ไมกลิทอล (Miglitol)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยาไมกลิทอล (Miglitol) เป็นยารักษาโรคเบาหวานประเภทที่ 2 อีกชนิดหนึ่งที่มีกลไกยับยั้งไม่ให้ร่างกายของมนุษย์เปลี่ยนสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาลชนิดโมเลกุลเดี่ยว จึงทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลได้น้อยลง ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในกระแสเลือด ปกติแพทย์จะแนะนำให้รับประทานยานี้พร้อมกับการรับประทานอาหารในมื้อหลักๆ ประสิทธิผลของยาไมกลิทอลจะต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ป่วยในการควบคุมอาหารที่รับประทานแต่ละมื้อ

ยาไมกลิทอลสามารถใช้เป็นลักษณะยาเดี่ยวในการรักษาโรคเบาหวานหรืออาจใช้ร่วมกับยารักษาเบาหวานชนิดอื่นก็ได้เช่น ยาอินซูลิน เป็นต้น

หลังการรับประทาน ตัวยาจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และมีการกระจายตัวไปทั่วร่างกายอยู่ที่ประมาณ 50 - 70% ยานี้สามารถผ่านเข้าน้ำนมมารดาและผ่านเข้ารกได้ ตัวยาจะมีการจับกับพลาสมาโปรตีนน้อยกว่า 4% แต่ไม่มีการเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีแต่อย่างใด ร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำในการกำจัดยาปริมาณ 50% ออกจากกระแสเลือด

ข้อมูลบางประการที่ผู้บริโภคควรทราบก่อนการใช้ยานี้เพื่อรักษาโรคเบาหวาน เช่น

  • ไมกลิทอลไม่ใช่ยาที่กระตุ้นให้ร่างกายใช้น้ำตาลในกระแสเลือดแต่ช่วยลดการดูดซึมของน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด
  • เป็นผู้ที่แพ้ยานี้หรือแพ้ส่วนประกอบในสูตรตำรับยาหรือไม่
  • ผู้ป่วยมีภาวะทางเดินลำไส้อุดตัน หรือมีแผลในบริเวณลำไส้ใหญ่ หรือมีการอักเสบของกระเพาะอาหาร-ลำไส้หรือไม่
  • อยู่ในภาวะเบาหวานที่มีระดับสารคีโตน (Ketone; สารเคมีในเลือดที่เป็นตัวบอกว่าร่างกายใช้น้ำตาลในเลือดไม่ได้ตามปกติ) ในร่างกายเกินหรือไม่ หรือป่วยด้วยโรคไตระยะรุนแรงหรือไม่

นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับอาการของโรคเบาหวาน ประกอบกับมีการออกกำลังกายตามสมควร และกำชับมิให้ผู้ป่วยปรับขนาดการรับประทานยานี้ด้วยตนเอง ประการสุดท้ายให้มาพบแพทย์ตามนัดหมายเพื่อตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติดีหรือไม่ แพทย์อาจจะปรับขนาดรับประทานยานี้กันใหม่หากมีอาการผิดปกติเช่น มีเลือดปนมากับปัสสาวะ/ปัสสาวะเป็นเลือดที่ต้องรีบกลับมาพบแพทย์ทันที และผู้ป่วยเบาหวานส่วนมากมักจะได้รับคำแนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเช่น ให้รับประทานน้ำหวาน ลูกอม เพื่อเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด

ยาไมกลิทอลยังมีอาการข้างเคียงที่เด่นๆและควรทราบไว้เช่น ท้องอืด มีแก๊สในกระเพาะอาหารมาก รวมถึงมีอาการถ่ายเหลว และปวดท้อง การใช้ยานี้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและปลอดภัยจะต้องเป็นไปตามคำสั่งของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น

ไมกลิทอลมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?

ไมกลิทอล1

ยาไมกลิทอลมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้เพื่อบำบัดรักษาโรคเบาหวานประเภทที่ 2

ไมกลิทอลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

ยาไมกลิทอลมีกลไกการออกฤทธิ์โดยตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งมิให้ผนังลำไส้เล็กจับกับน้ำย่อยอาหาร (เอนไซม์/Enzyme) ที่มีชื่อว่า Alpha-glucosidase enzymes จึงทำให้กระบวนการย่อยน้ำตาลโมเลกุลใหญ่ไปเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวเช่น กลูโคส (Glucose) ถูกชะลอเวลาส่งผลให้มีการดูดซึมกลูโคสน้อยลง จึงเป็นเหตุให้ลดปัจจัยการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 ได้ตามสรรพคุณ

ไมกลิทอลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

- ยาเม็ดชนิดรับประทาน ขนาด 25 และ 50 มิลลิกรัม/เม็ด

- ยาเม็ดชนิดรับประทานที่ผสมร่วมกับยาอื่น เช่น

- Miglitol 25 มิลลิกรัม + Metformin hydrochloride (SR) 500 มิลลิกรัม/เม็ด

- Miglitol 50 มิลลิกรัม + Metformin hydrochloride (SR) 500 มิลลิกรัม/เม็ด

ไมกลิทอลมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ยาไมกลิทอลมีขนาดรับประทาน เช่น

