ซัลฟาเมไทอะโซล (Sulfamethiazole)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 10 ธันวาคม 2565
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ: คือยาอะไร?
- ซัลฟาเมไทอะโซลมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
- ซัลฟาเมไทอะโซลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ซัลฟาเมไทอะโซลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ซัลฟาเมไทอะโซลมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ซัลฟาเมไทอะโซลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ซัลฟาเมไทอะโซลอย่างไร?
- ซัลฟาเมไทอะโซลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาซัลฟาเมไทอะโซลอย่างไร?
- ซัลฟาเมไทอะโซลมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- โรคติดเชื้อ ภาวะติดเชื้อ (Infectious disease)
- แบคทีเรีย: โรคจากแบคทีเรีย (Bacterial infection)
- ไตรเมโทพริม (Trimethoprim)
- ซัลฟา (Sulfa drugs) ซัลโฟนาไมด์ (Sulfonamides)
- สะตีเวนส์จอห์นสัน (Stevens-Johnson syndrome)
- โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ (Urinary tract infection)
บทนำ: คือยาอะไร?
ซัลฟาเมไทอะโซล (Sulfamethiazole) คือ ยาปฏิชีวนะกลุ่มซัลฟา (Sulfa drug),ทางคลินิกใช้รักษาโรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ, รูปแบบยาเป็นยารับประทาน, ยานี้มีฤทธิ์ต่อต้านการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียทั้งชนิดแกรมบวกและลบ, และอีกชื่อของยานี้ คือ ‘ซัลฟาเมไทโซล (Sulfamethizole)’,
รูปแบบยาแผนปัจจุบันของยานี้ มีทั้งลักษณะของยาเดี่ยว หรือเป็นยาผสมร่วมกับยาอื่น เช่น Trimethoprim, การรับประทานยานี้ควรต้องดื่มน้ำเป็นปริมาณมากกว่าปกติ แพทย์อาจกำหนดให้ผู้ป่วยดื่มน้ำไม่ต่ำกว่า 2 ลิตร/วัน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการตกตะกอนของยาในไตและในกระเพาะปัสสาวะ
เมื่อตัวยาซัลฟาเมไทอะโซลถูกดูดซึมจากระบบทางเดินอาหารเข้าสู่กระแสเลือด, ตัวยาจะกระจายไปตามเนื้อเยื่อส่วนต่างๆของร่างกายได้อย่างมากมาย, และสามารถตรวจพบยานี้ได้ใน เยื่อหุ้มปอด เยื่อบุช่องท้อง ตามไขข้อ น้ำตา น้ำไขสันหลัง/ซีเอสเอฟ (CSF)
ยาซัลฟาเมไทอะโซลมีสรรพคุณในการรักษาโรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ โดยต้องใช้ยานี้ตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น
มีเงื่อนไขบางประการที่ผู้บริโภคควรทราบก่อนการใช้ยาซัลฟาเมไทอะโซล เช่น
- ห้ามใช้ในผู้แพ้ยานี้ หรือแพ้ยากลุ่มซัลฟา
- ผู้ป่วยที่มีภาวะ โรคตับ โรคไต ที่ทำงานผิดปกติในระดับรุนแรง ห้ามใช้ยานี้รวมถึงผู้ที่ป่วยด้วยโรคเลือดชนิดต่างๆ และโรคลูปัส-โรคเอสแอลอี
- ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยบางกลุ่มด้วยยาจะส่งผลกระทบ(ผลข้างเคียง)ต่อร่างกายอย่างมาก เช่น เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 เดือน สตรีตั้งครรภ์ และสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร หรือแม้แต่การใช้ยานี้กับผู้สูงอายุ ควรต้องให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาความเหมาะสมแต่เพียงผู้เดียว
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางกลุ่มควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ เช่น ผู้ป่วยด้วยโรคหืด ผู้ป่วยโรคเอดส์ ผู้ป่วยภาวะขาดเอนไซมจีซิกพีดี (G6PD), ด้วยการใช้ยาซัลฟาเมไทอะโซลสามารถทำให้อาการของโรคประจำตัวกำเริบ หรือมีระดับรุนแรงมากขึ้น
ยานี้สามารถก่อให้เกิดอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)ที่เหมือนกับยาทั่วๆไป เช่น มีอาการ คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องเสีย เป็นต้น
นอกจากนี้ผู้ที่รับประทานยานี้ ยังควรต้องเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเพราะยาทำให้เกิดภาวะผิวแพ้แสงแดดได้ง่าย
