4. ตลาดเครื่องมือแพทย์ - ตอนที่ 39
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 28 สิงหาคม 2567
- Tweet
- ผู้ประกอบธุรกิจด้านการแพทย์และสุขภาพ (โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน [Private hospital]) มีแนวโน้มขยายการลงทุนต่อเนื่องโดยการขยายพื้นที่ให้บริการ (Service area), จัดตั้งศูนย์แพทย์เฉพาะทาง (Specialty), การขยายสาขา (Branch expansion) และการสร้าง (Construction) โรงพยาบาลแห่งใหม่ในเมืองรอง (Secondary city) และจังหวัดศูนย์กลางภูมิภาค (Regional center)
นอกจากนี้ ยังรวมถึงจังหวัดท่องเที่ยว (Tourism province) ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพ (Potential) การรักษาพยาบาลและการดูแลสุขภาพ (Health-care) ตอบสนองอุปสงค์ (Demand) ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงช่วยเพิ่มความต้องการใช้เครื่องมือแพทย์ (Medical device) ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อส่วนบุคคล (Personal protective equipment: PPE) เพื่อเพิ่มความปลอดภัย (Safety)
- ทิศทางการเติบโตต่อเนื่องของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า (Trading partner) หนุน (Bolster) ความต้องการเครื่องมือแพทย์จากไทยเพิ่มขึ้นโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ประเมิน (Assess) เศรษฐกิจประเทศที่เป็นตลาดส่งออก (Export market) สำคัญของไทย
อันได้แก่ สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, เนเธอร์แลนด์, จีน, และเยอรมนี มีสัดส่วน (Proportion) รวมกัน 57.5% ของมูลค่าส่งออกเครื่องมือแพทย์ในปี พ.ศ. 2565 คาดว่า (Forecast) จะเติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้มีความต้องการเครื่องมือแพทย์ทั้งกลุ่มวัสดุสิ้นเปลือง (Supplies) และกลุ่มน้ำยา (Reagent) และชุดวินิจฉัยโรค (Diagnostic kits) ปี พ.ศ. 2566 เพิ่มขึ้น ดังนี้
มูลค่าส่งออกน้ำยาและชุดวินิจฉัยโรคไปจีนและสหรัฐอเมริกา มีสัดส่วน 27.3% และ 15.6% (ตามลำดับ) ของมูลค่าส่งออกน้ำยาและชุดวินิจฉัยโรค โดยเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย +20.3% และ +1.8% ในช่วงปี พ.ศ. 2562 ถึง พ.ศ. 2564 ตามลำดับ ส่วนญี่ปุ่น มีแนวโน้ม (Trend) เพิ่มขึ้นในหมวดชุดตรวจกลุ่มเลือด (In-vitro diagnostic set) ซึ่งปี พ.ศ. 2565 เพิ่มขึ้น +18.7% จากปีก่อน
สำหรับกลุ่มครุภัณฑ์ (Durable group) คาดว่าอุปกรณ์การแพทย์ (Medical equipment) ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุ (Elderly care) อันได้แก่ รถเข็น (Wheel-chair), ฟันปลอม (Denture), เครื่องช่วยฟัง (Hearing aid) และข้อต่อเทียม (Artificial joint) มีโอกาสเติบโตดีจากตลาดผู้สูงอายุ (Geriatric market) ทั่วโลก (World-wide)
ในปี พ.ศ. 2564 ไทยส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ไปตลาดโลก 18.9 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 661.5 ล้านบาท) ขยายตัว +34.4% จากปีก่อนหน้า โดยตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, ไต้หวัน, และประเทศ CLMV (= Cambodia [กัมพูชา], Lao [สปป.ลาว], Myanmar [เมียนมา], และ Vietnam [เวียดนาม])
- มาตรการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของภาครัฐ ส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Health and Wellness Hub) และศูนย์กลางการผลิตเครื่องมือแพทย์ในอาเซียน (ASEAN = Association of South East Asia Nations) ภายในปี พ.ศ. 2570) ดังต่อไปนี้
แหล่งข้อมูล –
