เซโฟซิติน (Cefoxitin)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 24 ธันวาคม 2565
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ: คือยาอะไร?
- เซโฟซิตินมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
- เซโฟซิตินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- เซโฟซิตินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- เซโฟซิตินมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมฉีดยาควรทำอย่างไร?
- เซโฟซิตินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้เซโฟซิตินอย่างไร?
- เซโฟซิตินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาเซโฟซิตินอย่างไร?
- เซโฟซิตินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)
- ยาเซฟาโลสปอริน (Cephalosporin)
- โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ (Urinary tract infection)
- ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)
- ถุงยางอนามัยชาย (Male Condom)
- การคุมกำเนิด (Contraception)
บทนำ: คือยาอะไร?
เซโฟซิติน (Cefoxitin หรือ Cephamycin) คือ ยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรครุนแรง เช่น ปอดบวม ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน กระดูกอักเสบ ฯลฯ, โดยมีรูปแบบเป็นยาฉีด
เซโฟซิตินเป็นยาในกลุ่มเซฟาโลสปอริน (Cephalosporin) รุ่นที่2, มีฤทธิ์ต่อต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรียรุนแรงทั้งกลุ่มแกรมลบและแกรมบวก (Gram negative and Gram-positive) รวมถึงกลุ่มแอนแอโรบ (แบคทีเรียที่ไม่ใช้ออกซิเจนในการเจริญเติบโต/Anaerobes) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อรุนแรงที่อวัยวะต่างๆของร่างกาย เช่นที่ ผิวหนัง กระดูก ระบบทางเดินหายใจ และระบบทางเดินปัสสาวะ
โดยยาเซโฟซิตินมีกลไกออกฤทธิ์ที่ผนังเซลล์ของแบคทีเรีย ตัวยานี้ไม่สามารถต่อต้านอาการป่วยจากเชื้อไวรัส เช่น จากโรคหวัด, ทั่วไปถ้าการใช้ยานี้ทำได้ถูกต้องและตรงกับเชื้อแบคทีเรียที่มีการตอบสนองกับยาเซโฟซิติน, ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการดีขึ้นภายในเวลาไม่กี่วันนับหลังจากได้รับยานี้, แต่ประการสำคัญ ผู้ป่วยจะต้องได้รับยาจนครบคอร์ส (Course) ของการรักษาทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้เชื้อโรคเกิดเชื้อดื้อยา
ผลข้างเคียงที่พบและเกิดขึ้นบ่อยกับผู้ป่วยที่ได้รับยาปฏิชีวนะคือ อาการท้องเสียหรือถ่ายเหลวเป็นน้ำ ผู้ป่วยบางรายอาจพบเลือดปนมากับอุจจาระ/อุจจาระเป็นเลือด, ยาเซโฟซิตินก็เป็นอีกหนึ่งรายการที่สามารถก่อให้เกิดอาการข้างเคียงดังกล่าวได้
ทางคลินิก จัดได้ว่ายาเซโฟซิตินค่อนข้างที่จะปลอดภัยกับสตรีตั้งครรภ์ ด้วยการทดลองใช้ยานี้กับสัตว์ทดลองพบว่า ไม่ก่อความพิการกับตัวอ่อนที่อยู่ในครรภ์จึงถือเป็นเหตุผลสนับสนุนที่สำคัญ, อีกทั้งยังสามารถใช้รักษาอาการป่วยของเด็ก(นิยามคำว่าเด็ก) ได้เป็นอย่างดี, แต่การใช้ยากับสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตรจะต้องเพิ่มความระมัดระวัง ด้วยตัวยาเซโฟซิตินสามารถขับออกมากับน้ำนมของมารดาได้
ข้อมูลด้านความปลอดภัยในการใช้ยาเซโฟซิตินที่ผู้บริโภคควรทราบ รวมถึงการแจ้งประวัติสุขภาพหรือโรคประจำตัวกับแพทย์ก่อนการใช้ยานี้ เช่น
- มีประวัติแพ้ยาในกลุ่มเซฟาโลสปอรินหรือไม่
- หากเป็นผู้ป่วยเบาหวาน การใช้ยานี้จะส่งผลต่อการตรวจน้ำตาลลูโคสในปัสสาวะ โดยทำให้ผลการทดสอบ/การตรวจปัสสาวะคลาดเคลื่อนได้
