12. ตลาดคลินิกเสริมความงาม-ชะลอวัย – ตอนที่ 11

จากการสำรวจกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุมากกว่า 18 ปี พบว่าผู้หญิงทุกคนมีขนส่วนเกินทั้ง รักแร้ (Armpit), หนวด-เครา (Mustache-beard), หรือตามร่างกาย ทำให้ต้องคอยดูแลรักษาอยู่เป็นประจำ (Routine care) แต่การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ (LASER = Light Amplification by Stimulated Emission of Radiation) จะเป็นการช่วยกำจัดขนในระยะยาว

ทั้งนี้เพราะช่วยในเรื่องความสะดวกสบายในการดูแลรักษาและเพิ่มความมั่นใจ (Confidence) ให้ตนเอง จึงเลือกเข้าคลินิกเพื่อรับบริการกำจัดขนส่วนเกิน ซึ่งมีจำนวนถึง 18.7% ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามในงานวิจัยตลาดครั้งนี้ ตัวเลขนี้ รองจากสิว (Acne) และดูแลผิวพรรณเปล่งปลั่ง (Glowing skin)

จากการสำรวจยังพบว่า ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ (Product) ที่ผู้บริการให้ความสำคัญ 5 อันดับแรก (จากคะแนนเต็ม 5) ได้แก่

  • คุณภาพ (Quality) ของผลิตภัณฑ์หรือผลการรักษา (Out-come) คะแนนเฉลี่ย 4.33
  • อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ให้บริการปลอดภัย (Safety) และมีมาตรฐาน (Standard) คะแนนเฉลี่ย 4.30
  • มีเทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษา (Treatment) ที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน คะแนนเฉลี่ย 4.20
  • ภาพพจน์ (Image) และชื่อเสียง (Reputation) ของคลินิก คะแนนเฉลี่ย 4.14
  • ความหลากหลาย (Variety) ของบริการ คะแนนเฉลี่ย 3.70

ทั้งหมดนี้ สอดคล้องกับกลยุทธ์ของคลินิก คือ ให้ความสำคัญแก่คุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ในการรักษาและผลการรักษา ดังนั้นคลินิกจึงลงทุนเลือกอุปกรณ์ (Equipment) ที่จะใช้ในการรักษาในโปรแกรมต่างๆ ของคลินิก จากบริษัทที่ได้มาตรฐานมีใบรับรอง (Certification) ทั้งจากองค์กรควบคุมในประเทศไทยและต่างประเทศ

ทุกเครื่องจะมีการรับประกันตัวเครื่อง เพื่อบำรุงรักษาประสิทธิภาพ (Efficiency) ของตัวเครื่องตลอดการใช้งาน โดยโปรแกรมบริการหลักที่คลินิกจะเลือกเป็นกลยุทธ์ในการแข่งขันเหนือคู่แข่ง (Competitive advantage) คือ โปรแกรมกำจัดขน คลินิกจึงเลือกใช้ เครื่อง Gentle YAG Pro-U เพราะเป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ใหม่ที่สุด ที่ใช้กันอย่างแพร่ในสถาบันที่น่าเชื่อถือ เช่นสถาบันโรคผิวหนัง (Institute of Dermatology), โรงพยาบาลแนวหน้า, และคลินิกชั้นนำ

นอกจากมีอุปกรณ์ครบครันแล้ว ทุกเครื่องก็มีการรับประกัน โดยเครื่องช่างซ่อม (Repair) ของบริษัทผู้ขาย (Supplier) ให้บริการสำหรับคลินิกเปิดใหม่ ทั้งอบรม (Training), การแนะนำ, และการช่วยทำการตลาดให้ (Marketing) เป็นต้น

จากการสำรวจยังพบว่าปัจจัยด้านราคา (Pricing) ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ 4 อันดับแรก คือ

  • มีการแสดงป้ายราคา (Price tag) อย่างชัดเจน คะแนนเฉลี่ย 4.12
  • ราคาของการให้บริการมีความเหมาะสม (Reasonable) กับคุณภาพ คะแนนเฉลี่ย 4.10
  • ราคาใกล้เคียงกับคลินิกในระดับเดียวกัน (Similar level) คะแนนเฉลี่ย 3.99
  • สามารถผ่อนชำระค่าบริการเป็นงวดๆ (Installment) อย่างเหมาะสม คะแนนเฉลี่ย 3.69

แหล่งข้อมูล

  1. https://archive.cm.mahidol.ac.th/bitstream/123456789/4256/1/TP%20050%202564.pdf [2023, July 24].
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Pricing_strategies [2023, July 24].