หญ้าหวาน (Stevia)

สารบัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

บทนำ: คืออะไร?

หญ้าหวาน (Stevia) เป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Stevia rebaudiana  มีความหวานมากกว่าน้ำตาลประมาณ 150 เท่า จึงนำมาใช้ปรุงแต่งรสชาติอาหาร/เครื่องดื่มให้หวานขึ้นแทนน้ำตาล เพื่อลดปริมาณน้ำตาล/พลังงานส่วนเกินจากน้ำตาลโดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน

หญ้าหวาน เป็นพืชที่มนุษย์รู้จักมาเป็นเวลานานกว่า 1,500 ปี  ชนพื้นเมืองแถบอเมริกาใต้เป็นผู้ค้นพบและนำมาใช้เป็นครั้งแรก, มนุษย์ได้นำสารสกัดของหญ้าหวานมาเป็นส่วนประกอบในชาที่ชงดื่ม รวมถึงยาสมุนไพรโบราณ, ในแถบเอเชียพบว่าประเทศญี่ปุ่นมีการใช้สารสกัดจากหญ้าหวานอย่างแพร่หลาย โดยนำไปเป็นส่วนประกอบของอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ และมียอดขายคิดเป็นปริมาณ 40% จากจำนวนสารให้ความหวานที่วางตลาดทั้งหมดในประเทศ 

ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าสารสกัดจากหญ้าหวานประกอบไปด้วยกลุ่มสารที่มีชื่อเรียกว่า ไกลโคไซด์ (Glycoside) และ อะไกลโคน (Aglycone),  สารไกลโคไซด์จะประกอบไปด้วยโมเลกุลของน้ำตาลกลูโคส (Glucose),  ส่วนสารอะไกลโคนจะประกอบไปด้วยน้ำตาลที่มีโมเลกุลใหญ่ขึ้นหรืออาจเรียกรวมๆว่าโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharides), ซึ่งกลุ่มน้ำตาลเหล่านี้นี่เองที่ทำให้สารสกัดของหญ้าหวานมีรสหวาน

ระบบทางเดินอาหารของมนุษย์สามารถย่อยสลายและแยกไกลโคไซด์ของหญ้าหวานออกมาเป็นน้ำตาลกลูโคสและเป็นสารให้รสหวานที่เรียกว่าสตีวิออล (Steviol),  โดยน้ำตาลกลูโคสที่ได้นี้  ส่วนใหญ่จะถูกแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ดึงไปใช้เป็นพลังงานของตัวลำไส้เอง จึงมีกลูโคสจากสารสกัดหญ้าหวานเพียงส่วนน้อยที่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด, ส่วนสารสตีวิออลและสารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharides) บางส่วนจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และส่วนใหญ่ที่เหลือจะถูกขับทิ้งไปกับอุจจาระ

* องค์การอนามัยโลกได้ประกาศความปลอดภัยของการใช้สารหญ้าหวานชนิด Steviol glycoside เป็นวัตถุเจือปนในอาหาร โดยปริมาณที่ได้รับ 'ต่อวันต้องไม่เกิน 4 มิลลิกรัม/ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม'

ปัจจุบัน เราสามารถพบเห็นการใช้สารสกัดจากหญ้าหวานในหลายประเทศทั่วโลก,  สำหรับประเทศไทยก็สามารถพบเห็นผลิตภัณฑ์หญ้าหวานสกัดที่มีบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัย และเป็นที่ยอมรับกับกลุ่มคนที่ชื่นชอบวิถีทางธรรมชาติได้เช่นกัน

หญ้าหวานมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?

หญ้าหวาน-01

 

หญ้าหวานมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้: เช่น  

  • ใช้ปรุงแต่งรสชาติของเครื่องดื่มและอาหาร
  • บางประเทศ ใช้ปรุงแต่งอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ด้วยมีข้อมูลงานวิจัยสนับสนุนว่า ทำให้อาการเบาหวานดีขึ้น กล่าวคือ สารสกัดหญ้าหวานช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และอาจช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งจะส่งผลดีต่อระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน 

อย่างไรก็ตาม ในการจะใช้หญ้าหวาน ผู้บริโภคควรติดตามและรับฟังข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขไทย โดยเฉพาะประกาศกระทรวงสาธารณสุขไทยที่ให้ใช้หญ้าหวานเป็นวัตถุเจือปนในอาหาร และใช้ในอาหารทางการแพทย์ได้ แต่ต้องอยู่ในการควบคุมขนาดบริโภคตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข  ฉบับที่ 391 พ.ศ. 2561 (แนะนำอ่านรายละเอียดประกาศนี้ในจากเว็บฯในบรรณานุกรมที่ 1)

