อะเทโซลิซูแมบ (Atezolizumab)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยาอะเทโซลิซูแมบ(Atezolizumab) เป็นยาในกลุ่มโมโนโคลนอล แอนตีบอดี (Monoclonal antibodies) ทางคลินิกได้ใช้ยานี้รักษาโรคมะเร็งชนิดเป็นก้อน(Solid tumor) โดยยาอะเทโซลิซูแมบมีกลไกการออกฤทธิ์ในลักษณะภูมิคุ้มกันบำบัด(Immunotherapy) ประวัติการศึกษาทดลองใช้อะเทโซลิซูแมบที่ผ่านมาเป็นดังนี้

  • ปี ค.ศ.2016 (พ.ศ.2559) ยานี้ได้ถูกยอมรับในประสิทธิภาพการรักษา มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ(Bladder cancer)
  • ปี ค.ศ.2017 (พ.ศ.2560) กลับพบความล้มเหลวบางประการในการใช้ยานี้เพื่อรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะในเฟสที่ 3
  • ปี ค.ศ.2018 (พ.ศ.2561) ถูกนำมาใช้ร่วมกับ ยาAvastin และการทำเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็งปอด (Lung cancer)
  • ปี ค.ศ.2019 (พ.ศ.2562) ถูกประกาศให้ใช้ ยาอะเทโซลิซูแมบเพื่อรักษามะเร็งเต้านม ชนิด Triple-negative breast cancer

ก่อนที่ผู้ป่วยจะได้รับยาอะเทโซลิซูแมบแพทย์จะทำการตัดชิ้นเนื้อเพื่อนำไปตรวจสอบหาโปรตีนพี ดี-แอลวัน (PD-L1/Programmed cell death ligand1) เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งจริงหรือไม่

สำหรับการออกฤทธิ์ของยาอะเทโซลิซูแมบ จะเป็นไปในลักษณะกระตุ้นภูมิต้านทานมะเร็งของร่างกายให้กลับมาแข็งแรงและทำหน้าที่เพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ยาชนิดนี้ก็ส่งผลให้ภูมิต้านทานมะเร็งต่อต้านเซลล์ปกติของร่างกายได้เช่นเดียวกัน

สำหรับผลข้างเคียงที่อาจพบเห็นได้ของยาอะเทโซลิซูแมบ เช่น มีอาการเจ็บหน้าอก ไอ หายใจติดขัด/หายใจลำบาก ตัวบวม คลื่นไส้-อาเจียน เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลง ท้องเสีย ปวดท้อง ตาพร่ามองเห็นภาพไม่ชัด อารมณ์แปรปรวน กระหายน้ำ ปัสสาวะมาก กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีอาการมึนงง ตัวเหลืองตาเหลือง

จากผลข้างเคียงดังกล่าวของยาอะเทโซลิซูแมบ ส่งผลให้แพทย์ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อต้องใช้ยานี้กับกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งที่มีโรคหรือภาวะดังต่อไปนี้ อาทิ

  • อยู่ในสภาวะร่างกายติดเชื้อ
  • ป่วยด้วยโรคลูปัส (Lupus), ลำไส้ใหญ่เป็นแผล (Ulcerative colitis) หรือ เป็นโรคโครห์น (Crohn’s disease)
  • มีปัญหาสุขภาพด้านระบบทางเดินหายใจ
  • ป่วยเป็น โรคตับ หรือ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

รูปแบบเภสัชภัณฑ์ของยาอะเทโซลิซูแมบ เป็นแบบฉีด โดยหยดเข้าทางหลอดเลือดดำอย่างช้าๆ อาจต้องใช้เวลาการให้ยาต่อครั้งประมาณ 60 นาที ผู้ที่ได้รับยานี้จะต้องเว้นช่วงพักไป 2–3 สัปดาห์แล้วกลับมารับการให้ยาใหม่ แต่ละรอบของการให้ยาของผู้ป่วยจะขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ที่ทำการรักษา แพทย์จะหยุดการใช้ยานี้ด้วย 2 เหตุผล คือ

  • อาการผู้ป่วยมะเร็งดีขึ้นและอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถหยุดการใช้ยานี้ได้แล้ว
  • เกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรงและก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานกับผู้ป่วย

ประเทศไทยจะพบเห็นการจัดจำหน่ายยาอะเทโซลิซูแมบภายใต้ชื่อการค้า ‘Tecentriq’ และมีการใช้แต่ในสถานพยาบาลที่เปิดทำการรักษาโรคมะเร็งเท่านั้น

อะเทโซลิซูแมบมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?

