ควินาพริล (Quinapril)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ : คือยาอะไร?

ควินาพริล (Quinapril) คือ ยาลดความดันในกลุ่มเอซีอี อินฮิบิเตอร์ (ACE inhibitor, Angiotensin converting enzyme inhibitor) ถูกนำมาใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง,

ภาวะหัวใจล้มเหลว สามารถใช้เป็นยาเดี่ยวในการรักษาหรือจะใช้ร่วมกับยาอื่น เช่นยา Thiazide หรือ Digoxin ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์

อนึ่ง:

ข้อห้ามใช้บางประการที่ควรทราบของยาควินาพริล ได้แก่

  • มีประวัตแพ้ยากลุ่มเอซีอี อินฮิบิเตอร์ โดยมีอาการบวมทั้งตัวจากหลอดเลือดแดงขยายตัว จากภูมิแพ้หรือที่เรียกว่า แองจิโออีดีมา(Agioedema)
  • แพ้ยาควินาพริลโดยตรง
  • เป็นผู้ป่วยด้วย โรคไต โรคตับ รวมถึงสตรีตั้งครรภ์ด้วยมีรายงานทางคลินิกว่ายานี้สามารถส่ง ผลให้ทารกในครรภ์ตายได้

ทั้งนี้ ก่อนการสั่งจ่ายยานี้แพทย์มักจะซักถามประวัติสุขภาพ อาทิ

  • มีประวัติแพ้ยาอะไรบ้าง
  • ปัจจุบันรับประทานยาอะไรอยู่หรือไม่
  • ป่วยเป็นโรคไต โรคตับ โรคหัวใจ โรคที่เกี่ยวกับไขกระดูก โรคหลอดเลือด เช่น เส้นเลือดในสมองตีบตัน (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง อัมพาต อัมพฤกษ์: โรคหลอดเลือดสมอง)
  • อยู่ในภาวะขาดน้ำและมีโรคความดันโลหิตต่ำหรือไม่
  • หากเป็นสตรีอยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือภาวะเลี้ยงดูบุตรด้วยน้ำนมมารดาหรือไม่

หลังการจ่ายยานี้แพทย์อาจจะสำทับเรื่องอาการต่างๆที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วยได้ เช่น

  • ยานี้อาจทำให้มีอาการ วิงเวียน ปวดหัวเล็กน้อย หรือเป็นลม
  • ห้ามรับประทานยานี้ร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ด้วยจะทำให้วิงเวียนได้มากขึ้น
  • หากมีอาการบวมตามใบหน้า-คอ-มือ-เท้า ต้องรีบมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็ว/ทันที/ฉุกเฉินด้วยเป็นอาการแพ้ยาแบบหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้
  • หากพบอาการไอแห้งๆ (ไอไม่มีเสมหะ) หลังใช้ยานี้ควรต้องกลับมาปรึกษาแพทย์/มา โรงพยาบาลก่อนนัดเพื่อให้แพทย์พิจารณาปรับการรักษา
  • หากเกิดความดันโลหิตต่ำมากควรต้องกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็วก่อนนัดเพื่อแพทย์พิจารณาปรับการรักษา
  • ยานี้อาจจะรบกวนการออกฤทธิ์และลดประสิทธิภาพของยาต้านเบาหวานส่งผลให้ระดับ น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้
  • แพทย์มักจะไม่จ่ายยานี้ให้กับเด็กด้วยข้อมูลทางคลินิกเรื่องการใช้ยาควินาพริลกับเด็กยังมีไม่เพียงพอ

หากพิจารณาเรื่องการกระจายตัวของยานี้ในร่างกายจะพบว่า ยาควินาพริลถูกออกแบบให้เป็นยาชนิดรับประทาน แต่ไม่ควรรับประทานพร้อมอาหารที่มีไขมันมากด้วยจะลดการดูดซึมของยานี้ เมื่อยาเข้าสู่กระแสเลือดจะเข้าจับกับพลาสมาโปรตีนได้ประมาณ 97% ก่อนที่จะถูกส่งไปเผาผลาญที่ตับ ถึงแม้ยานี้สามารถซึมผ่านเข้าน้ำนมมารดาได้เล็กน้อยแต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยากับมารดาที่เลี้ยงดูบุตรด้วยน้ำนมของตนเอง และร่างกายคนเราต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อการขับยานี้ออกจากกระแสเลือดเป็นปริมาณครึ่งหนึ่งโดยผ่านทิ้งไปกับปัสสาวะและอุจจาระ

ยาควินาพริลที่วางจำหน่ายในบ้านเรามีหลายขนาดความแรงตั้งแต่ขนาด 5 มิลลิกรัมจนถึง 40 มิลลิกรัม การใช้ยาได้อย่างเหมาะสมปลอดภัยจึงต้องเป็นไปตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น และผู้ป่วยไม่สมควรไปหาซื้อยานี้มารับประทานด้วยตนเอง

ควินาพริลมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?