หญ้าหวานมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

กลไกการออกฤทธิ์ของหญ้าหวาน คือสารสกัดของหญ้าหวานที่เป็นไกลโคไซด์ (Glycoside) ซึ่งมีส่วนประกอบของน้ำตาลกลูโคส และ สารอะไกลโคน (Aglycone) ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลที่ใหญ่ขึ้น จะทำปฏิกิริยากับต่อมรับรสของลิ้น ทำให้เรารับรสความหวานซึ่งมีมากกว่าน้ำตาลถึง 150 เท่า และต่อมรับรสบางส่วนจะทำปฏิกิริยากับสารอะไกลโคนซึ่งทำให้รู้สึกถึงรสขมได้เล็กน้อย

ทั้งนี้ สารสกัดจากหญ้าหวาน ให้พลังงานต่ำกับร่างกาย ด้วยแบคทีเรียของลำไส้ใหญ่จะดึงน้ำตาลกลูโคสบางส่วนจากสารไกลโคไซด์ไปใช้ ซึ่งส่วนนี้จะไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด  และจะถูกขับทิ้งออกจากร่างกาย, จากกลไกดังกล่าวนี้ จึงก่อให้เกิดฤทธิ์ตามสรรพคุณ

หญ้าหวานมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

สารสกัดจากหญ้าหวานมีรูปแบบการจัดจำหน่าย: เช่น

  • บรรจุในซองขนาด 50 กรัม

หญ้าหวานมีขนาดรับประทานอย่างไร?

สารสกัดหญ้าหวาน จะระบุขนาดและวิธีการใช้มากับตัวผลิตภัณฑ์ ที่ผู้บริโภคสามารถใช้เป็นแนวทางในการนำมาผสมหรือปรุงรสชาติในการรับประทาน

หญ้าหวานมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ด้วยสารสกัดจากหญ้าหวานมิได้ถูกจดทะเบียนในตำรับยา จึงยังไม่มีข้อมูลการศึกษาด้านผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา/สาร (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) มาสนับสนุนและเผยแพร่มากนัก ปัจจุบันจึงยังไม่พบรายงานผลข้างเคียงจากการบริโภคหญ้าหวานในขนาดตามที่ระบุในผลิตภัณฑ์ที่รับรองคุณภาพโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข (อย.)

มีข้อควรระวังการใช้หญ้าหวานอย่างไร?

ปัจจุบัน ยังไม่พบข้อห้ามใช้หญ้าหวานที่เด่นชัด, แต่ข้อควรระวัง: เช่น

  • ไม่ควรบริโภคหญ้าหวานในขนาด/ปริมาณเกินกว่าที่กำหนดในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับคำรับรอง ความปลอดภัยการบริโภคจาก ‘สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข(อย.)’  
  • *ต้องไม่บริโภคหญ้าหวานหากเคยมีอาการแพ้หญ้าหวาน โดยหากผู้บริโภครับประทาน หญ้าหวานแล้วเกิดอาการแพ้  หรือมีความผิดปกติเกิดขึ้น เช่น  มีผื่นคัน  หายใจไม่ออก/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย  ตัวบวม  *ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์นี้ทันที และต้องรีบมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็ว ทันที/ฉุกเฉิน      
  • สตรีตั้งครรภ์  สตรีให้นมบุตร และเด็ก ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการบริโภคหญ้าหวานเสมอ
  • ไม่บริโภคผลิตภัณฑ์หญ้าหวานที่หมดอายุ
  • ไม่เก็บผลิตภัณฑ์หญ้าหวานที่หมดอายุ

*****อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ "ยา" ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบัน  ยาแผนโบราณ  สมุนไพร  อาหารเสริม  ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร  สารปรุงแต่งรสชาติต่างๆอย่างหญ้าหวาน  ด้วยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอาจมีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาหรือสารปรุงแต่งทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ

หญ้าหวานมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ด้วยสารสกัดหญ้าหวานเป็นสารปรุงรสหวานไม่ใช่ยา จึงยังไม่พบมีรายงานเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา/ อันตรกิริยา กับยารับประทานชนิดใดๆ

ควรเก็บรักษาหญ้าหวานอย่างไร?

ควรเก็บผลิตภัณฑ์หญ้าหวาน: เช่น

  • เก็บในอุณหภูมิห้องที่เย็น
  • ห้ามเก็บในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
  • เก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อน และความชื้น
  • เก็บให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
  • ไม่เก็บในห้องน้ำหรือในรถยนต์

หญ้าหวานมีชื่ออื่นอีกไหม?

ชื่ออื่นของหญ้าหวาน เช่น  Sweet Health,  Truvia, SweetLeaf

บรรณานุกรม

  1. http://food.fda.moph.go.th/law/data/announ_fda/P390-P391.pdf  [2022,Sept3]
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Stevia  [2022,Sept3]
  3. http://www.thaiorganiclife.com/product/sweet-health-natural-sweetness-pure-concentrated-stevia-leaf-extract-powder/  [2022,Sept3]
  4. http://www.thaiorganiclife.com/about/  [2022,Sept3]
  5. https://www.livescience.com/39601-stevia-facts-safety.html  [2022,Sept3]