  • ผู้ใหญ่: รับประทานเริ่มต้น 25 มิลลิกรัมวันละ 3 ครั้งพร้อมอาหาร (ควรรับประทานยาพร้อมกับอาหารคำแรกของทุกมื้อ) หลังจากนั้น 4 - 8 สัปดาห์แพทย์อาจปรับขนาดรับประทานเป็น 50 มิลลิกรัมวันละ 3 ครั้งเป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกัน โดยขนาดรับประทานสูงสุดไม่เกิน 100 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวัน
  • เด็ก: ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดถึงประสิทธิภาพและผลข้างเคียงของยานี้ในเด็ก การใช้ยานี้ในเด็กจึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาไมกลิทอล ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกร ดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิดเช่น กินยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆรวมทั้งกำลังกินยาอะไรอยู่ เพราะยาไมกลิทอลอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กินอยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

เพื่อประสิทธิภาพของการรักษา ควรรับประทานยาไมกลิทอลให้ตรงเวลาตามคำสั่งแพทย์ หากลืมรับประทานยาไมกลิทอลสามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า

ไมกลิทอลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาไมกลิทอลสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ (ผลข้างเคียง) ดังนี้เช่น ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสีย และผื่นคันตามผิวหนัง

มีข้อควรระวังการใช้ไมกลิทอลอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาไมกลิทอลเช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
  • ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยเบาหวานกลุ่มอาการรุนแรงที่มีภาวะเลือดเป็นกรด (Diabetic ketoaci dosis) ผู้ที่มีภาวะลำไส้อักเสบ ลำไส้ใหญ่เป็นแผล หรือลำไส้ตีบตัน/ลำไส้อุดตัน
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้กับเด็ก สตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร โดยที่ไม่มีคำสั่งจากแพทย์ผู้รักษา
  • ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะมีไข้ มีการติดเชื้อ มีแผลบาดเจ็บ และผู้ป่วยโรคไต ด้วยสภาวะดังกล่าวจะกระตุ้นให้น้ำตาลในเลือดผิดปกติไป
  • ผู้ป่วยควรมาตรวจน้ำตาลในเลือดตามที่แพทย์นัดและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ พยาบาลอย่างเคร่งครัด
  • เรียนรู้การป้องกันตัวเองจากภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำในผู้ป่วยเบาหวาน)
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาแอมโมเนียมคาร์บอเนตด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิดและสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

ไมกลิทอลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาไมกลิทอลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นเช่น

  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาไมกลิทอลร่วมกับยา Gatifloxacin ด้วยอาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำและมีบ้างที่ผู้ป่วยบางรายเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง กรณีที่มีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำสามารถส่ง ผลให้เกิดภาวะโคม่าและเสียชีวิต (ตาย) ได้
  • การใช้ยาไมกลิทอลร่วมกับยา Pseudoephedrine, Phenylephrine, Hydrocortisone, Estradiol อาจเกิดการรบกวนการควบคุมน้ำตาลในเลือดของยาไมกลิทอล กรณีที่ต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลไป
  • การใช้ยาไมกลิทอลร่วมกับยาถ่านกัมมันต์สามารถทำให้ประสิทธิภาพของไมกลิทอลลดลงจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาไมกลิทอลร่วมกับยาช่วยย่อยอาหาร (ยาประเภท Digestive enzyme drug หรือ Digestive drug) ด้วยจะทำให้ระดับความเข้มข้นของยาไมกลิทอลในกระแสเลือดลดต่ำลงส่ง ผลให้ประสิทธิภาพการรักษาเบาหวานด้อยลงไปเช่นกัน

ควรเก็บรักษาไมกลิทอลอย่างไร?

ควรเก็บยาไมกลิทอลในช่วงอุณหภูมิ 15 - 30 องศาเซลเซียส (Celsius) ไม่เก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อนและความชื้น เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง และไม่เก็บยาไว้ในห้องน้ำหรือในรถยนต์

ไมกลิทอลมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาไมกลิทอลที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้าอื่นและบรืษัทผู้ผลิต เช่น

ชื่อการค้า บริษัทผู้ผลิต
DIAMIG (ไดอะมิก) Micro DTF
ELITOX (อีลิทอกซ์) Ranbaxy (Cardiovasculars)
EUGLITOL (ยูกลิทอล) AHPL
MIGLIT (มิกลิท) Biocon
MIGNAR-MF (มิกนาร์-เอ็มเอฟ) Glenmark (Healtheon)
MIGSET (มิกเซท) Cipla
MIGTOR (มิกเตอร์) Torrent (Delta)
MINERVA (มิเนอร์วา) Orchid (Diabetes)
MISOBIT (มิโซบิท) Lupin

บรรณานุกรม

1.http://www.mims.com/THAILAND/Home/GatewaySubscription/?generic=Miglitol[2015,Sept26]
2.https://en.wikipedia.org/wiki/Miglitol[2015,Sept26]
3.http://www.medicinenet.com/miglitol-oral/page3.htm[2015,Sept26] 4.http://www.drugs.com/cdi/miglitol.html[2015,Sept26]
5.http://www.drugs.com/drug-interactions/miglitol.html[2015,Sept26]
6.https://www.mims.com/India/drug/info/miglitol/?type=full&mtype=generic#Dosage[2015,Sept26]
7.https://www.mims.com/India/drug/search/?q=miglitol[2015,Sept26]