- การใช้ยานี้กับผู้ป่วยกลุ่มผู้สูงอายุ อาจทำให้ได้รับผลข้างเคียงของยานี้มากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอื่น
- การใช้ยานี้กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 3 เดือน ถือเป็นข้อที่ควรหลีกเลี่ยง ด้วยยังไม่มีข้อมูล ความปลอดภัยของการใช้ยากับผู้ป่วยกลุ่มนี้
- การใช้ยาเซโฟซิตินติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อโรคชนิดอื่นที่ไม่ตอบสนองต่อยานี้ เช่น โรคเชื้อรา เป็นต้น
- *ขณะใช้ยานี้แล้วมีอาการท้องเสียรุนแรง มีเลือดปนขณะถ่ายอุจจาระ ควรรีบต้องแจ้งแพทย์/มาโรงพยาบาลทันทีไม่ต้องรอถึงวันแพทย์นัด เพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการใช้ยา
- หลังการใช้ยานี้แล้ว หากอาการป่วยไม่ดีขึ้น หรือมีอาการทรุดหนักลง ต้องรีบแจ้งให้แพทย์ทราบ/รีบมาโรงพยาบาลโดยเร็ว หรือทันที/ฉุกเฉินขึ้นกับความรุนแรงของอาการ
ทั้งนี้ คณะกรรมการอาหารและยาของไทยได้ระบุให้เซโฟซิตินอยู่ในกลุ่มยาอันตราย นอกจากนั้น การใช้ยานี้จะต้องอาศัยหัตถการทางการแพทย์อย่างเหมาะสมและปฏิบัติอยู่ในสถานพยาบาลเท่านั้น
เซโฟซิตินมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
ยาเซโฟซิตินมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้: เช่น
- รักษาอาการปอดบวม, ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ), โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ, การติดเชื้อในช่องท้อง (เยื่อบุช่องท้องอักเสบ), ผิวหนังติดเชื้อ
- การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน, การติดเชื้อในกระดูก/กระดูกอักเสบ, ข้ออักเสบติดเชื้อ
- ใช้เป็นยาป้องกันการติดเชื้อในระหว่างการผ่าตัด
เซโฟซิตินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาเซโฟซิติน มีกลไกการออกฤทธิ์ โดยตัวยาจะยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ของ แบคทีเรีย ส่งผลให้แบคทีเรียหยุดการเจริญเติบโต หมดความสามารถของการแพร่พันธุ์ และตายลงในที่สุด
เซโฟซิตินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาเซโฟซิตินมีรูปแบบการจัดจำหน่าย:
- ยาฉีด ขนาด 1, 2 และ 10 กรัม/ขวด
เซโฟซิตินมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
ยาเซโฟซิตินมีขนาดการบริหารยา/ใช้ยา เช่น
ก. ผู้ใหญ่:
- กรณีติดเชื้อที่ไม่ค่อยรุนแรง: เช่น ฉีดยา 1 กรัมเข้าหลอดเลือดดำ ทุก 6 - 8 ชั่วโมง
- ติดเชื้อที่รุนแรงระดับกลาง: เช่น ฉีดยา 1 กรัม เข้าหลอดเลือดดำทุก 4 ชั่วโมง, หรือฉีดยา 2 กรัมเข้าหลอดเลือดดำทุก 6 - 8 ชั่วโมง
- ติดเชื้อในระดับที่รุนแรง:เช่น ฉีดยา 2 กรัมเข้าหลอดเลือดดำทุก 4 ชั่วโมง, หรือฉีดยา 3 กรัม เข้าหลอดเลือดดำทุก 6 ชั่วโมง
ข. เด็กอายุตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป: เช่น ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ 80 - 160 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน โดยแบ่งการให้ยาเป็น 4 - 6 ครั้งในแต่ละวัน, และขนาดการใช้ยาสูงสุดไม่ควรเกิน 12 กรัม/วัน
ค. เด็กอายุต่ำกว่า 3 เดือน: การใช้ยานี้กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 3 เดือน ถือเป็นข้อที่ควรหลีกเลี่ยง ด้วยยังไม่มีข้อมูลความปลอดภัยของการใช้ยานี้กับผู้ป่วยกลุ่มนี้
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้นไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึงยาเซโฟซิติน ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาเซโฟซิตินอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนม หรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมฉีดยาควรทำอย่างไร?
