรวจส่องกล้องตรวจ หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก อาจร่วมกับการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ถ้ามีอาการลำไส้ใหญ่อักเสบร่วมด้วย ร่วมกับ
- การตรวจเชื้อและการเพาะเชื้อจากสารคัดหลั่งจากลำไส้เล็ก
- และการตัดชิ้นเนื้อที่รอยโรคเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยาและการตรวจเพาะเชื้อจากรอยโรค
รักษาลำไส้เล็กอักเสบอย่างไร?
แนวทางการรักษาลำไส้เล็กอักเสบประกอบด้วย การรักษาตามอาการ และ การรักษาสาเหตุ
ก. การรักษาตามอาการ/การรักษาประคับประคองตามอาการ: เป็นการรักษาคล้ายกันในผู้ป่วยลำไส้เล็กอักเสบทุกสาเหตุ เช่น
- ยาแก้ปวดท้อง เช่น ยา Hyoscine
- ยาลดการเคลื่อนไหว/การบีบตัวของลำไส้ เช่น ยา Loperamide
- ยาลดไข้ เช่นยา Paracetamol
- การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำเมื่อมีภาวะขาดน้ำ
ข. รักษาสาเหตุ: จะแตกต่างกันในแต่ละบุคคลขึ้นกับสาเหตุ เช่น
- หยุดยาต่างๆที่เป็นสาเหตุถ้าสาเหตุเกิดจากผลข้างเคียงจากยา
- ให้ยาปฏิชีวนะเมื่อโรคเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
- รักษาโรคโครห์น เมื่อสาเหตุเกิดจากโรคนี้(แนะนำอ่านรายละเอียด ’โรคโครห์น’ เพิ่มเติมจากเว็บcom)
ลำไส้เล็กอักเสบมีผลข้างเคียงอย่างไร?
ผลข้างเคียงจากลำไส้เล็กอักเสบ ที่พบบ่อย คือ ภาวะทุพโภชนาจากลำไส้เล็กดูดซึมอาหารได้น้อย นอกนั้นที่อาจพบได้ เช่น
- ลำไส้อุดตันจากลำไส้เล็กเกิดพังผืดจากร่างกายซ่อมแซมการอักเสบจึงทำให้ช่องทางเดินอาหารตีบแคบลง
- ลำไส้เล็กทะลุ/ลำไส้ทะลุ ถ้าการอักเสบรุนแรงจนลำไส้เล็กเกิดเป็นแผล ซึ่งจะส่งผลให้เกิดภาวะเยื่อบุช่องท้องอักเสบ
- เสียคุณภาพชีวิต กรณีมีภาวะท้องเสียเรื้อรัง
ลำไส้เล็กอักเสบมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
การพยากรณ์โรคของลำไส้เล็กอักเสบขึ้นกับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ จึงแตกต่างกันเป็นกรณีไป แพทย์ผู้รักษาจึงเป็นผู้ให้การพยากรณ์โรคได้อย่างเหมาะสม โดยการพยากรณ์โรคมีได้ตั้งแต่ มีการพยากรณ์โรคที่ดี รักษาโรคให้หาย, ไปจนถึงการพยากรณ์โรคแย่, ผู้ป่วยถึงตายได้โดยเฉพาะกรณีเกิดผลข้างเคียงจากลำไส้เล็กอักเสบร่วมด้วย
ดูแลตนเองอย่างไร?
การดูแลตนเองเมื่อป่วยเป็นลำไส้เล็กอักเสบ ได้แก่
- ปฏิบัติตาม แพทย์ พยาบาล แนะนำ
- กินยา/ใช้ยาที่แพทย์สั่งให้ครบถ้วน ถูกต้อง ไม่ขาดยา ไม่หยุดยาเอง
- รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน(สุขบัญญัติแห่งชาติ)
- ออกกำลังกายทุกวันตามควรกับสุขภาพ
- ดื่มน้ำสะอาดให้พอเพียงกับน้ำที่เสียไปกับอุจจาระ อย่างน้อยวันละ 8-10แก้ว เมื่อไม่มีโรคที่แพทย์ให้จำกัดน้ำดื่ม หรือตาม แพทย์ พยาบาล แนะนำ
- รักษาความสะอาด อาหารและน้ำดื่ม
- หลีกเลี่ยงอาหาร เครื่องดื่มที่ก่อให้เกิด อาการท้องเสีย เช่น เครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน เช่น กาแฟ ฯลฯ
- ไม่ซื้อยากินเองโดยไม่ปรึกษา แพทย์ เภสัชกร
- พบแพทย์/ไปโรงพยาบาลตามนัดเสมอ
ควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไหร่?
เมื่อเป็นโรคลำไส้เล็กอักเสบ ควรพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลก่อนนัดเมื่อ
- อาการต่างๆไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง เช่น ท้องเสียบ่อยครั้งขึ้น อุจจาระเป็นเลือด ปวดท้องมากขึ้น
- อาการที่รักษาหายแล้ว กลับมามีอาการอีก เช่น มีไข้สูง ท้องเสีย อุจจาระเป็นเลือด
- มีอาการใหม่ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เช่น ปวดท้องรุนแรงโดยเฉพาะเมื่อร่วมกับปวดท้องมากและ/หรือไม่ผายลม เพราะเป็นอาการของลำไส้อุดตัน หรือลำไส้ทะลุ ที่ต้องรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลฉุกเฉิน/ทันที
- มีผลข้างเคียงต่อเนื่องจากยาที่แพทย์สั่งจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ท้องผูกมาก ฯลฯ
- เมื่อกังวลในอาการ
ป้องกันลำไส้เล็กอักเสบอย่างไร?
การป้องกันโรคลำไส้เล็กอักเสบ คือการป้องกันสาเหตุที่ป้องกันได้ ซึ่งคือ
- สาเหตุจากการติดเชื้อ ซึ่งการป้องกันที่สำคัญ คือ รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน(สุขบัญญัติแห่งชาติ) และรักษาความสะอาด อาหาร และน้ำดื่ม เช่น โรคไทฟอยด์, โรคอาหารเป็นพิษ, โรคบิดไม่มีตัว
- อื่นๆ: เช่น
- กินยาแต่เฉพาะกรณีจำเป็น ไม่ซื้อยาใช้เองโดยไม่ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน ซึ่งยาสำคัญที่เป็นสาเหตุลำไส้เล็กอักเสบบ่อยที่ไม่ควรซื้อกินเอง ต้องปรึกษา แพทย์/เภสัชกรก่อนเสมอ เช่น
-
-
- ยาในกลุ่มยาปฏิชีวนะ และ
- ยาในกลุ่มยาเอ็นเสด
-
บรรณานุกรม
- https://medlineplus.gov/ency/article/001149.htm [2022,June4]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Enteritis [2022,June4]
- https://www.mountsinai.org/health-library/diseases-conditions/enteritis [2022,June4]