คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอน ผลการรักษามะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกระยะ3C
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 18 เมษายน 2565
- Tweet

คุยกับหมอรักษาโรคมะเร็ง ตอน ผลการรักษามะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกระยะ3C
มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เป็นมะเร็งสตรี มักพบในวัยหมดประจำเดือน ประเทศไทยรายงานจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติปี พ.ศ. 2561 พบ4.5 รายต่อสตรีไทย1แสนคน โดยเป็นลำดับ8ของมะเร็งในสตรีทั้งหมด ซึ่งโรคในระยะ3C คือโรคลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกราน/ท้องน้อยและหรือรอบๆหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้อง และเป็นระยะมีการพยากรณ์โรคระดับปานกลาง การรักษาจึงมักเป็นการรักษาร่วมกัน3วิธี คือ ผ่าตัดเอามดลูก ปีกมดลูกที่รวมถึงรังไข่ออกทั้งหมด, หลังจากนั้นให้การรักษาต่อเนื่องด้วย รังสีรักษา(การฉายรังสีรักษาและ/หรือการใส่แร่), ร่วมกับยาเคมีบำบัด ซึ่งอาจให้เคมีฯนำก่อนแล้วจึงตามด้วยรังสีฯ, หรือให้เคมีฯพร้อมๆกับรังสีฯ, หรือให้รังสีฯอยู่ตรงกลางระหว่างเคมีฯ(เคมีฯ-รังสีฯ-เคมีฯ), หรือให้รังสีฯจนครบแล้วจึงตามด้วยเคมีฯ, หรือให้เคมีฯร่วมกับการใส่แร่ไปพร้อมๆกันโดยไม่มีการฉายรังสีฯ
คณะแพทย์จากสหรัฐอเมริกา นำโดย พญ. Lara Hathout จาก Rutgers Cancer Institute of New Jersey, New Brunswick, New Jersey สหรัฐอเมริกา ต้องการศึกษาถึงประสิทธิผลของการรักษามะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกระยะ3Cด้วยวิธีรักษาดังกล่าว และได้รายงานการศึกษาในวารสารการแพทย์ด้านโรคมะเร็ง Int J Radiat Oncol Biol Phys ฉบับ 1สิงหาคม2021
โดยศึกษาเป็นรูปแบบย้อนหลังจากผู้ป่วยหลายโรงพยาบาล (Multi-institutional retrospective cohort study) ในผู้ป่วย686ราย, มีระยะกึ่งกลางติดตามโรค 45.3เดือน, ผู้ป่วยทุกรายได้รับการรักษาด้วย3วิธีการดังกล่าวโดยวิธีให้ยาเคมีฯกับรังสีฯจะมีหลากหลายวิธีดังได้กล่าวเช่นกัน
ผลการศึกษา:
- อัตรารอดที่ห้าปีของผู้ป่วยทั้งหมด=74%, อัตราปลอดโรคย้อนกลับเป็นซ้ำ=66%
- รูปแบบการให้ยาเคมีฯร่วมกับรังสีฯ ไม่มีผลต่อทั้งอัตรารอดฯและอัตราปลอดโรคฯ, p=0.68 และ 84 ตามลำดับ
- การวิเคราะห์พหุตัวแปร (Multivariate Analysis) พบปัจจัยเสี่ยงต่อผลการรักษาที่แย่ทั้งต่ออัตรารอดฯและอัตราปลอดโรค คือ สตรีผิวสี, เซลล์มะเร็งเป็นชนิดไม่ใช่ Endometrioid carcinoma, เซลล์มะเร็งแบ่งตัวสูง(Grade3), มีมะเร็งลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองรอบหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้อง, มีมะเร็งลุกลามเข้าปีกมดลูก, และลุกลามเข้าปากมดลูก(p<0.05)
- ตำแหน่งแรกที่เกิดโรคย้อนกลับเป็นฯซ้ำ คือ การแพร่กระจายทางกระแสเลือด=20.1% การนี้ไม่ขึ้นกับรูปแบบของการให้เคมีฯและรังสีฯ
- การย้อนกลับเป็นซ้ำเฉพาะที่ช่องคลอด=1.6%
- ย้อนกลับเป็นซ้ำเฉพาะในอุ้งเชิงกราน/ท้องน้อย=2.2%
- ย้อนกลับเป็นซ้ำเฉพาะต่อมน้ำเหลืองรอบหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้อง=6.3%
- การใส่แร่เพียงอย่างเดียวโดยไม่ฉายรังสีฯจะมีโรคย้อนกลับเป็นซ้ำเฉพาะต่อมน้ำเหลืองรอบหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องสูงคือ15%เมื่อเทียบกับมีการฉายรังสีฯร่วมด้วยซึ่ง=5%, p<0.0001
คณะผู้ศึกษาสรุปว่า:
- รูปแบบต่างๆระหว่างยาเคมีฯกับรังสี ไม่มีผลต่ออัตรารอดชีวิตฯหรืออัตราปลอดโรค/โรคย้อนกลับเป็นซ้ำอย่างสำคัญทางสถิติ
- การใส่แร่วิธีเดียวเป็นปัจจัยเสี่ยงสูงต่อโรคย้อนกลับเป็นซ้ำที่ต่อมน้ำเหลืองรอบหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้อง, ดังนั้นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกระยะ3Cจึงควรต้องได้รับการฉายรังสีอุ้งเชิงรานร่วมด้วย
- นอกจากนั้น จากที่โรคย้อนกลับเป็นซ้ำสูงจากการแพร่กระจายทางกระแสเลือด จึงสมควรที่จะศึกษาผลการใช้ยาเคมีบำบัดกลุ่มอื่นนอกเหนือจากกลุ่มปัจจุบัน
บรรณานุกรม
- Imsamran, W. et al. (2018). Cancer in Thailand vol ix, 2013-2015, National Cancer Institute, Ministry of Public Health. Thailand
- Lara Hathout, et al. Int J Radiat Oncol Biol Phys. 2021; 110(5):1423-1431 (abstract)