ควินาพริล

ยาควินาพริลมีสรรพคุณรักษาโรค/ข้อบ่งใช้: เช่น

  • รักษาโรคความดันโลหิตสูงโดยจะใช้เป็นยาเดี่ยวหรือใช้ร่วมกับยาขับปัสสาวะกลุ่ม ไทอะไซด์ (Thiazide-type diuretics)
  • รักษาภาวะหัวใจล้มเหลว

ควินาพริลมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

กลไกการออกฤทธิ์ของยาควินาพริลคือ ตัวยาจะเข้าไปยับยั้งการเปลี่ยนแปลงสาร แองจิโอเทนซิน, Angiotensin I ไปเป็น Angiotensin II ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดหดตัวส่งผลให้เกิดความดันโลหิตสูง เมื่อกลไกดังกล่าวโดนปิดกั้นจากตัวยานี้จะทำให้การหดตัวของหลอดเลือดกลับมาสู่ภาวะปกติ จึงทำให้ความดันโลหิตลดต่ำลง

ควินาพริลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาควินาพริลมีรูปแบบการจัดจำหน่าย:

  • ยาเม็ดชนิดรับประทาน ขนาด 5, 10, 20 และ 40 มิลลิกรัม/เม็ด
  • ยาเม็ดที่ผสมร่วมกับยา Hydrochlorothiazide เช่น
    • Quinapril 10 mg + Hydrochlorothiazide 12.5 mg.
    • Quinapril 20 mg + Hydrochlorothiazide 12.5 mg.

ควินาพริลมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ยาควินาพริลมีขนาดรับประทาน เช่น

ก. สำหรับรักษาโรคความดันโลหิตสูง:เช่น

  • ผู้ใหญ่: เริ่มต้นรับประทาน 10 - 20 มิลลิกรัมวันละครั้ง การรับประทานยานี้ในช่วงแรกๆ ให้รับประทานก่อนนอนหรือแบ่งรับประทาน 2 ครั้งเช้า - เย็น
    • สำหรับผู้ป่วยที่ต้องรับประทานยาขับปัสสาวะร่วมด้วย แพทย์อาจให้เริ่มรับประทานยา ควินาพริล 5 มิลลิกรัมวันละ1ครั้ง จากนั้นให้คอยตรวจสอบความดันโลหิตควบคู่กันไปและปรับยาตามคำแนะนำของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น
    • โดยทั่วไปขนาดรับประทานที่ใช้คงระดับการรักษาอยู่ที่ 20 - 80 มิลลิกรัม/วันโดยอาจรับประทานวันละ1ครั้งหรือแบ่งรับ ประทานวันละ 2 ครั้งก็ได้ตามคำแนะนำของแพทย์ผู้รักษา
  • ผู้สูงอายุ: รับประทานเริ่มต้นที่ 10 มิลลิกรัมวันละครั้ง หรือแบ่งรับประทานเป็น 2 ครั้ง/วัน และต้องคอยตรวจสอบระดับความดันโลหิตควบคู่กันไป

ข. สำหรับรักษาภาวะหัวใจล้มเหลว: เช่น

  • ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ: เริ่มต้นรับประทานครั้งละ 5 มิลลิกรัมวันละ 2 ครั้งเช้า - เย็น และแพทย์อาจปรับขนาดรับประทานตามคำแนะนำของแพทย์ผู้รักษาที่อาจปรับขนาดรับประทานระหว่างช่วงสัปดาห์ได้อีก 20 - 40 มิลลิกรัมโดยแบ่งรับประทาน 2 ครั้ง

*อนึ่ง:

  • ควรรับประทานยานี้ช่วงท้องว่าง และรับประทานยาให้ตรงเวลา
  • เด็ก (นิยามคำว่าเด็ก): ยังไม่มีข้อมูลการศึกษาที่แน่ชัดถึงผลข้างเคียงและขนาดการใช้ยานี้ในเด็ก การใช้ยานี้ในเด็กจึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาควินาพริล ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และ เภสัชกร ดังนี้เช่น

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก / หอบเหนื่อย
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคตับ โรคเบาหวาน รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาควินาพริลอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทรวมถึงยาควินาพริลสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

หากลืมรับประทานยาควินาพริล สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า

ควินาพริลมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

การใช้ยาควินาพริลสามารถก่อให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) ดังนี้ เช่น

