เจ็บไข้ได้ป่วย ตอนที่ 25 – สารอาหาร (2)

เจ็บไข้ได้ป่วย – สารอาหาร (2)

สโมสรสารโภชนาการทางการแพทย์แห่งอเมริกา (American Society of Clinical Nutrition) ซึ่งตีพิมพ์บทความในวารสารอเมริกันด้านสารโภชนาการทางการแพทย์ (American Journal of Clinical Nutrition) ได้รับการสนับสนุนโดย บริษัท ยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ที่ผลิตอาหารที่อุดมด้วยน้ำตาล, ผลิตน้ำอัดลม, ผลิตเนื้อสัตว์แปรรูป ฯลฯ

นี่เป็นผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of interest) มิใช่หรือ?

ในสหรัฐอเมริกา บริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหารและยา เป็นผู้ทรงอิทธิผลมากทางการเมือง

               เราถูกล้างสมอง (Brain-washed) โดยโฆษณาที่เราเห็นทุกๆ นาทีของทุกๆ วัน เราได้รับการบอกกล่าวว่าจะกินอย่างไร? อยู่อย่างไร? และซื้ออะไร? เป็นต้น ชีวิตคนเรากำลังถูกทำลาย (Destroyed)

               ผลลัพธ์ของการกินถูกนิยามกันใหม่ (Refined) อาหารแปรรูป (Processed foods) ที่ปราศจากสารอาหารที่จำเป็น ทำให้ประเทศมั่งคั่งที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้า ต้องทนทุกข์ทรมานจากทุกรูปแบบของทุพโภชนาการ (Mal-nutrition) และโรคเสื่อมสภาพ (Degenerative diseases)

               นายแพทย์ ซี เอฟเวอเรตต์ คุป (C. Everett Koop) เป็นกุมารศัลยแพทย์ (Pediatric surgeon) และต่อมาเป็นศาสตราจารย์กุมารศัลยศาสตร์ ณ โรงเรียนแพทย์ มหาวิทยาลัย Pennsylvania นอกจากนี้ เขายังเป็นนักเขียน และถ่ายทำภาพยนตร์ชุด (Series) จนเป็นที่รู้จักกันไปทั่ว

               ต่อมาเขาได้เป็นผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐอเมริกา (Surgeon General) ภายใต้รัฐบาลโรนัลด์ แรแกน (Ronald Reagan) ระหว่างปี ค.ศ. 1982 – 1989 แม้จะไม่เป็นที่ชื่นชอบของหลายกลุ่มที่ขัดแย้งความคิดทางการเมือง เขาก็มีผลงานในการกำหนดให้มีฉลากคำเตือนอันตรายของการใช้ยาสูบ (Tobacco), สนับสนุนการใช้ถุงยางอนามัยในการควบคุมการแพร่กระจายของโรคเอดส์ (AIDS/HIV), ต่อต้านการทำแท้ง (Abortion), และส่งเสริมสิทธิของเด็กพิการ

               เขากล่าวถึงความกังวลเรื่องอาหารของชาวอเมริกันว่า “ทางเลือกหนึ่งที่ดูเหมือนจะมีอิทธิพลต่อสุขภาพในอนาคตเป็นเวลายาวนาน (Long-term health prospects) มากกว่าทางเลือกอื่น ก็คือ สิ่งที่เรากิน”

               ทุกวันนี้บริษัทยักษ์ใหญ่มุ่งเน้นผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ (Commercialized greedy) สร้างเครื่องจักรที่ปั๊มเงินจนเพิ่มกำไรมหาศาล โดยป้อนอาหารขยะ (Junk food) ให้ประชากรส่วนใหญ่ แล้วตามมาด้วยการรักษาด้วยยา อันเป็นอุตสาหกรรมขนาดยักษ์เช่นกัน

               สิ่งที่น่าเคือง (Rub) ก็คือ สถาบันหรือองค์กร (Establishments) ต่างชักจูงสาธารณชนว่า ไม่ว่าจะกินอาหารอะไร ที่แปรรูป, ห่างไกลจากธรรมชาติ (De-natured), ขาดพลังชีวิตชีวา (De-vitalized), หรือเต็มไปด้วยสารเคมี (Chemical-filled) ร่างกายของเราก็ยังอยู่ได้ ตราบใดที่เรากินวิตามิน, แร่ธาตุ (Mineral), ยาลดกรด (Antacid), และยาแก้แพ้ (Allergy remedies)

               ประเด็นแรกเป็นเรื่องของอาหาร และประเด็นหลังเป็นเรื่องของยา

หมายเหตุ- บล็อกเรื่องอาหารเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยังไม่ชัดเจน เพียงแต่มีกลุ่มคนที่ศึกษาในเรื่องนี้มีข้อเสนอแนะที่ต่างออกไป อยากให้ผู้อ่านตระหนักว่า ยังเป็นแนวคิดใหม่ ที่กำลังศึกษาว่า น่าจะเป็นประโยชน์ แต่ต้องระมัดระวังด้วย ในทางปฏิบัติจึงต้องพิจารณาให้ดี ถึงสุขภาพ, นานาโรค, ยาต่างๆ, และคำแนะนำของแพทย์ที่เป็นที่ยอมรับแล้ว ข้อสำคัญ ต้องไม่ให้เกิดโทษ เช่น ปฏิเสธวิธีเดิมทั้งๆ ที่แพทย์แนะนำ เป็นต้น

แหล่งข้อมูล

  1. Traverso, Matt. (2014). Health, Vitality, and Energy in Your Body (eBook). USA.
  2. Nutrient - https://en.wikipedia.org/wiki/Nutrient [2021, August 24].
  3. Everett Koop - https://en.wikipedia.org/wiki/C._Everett_Koop,_M.D. [2021, August 24].