คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอน ผลของบุหรี่ต่อประสิทธิผล การรักษามะเร็งโพรงหลังจมูก
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 25 เมษายน 2565
- Tweet

คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอน ผลของบุหรี่ต่อประสิทธิผล การรักษามะเร็งโพรงหลังจมูก
มะเร็งโพรงหลังจมูก พบบ่อยเป็นลำดับที่23ของมะเร็งทั่วโลก เกือบทั้งหมดพบในผู้ใหญ่วัยตั้งแต่ 40ปีขึ้นไป เพศชายพบบ่อยกว่าเพศหญิง2-3เท่า มีรายงานในปี 2018 พบอัตราเกิดในเพศชาย 1.7 รายต่อประชากรโลกชาย 1แสนคน และ เพศหญิงรายงาน 0.7 รายต่อประชากรโลกหญิง1แสนคน โรคนี้พบสูงในภูมิภาคจีนตอนใต้และตะวันออกเฉียงใต้ที่รวมถึงไทย
สำหรับประเทศไทย รายงานจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติปี 2018 มะเร็งชนิดนี้ไม่ติดมะเร็งพบบ่อย10ลำดับแรกทั้งเพศชายและเพศหญิง โดยเพศชายพบ2.6รายต่อประชากรชายไทย 1แสนคน และ เพศหญิงพบ 1.0รายต่อประชากรหญิงไทย1แสนคน
มะเร็งโพรงหลังจมูกจัดอยู่ในมะเร็งระบบศีรษะและลำคอ การรักษาหลักคือ รังสีรักษาวิธีเดียวในโรคระยะแรก ส่วนโรคระยะลุกลามการรักษาหลักจะเป็นรังสีรักษาร่วมกับยาเคมีบำบัด ปัจจัยเสี่ยงเกิดโรค เช่น ภูมิภาคที่อยู่อาศัยดังกล่าวในตอนต้น, เชื้อชาติจีน, การติดเชื้อไวรัส Epstein-Barr virus (EBV), การบริโภคปลาหมักดองเค็มเป็นอาหารหลัก, แต่เนื่องจากในมะเร็งระบบศีรษะและลำคอ ปัจจัยเสี่ยงสำคัญอีกปัจจัยคือ การสูบบุหรี่ คณะแพทย์จากประเทศจีน นำโดย นพ.Xue-Song Sun จาก Sun Yat-sen University Cancer Center, State Key Laboratory of Oncology in South China ,ประเทศจีน จึงต้องการศึกษาว่า การสูบบุหรี่มีผลต่ออัตรารอดชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งชนิดนี้หรือไม่ และได้รายงานผลศึกษาในวารสารการแพทย์ด้านโรคมะเร็งแห่งสหราชอาณาจักร Radiotherapy & Oncology ฉบับ 1 กันยายน 2021
การศึกษานี้ ศึกษาผู้ป่วยมะเร็งโพรงหลังจมูกในประเทศจีนช่วง1990-2016 มีผู้ป่วยที่ศึกษาทั้งหมด 23,325ราย ได้รับการรักษาด้วยการฉายรังสีรักษาด้วยเทคนิคแบบ 2มิติ หรือ 3มิติ หรือ ไอเอ็มอาร์ที(IMRT/เทคนิคฉายรังสีปัจจุบัน)
ผลการศึกษา:
- อัตรารอดที่ห้าปี:
- ผู้เคยสูบบุหรี่= 76.4%
- ผู้ที่สูบบุหรี่จนถึงวันที่วินิจฉัยเป็นมะเร็ง=68.9%
- ผู้ไม่เคยสูบบุหรี่เลย=79.8%
- ผู้ได้รับการฉายรังสีไอเอ็มอาร์ มีอัตรารอดที่ห้าปีสัมพันธ์กับสถานภาพสูบบุหรี่เช่นเดียวกับผู้ป่วยกลุ่มฉายรังสีฯเทคนิคอื่นๆ
- อัตราปลอดจากโรคแพร่กระจายทางกระแสเลือดที่ห้าปีในผู้ไม่เคยสูบบุหรี่ สูงกว่าในผู้เคยสูบบุหรี่ หรือ ในผู้สูบบุหรี่จนถึงวันวินิจฉัยโรค อย่างสำคัญ ทางสถิติ, P<0.004 และ P<0.001 ตามลำดับ
- การวิเคราะห์พหุตัวแปร (Multivariate Analysis)ในกลุ่มผู้รักษาด้วยไอเอ็มอาร์ที พบว่า
- อัตราตาย(P=0.003)และอัตราโรคย้อนกลับเป็นซ้ำ(P=0.027)สูงในผู้สูบบุหรี่จนถึงวันวินิจฉัยโรคอย่างสำคัญทางสถิติเมื่อเปรียบกับผู้ไม่เคยสูบบุหรี่
- ในผู้มีการแพร่กระจายโรคทางกระแสเลือดปัจจัยเสี่ยงจะอยู่ในกลุ่มผู้เคยสูบบุหรี่และกลุ่มผู้สูบบุหรี่จนถึงวันวินิจฉัยโรค, P=0.031 และ P=0.019 ตามลำดับเมื่อเปรียบกับผู้ไม่เคยสูบบุหรี่
- ตัวแปรอื่นที่เป็นปัจจัยสำคัญร่วมกับการสูบบุหรี่ คือ เพศ, อายุ, ผลติดเชื้อ Epstein-Barr virus
คณะผู้ศึกษาสรุปว่า ในยุคของการฉายรังสีรักษาด้วยเทคนิคไอเอ็มอาร์ ผู้ที
- เคยสูบุหรี่มาก่อน หรือ สูบบุหรี่จนถึงวันที่วินิจฉัยมะเร็งได้เป็นปัจจัยเสี่ยงการเกิดมะเร็งโพรงหลังจมูกแพร่กระจายทางกระแสเลือด และ
- อัตรารอดจากโรคและอัตราปลอดจากโรคย้อนกลับเป็นซ้ำแย่กว่าอย่างสำคัญทางสถิติเฉพาะในกลุ่มผู้สูบบุหรี่จนถึงวันวินิจฉัยมะเร็งเมื่อเทียบกับผู้ไม่เคยสูบบุหรี่
บรรณานุกรม
- Imsamran, W. et al. (2018). Cancer in Thailand vol ix, 2013-2015, National Cancer Institute, Ministry of Public Health. Thailand
- Xue-Song Sun, et al. Radiotherapy&Oncology. 2021;162, 7-17 (abstract)
- https://www.wcrj.net/wp-content/uploads/sites/5/2018/03/e1046-Nasopharyngeal-cancer-in-the-world-epidemiology-incidence-mortality-and-risk-factors.pdf [2022,April14]
- https://www.wcrf.org/dietandcancer/nasopharyngeal-cancer-statistics/ [2022,April14]