5. ตลาดอาหารเสริม - ตอนที่ 28

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ “ตลาดของคนอยากนอน” มีแนวโน้ม (Trend) เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง (Continuous growth) หลังสถานการณ์เศรษฐกิจและสังคม (Socio-economic situation) ในปัจจุบันทำให้เกิดภาวะความเครียด (Stress) และวิตกกังวลสูง (Anxiety) ชี้เป็นโอกาสในการทำตลาดสินค้าที่ช่วยให้คนหลับง่าย (Sleep aid)

ทั้งกลุ่มเครื่องนอน (Bedding); เฟอร์นิเจอร์ห้องนอน, ผลิตภัณฑ์ยา, อาหารเสริม (Food supplement), และบริการทางการแพทย์ (Medical service); กลุ่มเทคโนโลยีช่วยการนอน (Sleeping technology); และชุดนอน (Pajamas) ส่วนไทยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสมุนไพร (Herbal) มีโอกาสเติบโตสูง แนะต้องสร้างจุดขาย (Selling point) ชูความเป็นธรรมชาติ (Natural)

ผู้อํานวยการ สนค. เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจและสังคมในวิถีใช้ชีวิต (Life-style) ที่เร่งรีบ (Rush) และมีการแข่งขันสูง (Highly competitive) ทำให้เกิดภาวะความเครียดและวิตกกังวล สิ่งที่ตามมา (Consequence) คือ การนอนไม่หลับ (Insomnia) ซึ่งกระทบ (Impact) ต่อสุขภาพกายและจิตใจ (Physical and mental)

ยิ่งไปกว่านั้น ยังส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากทำให้ประสิทธิภาพการทำงาน (Work efficiency) ของประชากรลดลง เศรษฐกิจสุขภาพการนอน (Sleep-health economy) จึงเป็นอีกหนึ่งแนวโน้มเด่นชัด (Mega trend) ที่น่าจับตามอง โดยปัจจุบันมีการพัฒนาสินค้าและบริการที่ช่วยให้สามารถนอนหลับได้ดีขึ้น

มีการคาดการณ์มูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพการนอนของโลก (Global) ว่า ในปี พ.ศ. 2567 มีแนวโน้มเติบโตเป็น 585,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 20.475 ล้านบาท) จาก 432,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 15.120 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2562 สะท้อน (Reflect) ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ (Quality sleep) มากขึ้น

สำหรับข้อมูลการสำรวจ (Survey) ของกระทรวงสาธารณสุข (Public Health Ministry) พบว่า คนไทย 30% หรือประมาณ 21 ล้านคน นอนหลับน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน เช่นเดียวกับหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา, จีน, ญี่ปุ่น, เยอรมนี, สหราชอาณาจักร, แคนาดา, สิงค์โปร์, และมาเลเซีย ที่มีชั่วโมงการนอนใกล้เคียงกัน

จากปัญหาการนอน “ตลาดของคนนอนไม่หลับ” (Insomnia market) จึงเป็นโอกาสสำหรับสินค้าและบริการที่ช่วยในเรื่องการนอน โดยในปี พ.ศ. 2562 อุตสาหกรรมที่ช่วยเรื่องการนอนไม่หลับในตลาดโลก (Global market) แบ่งเป็นกลุ่มเครื่องนอน มูลค่า 194,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6.79 ล้านบาท) คิดเป็น 45% หรือเกือบครึ่งหนึ่งของตลาดรวม

รองลงมาเป็นกลุ่มเฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องนอน มูลค่า 106,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.71 ล้านบาท) คิดเป็น 25% หรือ 1 ใน 4 ของตลาดรวม ส่วนผลิตภัณฑ์ยา, อาหารเสริม, และบริการทางแพทย์ มูลค่า 58,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.03 ล้านบาท) คิดเป็น 13%)

กลุ่มเทคโนโลยีการนอน, บริการ, ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application: App) ที่ช่วยเรื่องการนอนหลับ และอื่นๆ มูลค่า 42,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.47 ล้านบาท) คิดเป็น 10% ท้ายสุด กลุ่มชุดนอน มูลค่า 31,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.08 ล้านบาท คิดเป็น 7%

แหล่งข้อมูล

  1. https://mgronline.com/business/detail/9660000081167 [2024, March 11].
  2. https://www.grandviewresearch.com]./services/market-research-reports [2024, March 11].