อะเทโซลิซูแมบ

ยาอะเทโซลิซูแมบมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น

  • รักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะในระยะแพร่กระจาย(Metastatic urothelial carcinoma)
  • รักษามะเร็งปอดระยะแพร่กระจาย (Metastatic non-squamous non-small cell lung cancer/NSCLC)

อะเทโซลิซูแมบมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

T-cell เป็นชนิดหนึ่งของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีบทบาทมากต่อระบบภูมิคุ้มกัน/ภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของมนุษย์ โดยมันจะจับกินสิ่งแปลกปลอมที่หลุดเข้ามาในร่างกาย บนผิวของT-cell มีตัวรับ(Receptor)ที่เป็นโปรตีนซึ่งเรียกกันว่า PD-1 และบนผิวเซลล์มะเร็งจะมีโปรตีนอีกชนิดหนึ่งซึ่งเรียกกันย่อๆ ว่า PD-L1 กรณีที่ PD-1 ของT-cell เข้าจับกับ PD-L1 ของเซลล์มะเร็ง จะส่งผลให้T-cell หมดความสามารถในการจับกินเซลล์มะเร็ง ตัวยาอะเทโซลิซูแมบมีกลไกต่อการเข้าเข้าจับกับ PD-L1 ของเซลล์มะเร็ง จึงส่งผลปิดกั้นการเข้าจับ PD-L1 ของเซลล์มะเร็งกับ PD-1 ของT-cell และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้T-cell กลับมาทำงานเป็นปกติในการกำจัดเซลล์มะเร็งได้ตามสรรพคุณ

อะเทโซลิซูแมบมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

รูปแบบการจัดจำหน่ายของยาอะเทโซลิซูแมบ:

  • ยาฉีดแบบสารละลายปราศจากเชื้อ ที่ประกอบด้วย Atezolizumab 1200 มิลลิกรัม/20มิลลิลิตร

อะเทโซลิซูแมบมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?

การใช้ยาอะเทโซลิซูแมบกับผู้ป่วยมะเร็งจะต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น ปัจจัยที่แพทย์นำมาใช้คำนวณขนาดการใช้ยานี้ เช่น ชนิดของมะเร็ง, น้ำหนักของร่างกาย,รวมถึงอายุ, และประวัติการเจ็บป่วย, เป็นต้น สำหรับมะเร็งปอดระยะแพร่กระจาย (NSCLC with / no EGFR or ALK genomic tumor aberrations) แพทย์อาจใช้ยา Bevacizumab, Paclitaxel, และ Carboplatin, มาช่วยสนับสนุนการรักษา

อย่างไรก็ตามระหว่างที่ได้รับยาอะเทโซลิซูแมบแล้วพบอาการดังต่อไปนี้ ต้องรีบนำผู้ป่วยกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็ว เช่น

  • มีไข้สูงคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่
  • มีความดันโลหิตสูง ปวดศีรษะ เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสายตา
  • อึดอัด/หายใจไม่ออก ไอ มีอาการเจ็บหน้าอกเกิดขึ้น หัวใจเต้นผิดปกติ
  • ตัวเหลืองตาเหลือง
  • บวมตรงข้อเท้า
  • มึนงง อารมณ์แปรปรวน กระหายน้ำมาก
  • ผมร่วง
  • ท้องผูก
  • น้ำหนักตัวลดลง
  • ปวดท้องรุนแรง
  • คลื่นไส้
  • ท้องเสีย ถ่ายเหลว และมีเลือดปนมากับอุจจาระ/อุจจาระเป็นเลือด

ดูแลตนเองอย่างไรขณะได้รับอะเทโซลิซูแมบ?

การดูแลตนเองขณะได้รับยาอะเทโซลิซูแมบ ที่สำคัญ เช่น

  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่มีผู้คนแออัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคต่างๆ
  • ล้างมือบ่อยๆเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • การใช้ยาชนิดต่างๆขณะได้รับอะเทโซลิซูแมบ จะต้องเป็นไปตามคำสั่งของ แพทย์เท่านั้น
  • กรณีพบอาการข้างเคียง/ผลข้างเคียงรุนแรงจากยานี้ ต้องรีบนำผู้ป่วยกลับมาขอคำปรึกษาจากแพทย์/มาโรงพยาบาล เพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา
  • ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบเมื่อได้รับยานี้
  • ปฏิบัติตัว อาทิ พักผ่อนให้เต็มที่ และรับประทานอาหารให้ถูกสัดส่วน พร้อมกับมารับการให้ยานี้ตรงตามที่แพทย์นัดหมาย

เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิด รวมยาอะเทโซลิซูแมบ ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหน้าอก/ หายใจติดขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคตับ โรคระบบทางเดินหายใจ กล้ามเนื้ออ่อนแรง รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาอะเทโซลิซูแมบอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมมารับการฉีดยาควรทำอย่างไร?

