10. ตลาดประกันสุขภาพ – ตอนที่ 32

“ภาพรวมธุรกิจประกันชีวิต-สุขภาพมีความต้องการ (Demand) สูง เบี้ยรับรวม 5 เดือนแรกพุ่ง 4-5% สูงกว่าที่สมาคมประกันชีวิตไทยคาดการณ์ไว้ ด้วยกำลังซื้อ (Purchasing power) หนุน เงินเฟ้อลด (Declining inflation) คนไทยตระหนักถึงความคุ้มครอง (Coverage)-สิทธิประโยชน์ (Benefit) ของประกันภัย (Insurance) มากขึ้น

สมาคมประกันชีวิตไทย (Thai Life Assurance Association) เปิดเผยว่า สำหรับปี พ.ศ. 2566 นับเป็นปีที่ดี (Favorable) ในช่วง 5 เดือนแรกปี พ.ศ. 2566 (ระหว่าง เดือน มกราคม ถึง เดือนพฤษภาคม) อุตสาหกรรมประกันชีวิต (Life insurance) [ซึ่งรวมประกันสุขภาพ (Health insurance) ด้วย] มีเบี้ยประกันภัยรับ (Premium revenue) อยู่ที่ 245,599 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ +4% เมื่อเทียบกับปีก่อน นับสูงกว่าที่สมาคมคาดการณ์ไว้ที่ 0-2% โดยมีเบี้ยรับรวม 5 เดือนโต +4 ถึง +5% 

โดยมีเบี้ยรับรายใหม่ (New premium) อยู่ที่ 70,875 ล้านบาท ซึ่งเติบโตกว่า +7.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีเบี้ยปีต่ออายุ (Renewal premium) 174,723 ล้านบาท เติบโต +1.98% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยผลิตภัณฑ์ (Product) ประกันสุขภาพยังเป็นตัวชูโรง (Cash cow) มีเบี้ยเติบโตกว่า +7 ถึง +8%

รองลงมาเป็นประกันชีวิตตลอดชีพ (Life-long insurance) และประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (Credit-protection life- insurance) [ประกันความเสี่ยงในการชำระหนี้] ที่กลับมาโต ในระดับหนึ่งตามการปล่อยสินเชื่อของธนาคารและสถาบันการเงิน (Financial institution)

จึงนับว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างเติบโตกว่าที่ประมาณการ (Estimate) ไว้ ด้วยหลายเหตุผล อย่างมิติของกำลังซื้อ เงินเฟ้อที่ลดลง หรือการที่คนไทยตระหนัก (Aware) ถึงประโยชน์ของประกันมากขึ้น โดยเฉพาะความคุ้มครองทางด้านสุขภาพ (Health coverage) ซึ่งประกันชีวิตเมื่อซื้อแล้วก็จะซื้อความคุ้มครองสุขภาพมาตลอด จึงนับว่าเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยดึงดูด (Attract) ความสนใจ (Attention) ของผู้บริโภค

ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่า ความเข้าถึง (Access) ด้านช่องทางหลัก (Major channel) ไม่ว่าจะเป็นตัวแทน (Agent) หรือนายหน้า (Broker) ประกันชีวิต รวมถึงการใช้ดิจิทัลและเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ ทำให้การเข้าถึงข้อมูลสะดวก (Convenience) มากยิ่งขึ้น จึงทำให้อัตราการเติบโต (Growth rate) มากกว่าที่ประมาณการไว้

สำหรับปี พ.ศ. 2566 สมาคมประกันชีวิตไทยคาดการณ์ว่า ธุรกิจประกันชีวิตจะมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 612,500 ถึง 623,500 ล้านบาท มีอัตราความคงอยู่ (Retention rate) ของกรมธรรม์ 81% ถึง 82% ซึ่งการคาดการณ์ในครั้งนี้ ก็ยังสอดคล้องกับการคาดการณ์ GDP (= Gross domestic product หรือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) ที่มีการขยายตัว +2.7 ถึง +3.7 ทั้งนี้เป็นข้อมูลเหล่านี้ มาจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด้วยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย ใน ปี พ.ศ. 2566

ภาพรวม (Overall) ของเมืองไทยประกันชีวิต (Muang Thai Life Insurance) มีเบี้ยรับรวมอยู่ที่ 29,941 ล้านบาท เติบโต +14.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีเบี้ยรับรายใหม่ อยู่ที่ 10,517 ล้านบาท เติบโตกว่า +13.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีเบี้ยปีต่ออายุ 19,423 ล้านบาท เติบโตกว่า +14.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ถือว่าค่อนข้างเติบโตดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม (Industry average) แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตาม (Monitor) แบบเดือนต่อเดือน สำหรับอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital adequacy ratio: CAR) ที่ต้องดำรงตามกฎหมายกำหนดยังสูงกว่า 300% ซึ่งสะท้อนฐานะการเงินที่มีความมั่นคง (Secure) และแข็งแรง (Solid)

แหล่งข้อมูล

  1. https://www.thairath.co.th/money/personal_finance/insurance/2711435 [2024, May 27].
  2. https://www.muangthai.co.th/th/campaign/kumkrongkumver [2024, May 27].