  • วิงเวียน
  • ปวดหัว
  • อ่อนแรง
  • มีผื่นคัน
  • เกลือโพแทสเซียมในเลือดสูง
  • เจ็บหน้าอก
  • ดีซ่าน
  • คลื่นไส้-อาเจียน
  • ท้องเสีย
  • ปวดกล้ามเนื้อ
  • ปวดหลัง
  • *อาการข้างเคียงที่รุนแรง: เช่น มีภาวะความดันโลหิตต่ำ และโรคตับแข็ง
  • *หากแพ้ยานี้: เช่น จะมีอาการบวมตามใบหน้า-มือ-เท้า หรือที่เรียกว่า แองจิโออีดีมา(Angioedema)
  • *ภาวะที่ผู้ป่วยได้รับยานี้เกินขนาด: เช่น มีอาการความดันโลหิตต่ำอย่างรุนแรง

*ทั้งนี้ หากพบอาการแพ้ยาหรือได้รับยาเกินขนาดต้องรีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน

มีข้อควรระวังการใช้ควินาพริลอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาควินาพริล เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้หรือมีประวัติแพ้ยาในกลุ่มเอซีอีอินฮิบิเตอร์
  • ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  • ห้ามใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์ เด็ก และหลีกเลี่ยงการใช้ยากับสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
  • ห้ามปรับขนาดรับประทานยานี้ด้วยตนเอง
  • ระวังการใช้ยานี้กับผู้ที่อยู่ในภาวะท้องเสียด้วยอาจทำให้เกิดภาวะสมดุลของน้ำและเกลือแร่ ในร่างกายผิดปกติไป
  • ระวังการใช้ยาในผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะหัวใจล้มเหลวขั้นรุนแรงด้วยอาจทำให้เกิดอาการบวมแบบแพ้ยานี้/ แองจิโออีดีมา(Angioedema)
  • ระวังการใช้ยากับผู้ป่วยโรคไต โรคตับ
  • คอยตรวจสอบและควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติอยู่ตลอดเวลาตามแพทย์แนะนำ
  • พบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาควินาพริลด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกชนิดควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

ควินาพริลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาควินาพริลมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • การใช้ยาควินาพริล ร่วมกับ ยาที่เสริมเกลือโพแทสเซียมอาจทำให้เกิดภาวะเกลือ โพแทสเซียมในเลือดสูง (Hyperkalaemia, อาการเช่น หัวใจเต้นผิดปกติ คลื่นไส้, กล้ามเนื้ออ่อนแรง) หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกันแพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นกรณีไปเช่น ยา Potassium chloride
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาควินาพริล ร่วมกับ ยา Lithium ด้วยจะทำให้ความเข้มข้นในกระแสเลือดของยา Lithium เพิ่มสูงขึ้นจนอาจเกิดอาการพิษ/ผลข้างเคียงรุนแรงของยา Lithium ติดตามมา
  • การใช้ยาควินาพริล ร่วมกับ ยาปฏิชีวนะบางตัวเช่นยา Tetracycline อาจทำให้การดูดซึมของยาปฏิชีวนะดังกล่าวลดน้อยจนประสิทธิภาพของการรักษาลดลง หากไม่มีความจำเป็นใดๆควรหลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกัน
  • การใช้ยาควินาพริล ร่วมกับยา Amiloride อาจทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดสูงขึ้น จนทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ และมีภาวะของไตวาย เบาหวาน/น้ำตาลในเลือดสูง ภาวะหัวใจล้มเหลว ติดตามมา แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ยาทั้ง 2 ตัวร่วมกัน

ควรเก็บรักษาควินาพริลอย่างไร?

ควรเก็บยาควินาพริล: เช่น

  • เก็บยาในช่วงอุณหภูมิ 15 - 30 องศาเซลเซียส (Celsius)
  • ไม่เก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
  • ไม่เก็บยาในรถยนต์หรือในห้องน้ำ
  • เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/ แสงแดด ความร้อน และความชื้น
  • เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ควินาพริลมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาควินาพริล มียาชื่อการค้าอื่น และ บริษัทผู้ผลิต เช่น

ชื่อการค้าบริษัทผู้ผลิต
Accupril (แอคคูพริล) Pfizer
Accuretic (แอคคูเรติก) Pfizer
Quinsil (ควินซิล)Actavis

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Quinapril [2021,Sept18]
  2. https://www.drugs.com/mtm/quinapril.html [2021,Sept18]
  3. https://www.mims.com/malaysia/drug/info/quinapril?mtype=generic [2021,Sept18]
  4. https://www.mims.com/India/drug/info/quinapril/?type=full&mtype=generic#Dosage [2021,Sept18]