เพื่อประสิทธิผลของการรักษา ควรมารับการให้ยาอะเทโซลิซูแมบตรงตามเวลาที่แพทย์นัดหมาย หากลืมมารับการฉีดยา ต้องรีบแจ้งให้ แพทย์/พยาบาล/เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบ และทำการนัดหมายการให้ยาครั้งต่อไปโดยเร็ว

อะเทโซลิซูแมบมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาอะเทโซลิซูแมบอาจก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย เช่น

  • ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น หายใจขัด ไอ มีอาการปอดอักเสบ
  • ผลต่อระบบประสาท: เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ
  • ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้-อาเจียน ท้องเสียหรือท้องผูก ลำไส้อุดตัน
  • ผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ: เช่น ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ สูงหรือไม่ก็ต่ำ
  • ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: เช่น ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบ/ โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ ปัสสาวะขัด
  • ผลต่อผิวหนัง: เช่น มีผื่นคันตามร่างกาย เจ็บบริเวณที่ฉีดยา
  • ผลต่อตา: เช่น เยื่อตาอักเสบ
  • ผลต่อตับ: เช่น เอนไซม์การทำงานของตับในเลือดสูงขึ้น/ ตับอักเสบ
  • ผลต่อระบบเลือด: เช่น อาจมีภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด โลหิตจาง/ โรค ซีด
  • ผลต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น เบื่ออาหาร โซเดียมในเลือดต่ำ น้ำตาลในเลือดสูง อัลบูมินในเลือดต่ำ
  • ผลต่อไต: เช่น มีเลือดปนมากับปัสสาวะ/ปัสสาวะเป็นเลือด
  • ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น รู้สึกสับสน
  • ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น ปวดหลัง ปวดคอ ปวดข้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง

*อนึ่ง อาการข้างเคียงดังกล่าว อาจเกิดขึ้นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกายของแต่ละบุคคล

มีข้อควรระวังการใช้อะเทโซลิซูแมบอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้อะเทโซลิซูแมบ เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้แพ้ยานี้
  • ห้ามใช้ยานี้กับสตรีมีครรภ์
  • การใช้ยากับสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก และผู้สูงอายุ ต้องอยู่ภายใต้ คำสั่งแพทย์เท่านั้น
  • หลังจากได้รับยาชนิดนี้หากพบอาการ อึดอัด/หายใจไม่ออก มีผื่นคันขึ้นเต็มตัว ให้ตั้งสมมุติฐานว่าเกิดอาการแพ้ยา และต้องรีบให้แพทย์ช่วยเหลือโดยเร็ว/รีบมาโรงพยาบาลทันที
  • มาพบแพทย์เพื่อ ตรวจร่างกาย ตรวจภาวะแทรกซ้อน และรับการฉีดยาตามที่ แพทย์นัดทุกครั้ง
  • ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร อย่างเคร่งครัด
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาอะเทโซลิซูแมบด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บhaamor.comบทความเรื่องข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ

อะเทโซลิซูแมบมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาอะเทโซลิซูแมบมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • หลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนบีซีจี (BCG) ระหว่างที่ได้รับยาอะเทโซลิซูแมบ ด้วยมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากวัคซีนบีซีจี
  • ห้ามใช้ยาอะเทโซลิซูแมบร่วมกับ ยา Certolizumab ด้วยอาจเกิดภาวะติดเชื้ออย่างรุนแรงตามม
  • ห้ามใช้ยาอะเทโซลิซูแมบ ร่วมกับยา Thalidomide และ Dexamethasone ด้วยเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียงอย่างรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
  • ห้ามใช้ยาอะเทโซลิซูแมบร่วมกับ ยา Tofacitinib ด้วยเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการเกิดมะเร็งชนิดอื่นตามมา

ควรเก็บรักษาอะเทโซลิซูแมบอย่างไร?

ควรเก็บรักษาอะเทโซลิซูแมบ เช่น

  • เก็บยาภายใต้อุณหภูมิ 2–8 องศาเซลเซียส(Celsius)
  • ห้ามเก็บในช่องแช่แข็งตู้เย็น
  • เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น
  • เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
  • ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
  • ระหว่างการเก็บรักษาห้ามนำยามาเขย่าเล่น
  • ห้ามทิ้งยาลงในแม่น้ำลำคลอง หรือแหล่งน้ำตามธรรมชาติ และห้ามทิ้งลงพื้นดิน
  • ไม่เก็บยาที่หมดอายุแล้ว

อะเทโซลิซูแมบมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาอะเทโซลิซูแมบ มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น

ชื่อการค้าบริษัทผู้ผลิต
Tecentriq (เทเซนทริก)Roche

บรรณานุกรม

  1. https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2018/761034s010lbl.pdf [2019,Aug3]
  2. https://www.drugs.com/dosage/tecentriq.html [2019,Aug3]
  3. https://www.mims.com/thailand/drug/info/tecentriq/?type=brief[2019,Aug3]
  4. https://www.mims.com/thailand/drug/info/tecentriq/indications [2019,Aug3]
  5. https://en.wikipedia.org/wiki/Atezolizumab [2019,Aug3]
  6. https://www.semanticscholar.org/paper/Regulation-of-PD-L1%3A-Emerging-Routes-for-Targeting-Wang-Wang/8f0617ca356f632d81d284d76b86fe7c5af68ca7/figure/2 [2019,Aug3]