การฉีดยาเซโฟซิตินจะกระทำในสถานพยาบาล โดยมีตารางการฉีดยาตามคำสั่งของแพทย์ การลืมให้ยากับผู้ป่วยจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก
เซโฟซิตินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาเซโฟซิติน สามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) ต่อระบบอวัยวะต่างๆ: เช่น
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ลำไส้ใหญ่อักเสบชนิด Pseudomembranous colitis
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น วิงเวียน ง่วงนอน ปวดหัว
- ผลต่ออวัยวะไต: เช่น มีค่าการทำงานของไต เช่น ครีอะตินีน (Creatinine)ในเลือดสูง ไตวายเฉียบพลัน เกิดพิษกับไต/ไตอักเสบ
- ผลต่อการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ
- ผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ: เช่น มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ผลต่อระบบเลือด: เช่น เม็ดเลือดขาวชนิด Eosinophilia สูง, เม็ดเลือดขาวต่ำ, เม็ดเลือดขาวชนิด Neutrophilต่ำ, เกล็ดเลือดต่ำ, โลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก และกดไขกระดูก
- ผลต่อการทำงานของตับ: เช่น มีระดับค่าการทำงานของเอนไซม์ตับในเลือดผิดปกติ เช่น ค่า SGOT (serum glutamic-oxaloacetic transaminase) และ SGPT (Serum glutamic pyruvic transaminase) เพิ่มสูงขึ้น
- ผลต่อระบบสืบพันธุ์สตรี: เช่น ช่องคลอดอักเสบ, การติดเชื้อราในช่องคลอด
มีข้อควรระวังการใช้เซโฟซิตินอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้เซโฟซิติน: เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 3 เดือน
- การใช้ยานี้กับ สตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก และผู้สูงอายุ จะต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น
- *หากใช้ยานี้แล้วเกิดอาการแพ้ยา ต้องหยุดใช้ยานี้ทันที และรีบแจ้งแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็ว ทันที/ฉุกเฉิน
- *ผู้ป่วยอาจเกิดภาวะท้องเสีย ถ่ายเหลว ถ่ายเป็นน้ำ กรณีการถ่ายมีเลือดปนหรือท้องเสียอย่างรุนแรง ต้องรีบรายงานและแจ้งแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็วเพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา
- ผู้ป่วยต้องได้รับยานี้ครบคอร์สถึงแม้อาการจะดีขึ้นภายใน 1 - 2 วันแรกก็ตาม ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดอาการเชื้อดื้อยา
- ห้ามใช้ยานี้ที่มีสิ่งเจือปน เช่น กรณีพบฝุ่นผงปนมากับตัวยา
- ยานี้ใช้ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย, ห้ามนำไปรักษาโรคติดเชื้อกลุ่มอื่นๆ เช่น โรคติดเชื้อไวรัส
- การใช้ยานี้ติดต่อกันนานๆ จะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อชนิดอื่นที่ยาเซโฟซิตินไม่สามารถต่อต้านได้ เช่น โรคเชื้อรา เป็นต้น
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาเซโฟซิตินด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
เซโฟซิตินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาเซโฟซิตินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น: เช่น
- การใช้ยาเซโฟซิติน ร่วมกับยา Heparin อาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกง่าย หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลไป
- การใช้ยาเซโฟซิติน ร่วมกับกลุ่มยา Aminoglycosides อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงกับไตของผู้ป่วยได้ หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
- การใช้ยาเซโฟซิติน ร่วมกับยาเม็ดคุมกำเนิด อาจทำให้ประสิทธิภาพการคุมกำเนิดด้อยลง ผู้ป่วยควรใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย เช่น การใช้ถุงยางอนามัยชาย
- การใช้ยาเซโฟซิติน ร่วมกับยา Entecavir (ยาต้านไวรัส) อาจทำให้ระดับยาตัวใดตัวหนึ่ง หรือทั้งสองตัวในกระแสเลือดเพิ่มสูงขึ้น จนอาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียงต่างๆตามมา หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
ควรเก็บรักษาเซโฟซิตินอย่างไร?
ควรเก็บยาเซโฟซิติน: เช่น
- เก็บยาตามคำแนะนำในเอกสารกำกับยา/ฉลากยา
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อน และความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ยาเซฟาโลสปอรินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาเซโฟซิติน มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Cefoxin (เซโฟซิน) | M & H Manufacturing |
Cefxitin (เซฟซิทิน) | Siam Bheasach |
อนึ่ง: ยาชื่อการค้าอื่นของยาเซโฟซิตินที่จำหน่ายในต่างประเทศ เช่น Mefoxin
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Cefoxitin [2022,Dec24]
- https://www.drugs.com/mtm/cefoxitin.html [2022,Dec24]
- https://www.mims.com/Thailand/drug/info/Cefoxin/ [2022,Dec24]
- https://www.drugs.com/dosage/cefoxitin.html [2022,Dec24]
- https://www.drugs.com/drug-interactions/cefoxitin-index.html?filter=2&generic_only= [2022,Dec24]
- https://go.drugbank.com/drugs/DB01331 [2022,Dec24]