*อย่างไรก็ตาม หากพบอาการแพ้ยาซัลฟาเมไทอะโซล หรือเกิดภาวะ Stevens-Johnson syndromes หลังใช้ยานี้, *ควรหยุดใช้ยานี้ทันที แล้วรีบนำผู้ป่วยมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็ว ทันที/ฉุกเฉิน
สำหรับประเทศไทยอาจพบเห็นการใช้ยานี้ได้น้อย อาจมาจากเหตุผลว่ามียาทางเลือกอื่นที่ประสิทธิภาพในการรักษาดีกว่า เราอาจพบเห็นการใช้ซัลฟาเมไทอะโซลในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินเดีย ด้วยการตอบสนองของโรคและมีความต้องการจากประชากรอีกเป็นจำนวนมาก
ซัลฟาเมไทอะโซลมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
ยาซัลฟาเมไทอะโซลมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้: เพื่อ
- รักษาอาการ/โรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
ซัลฟาเมไทอะโซลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ตัวยาซัลฟาเมไทอะโซลเป็นยาที่ออกฤทธิ์ในระยะสั้นๆ โดยมีกลไกการออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ในตัวแบคทีเรียที่เรียกว่า ‘Dihydropteroate synthetase’ (เอนไซม์ช่วยสังเคราะห์สารบางชนิดที่จำเป็นต่อการมีชีวิตของแบคทีเรีย) รวมถึงยับยั้งสารชีวโมเลกุลที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของแบคทีเรีย เช่น กรดโฟลิก, จากกลไกดังกล่าวส่งผลให้แบคทีเรียหยุดการเจริญเติบโตจนขาดคุณสมบัติของการแพร่พันธุ์ และตายลงในที่สุด
ซัลฟาเมไทอะโซลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาซัลฟาเมไทอะโซลมีรูปแบบการจัดจำหน่าย:
- ยาเม็ดชนิดรับประทาน ขนาด 500 มิลลิกรัม / เม็ด
- ยาเม็ดชนิดรับประทานที่ผสมร่วมกับยาอื่น เช่น Trimethoprim 160 มิลลิกรัม + Sulfamethiazole 800 มิลลิกรัม / เม็ด
ซัลฟาเมไทอะโซลมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาซัลฟาเมไทอะโซล มีขนาดรับประทาน: เช่น
- ผู้ใหญ่: รับประทาน 1.5 – 4 กรัม/วัน โดยแบ่งรับประทานเป็นวันละ 3 – 4 ครั้ง
- เด็กอายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป: รับประทาน 30 – 45 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน โดยแบ่งรับประทานเป็นวันละ 4 ครั้ง
- เด็กอายุต่ำกว่า 2 เดือน: ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกเรื่องผลข้างเคียงของยานี้ในเด็กกลุ่มนี้อย่างชัดเจน การใช้ยานี้ในเด็กกลุ่มนี้ จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีไป
*อนึ่ง:
- ควรรับประทานยานี้ในขณะที่ท้องว่าง
- ผู้ป่วยโรคตับ แพทย์อาจต้องปรับขนาดรับประทานลง
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้นไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาซัลฟาเมไทอะโซล ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะ ยาซัลฟาเมไทอะโซล อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนม หรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาซัลฟาเมไทอะโซล สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดรับประทานเป็น 2 เท่า
อย่างไรก็ตาม เพื่อประสิทธิผลของการรักษา ควรรับประทานยาซัลฟาเมไทอะโซล ตรงเวลา
ซัลฟาเมไทอะโซลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาซัลฟาเมไทอะโซลสามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย: เช่น
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น มีอาการ คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องเสีย
- ผลต่อตับ: เช่น ตับทำงานผิดปกติ มีภาวะตับโต เกิดภาวะดีซ่าน
- ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น ทำให้เกิด กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลอดเลือดดำอักเสบ
- ผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย:เช่น เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ, ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน
มีข้อควรระวังการใช้ซัลฟาเมไทอะโซลอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาซัลฟาเมไทอะโซล: เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้ และ/หรือแพ้ยากลุ่มซัลโฟนาไมด์/กลุ่มซัลฟา
- ห้ามใช้ยากับ สตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร และเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 เดือน
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้สูงอายุโดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์
- ห้ามปรับขนาดการรับประทานด้วยตนเอง
- ห้ามใช้ยาที่มีสภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วย โรคตับ โรคไต ระยะรุนแรง
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วย โรคหืด ผู้ป่วยโรคเอดส์ ผู้ป่วยภาวะขาดเอนไซม์จีซิกพีดี (G6PD)
- ระวังการเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกที่ส่งผลให้เกิดภาวะซีดเฉียบพลัน และอาการ Stevens-Johnson syndrome
- การรับประทานยานี้ควรให้ครบคอร์ส(Course)ของการรักษา โดยรับประทานยานี้อย่างต่อเนื่องตามคำสั่งแพทย์
- *หยุดการใช้ยานี้ทันที เมื่อพบอาการแพ้ยา หรือมีผื่นคันขึ้นตามผิวหนัง แล้วรีบไปโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน
- *หากอาการไม่ดีขึ้นหลังรับประทานยานี้ ควรรีบกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาล เพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา
- ไม่แบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ไม่ใช้ยาหมดอายุ
- ไม่เก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ "ยา" ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาซัลฟาเมไทอะโซลด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ซัลฟาเมไทอะโซลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาซัลฟาเมไทอะโซลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น: เช่น
- การใช้ยาซัลฟาเมไทอะโซล ร่วมกับยาบางกลุ่ม เช่น ยา Barbiturates, Tolbutamide, และ Uricosurics (ยาลดกรดยูริคในเลือด), อาจทำให้ผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียงจากยากลุ่มดังกล่าวได้มากขึ้น หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- การใช้ยาซัลฟาเมไทอะโซล ร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น ยา Warfarin จะทำให้การทำงานของยาต้านการแข็งตัวของเลือดมีฤทธิ์นานขึ้น หากจำเป็นต้องใช้ยา ร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นรายบุคคลไป
- การใช้ยาซัลฟาเมไทอะโซล ร่วมกับยา Cyclosporine อาจก่อให้เกิดอาการพิษกับไตของผู้ป่วย หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- หลีกเลี่ยงใช้ยาซัลฟาเมไทอะโซล ร่วมกับกลุ่มยา Thiazide ด้วยจะทำให้เกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
ควรเก็บรักษาซัลฟาเมไทอะโซลอย่างไร?
ควรเก็บยาซัลฟาเมไทอะโซล: เช่น
- เก็บยาภายใต้อุณหภูมิห้องที่เย็น
- ไม่เก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
- ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อน และความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ซัลฟาเมไทอะโซลมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาซัลฟาเมไทอะโซล มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
OKATRIM-DS (โอคาทริม-ดีเอส) | Cipla |
SULPHAMETHIZOLE (WARNER) (ซัลฟาเมไทโซล (วอร์เนอร์) | Warner |
บรรณานุกรม
- http://www.druglib.com/activeingredient/sulfamethizole/ [2022,Dec10]
- https://www.mims.com/India/drug/info/sulfamethizole/ [2022,Dec10]
- https://www.mims.com/India/drug/info/sulfamethizole/?type=full&mtype=generic#Dosage [2022,Dec10]
- https://www.mims.com/malaysia/drug/info/sulfamethizole?mtype=generic [2022,Dec10]
- https://go.drugbank.com/drugs/DB00576 [2022,Dec10]