การตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย (Cervical conization)

สารบัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง

การตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยคืออะไร?

การตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย(Cervical conization หรือ Conization of cervix)เป็นหัตถการอย่างหนึ่งทางนรีเวช มีความหมายตรงตามชื่อที่เรียก คือตัดเนื้อบริเวณปากมดลูกเป็นรูปกรวย เพื่อให้ได้ชื้นเนื้อมากพอที่จะใช้วินิจฉัยความผิดปกติที่ปากมดลูก โดยใช้มีดตัดปากมดลูก(Cold knife conization)ครอบคลุมบริเวณรอยต่อของเซลล์ 2 ชนิดที่ปากมดลูก(Squamo-columnar junction) ซึ่งจะเป็นฐานของรูปกรวย ตัดเข้าไปจนถึงคอปากมดลูกด้านใน(Endocervical cervix) ที่เป็นยอดรูปกรวย ซึ่งการตัดปากมดมูกเป็นรูปกรวยสามารถใช้ในการรักษาภาวะมีเซลล์ผิดปกติของปากมดลูก(ภาวะเซลล์ปากมดลูกเจริญผิดปกติ)ได้ และนอกจากนี้ยังใช้เพื่อเป็นวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกชนิดที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า(มะเร็งระยะศูนย์)หรือไม่ การตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยสามารถตัดได้หลายวิธี เช่น ตัดด้วยมีด ด้วยแสงเลเซอร์ หรือด้วยการจี้ตัดด้วยไฟฟ้า(LEEP)

อนึ่ง บทความนี้จะกล่าวเฉพาะ “การตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยด้วยมีด”เท่านั้น

 

สตรีใดมีความจำเป็นต้องตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย?

การตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย

การตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยด้วยมีด ปัจจุบันทำกันลดลง ส่วนมากจะทำการตัดปากมดลูกด้วยขดลวดไฟฟ้า/LEEP(การตัดปากมดลูกด้วยห่วงไฟฟ้า) อย่างไรก็ตาม การตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยด้วยมีด ยังมีความจำเป็นในกรณีดังต่อไปนี้ คือ

1. เพื่อการวินิจฉัยโรค ทำในกรณีต่อไปนี้

  • เมื่อตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก(Pap smear) แล้วพบเซลล์ปากมดลูกผิดปกติในกรณีชนิดHigh-grade squamous intraepithelial lesions (HSIL) or Low-grade squamous intraepithelial lesions (LSIL) โดยที่แพทย์มองไม่เห็นรอยโรคที่ปากมดลูกได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า ในกรณีที่ไม่สามารถทำ LEEP ได้
  • เมื่อแพทย์ทำการส่องตรวจปากมดลูกด้วยกล้อง Colposcopy แล้วแต่ไม่สามารมองเห็นเซลล์/ตำแหน่งปากมดลูกที่เรียกว่า Transformation zone ได้ครบวงทั้งหมด หรือรอยแผลที่ปากมดลูกที่แพทย์พบ มีขนาดใหญ่มาก
  • เมื่อทำการตัดชิ้นเนื้อที่ปากมดลูกแบบตัดเป็นชิ้นเล็ก(Punch biopsy) แล้วพบเป็นมีมะเร็งระยะลุกลามเล็กน้อย(Minimal invasive carcinoma) ต้องมีการตัดชิ้นเนื้อที่ใหญ่ขึ้นเพื่อดูการลุกลามที่ชัดเจน
  • ผลจากการตรวจทางเซลล์วิทยามีความแตกต่างจากผลการตรวจจากการตัดชิ้นเนื้อที่ปากมดลูกแบบชิ้นเล็ก

2. สามารถใช้เป็นการรักษาได้พร้อมกับการวินิจฉัยโรค ในกรณีที่มีความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูกในระยะก่อนมะเร็ง(โรคมะเร็งระยะศูนย์)

 

เตรียมตัวก่อนตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยอย่างไร?

การเตรียมตัวก่อนการตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย คือ การตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย เป็นหัตถการที่ตัดเนื้อชิ้นใหญ่กว่าการทำ LEEP (Loop electrosurgical procedure) มีโอกาสเสียเลือดมากกว่า ต้องทำในห้องผ่าตัด ดังนั้นแพทย์จะนัดผู้ป่วยให้นอนโรงพยาบาลก่อนเพื่อเตรียมผ่าตัด ผู้ป่วยต้องไปตามแพทย์นัด มีการงดน้ำงดอาหารก่อนผ่าตัด 6 ชั่วโมง แพทย์มักให้ยาระงับความรู้สึกโดยการฉีดยาเข้าน้ำไขสันหลัง เพื่อให้ผู้ป่วยเกิดอาการชาระดับใต้สะดือลงไป

 

ขั้นตอนการตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยเป็นอย่างไร?

โดยทั่วไป ขั้นตอนการตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย ได้แก่

1. วิสัญญีแพทย์จะทำการฉีดยาชาเข้าบริเวณน้ำไขสันหลัง ทำให้ร่างกายส่วนล่างเกิดอาการชาตั้งแต่ระดับต่ำกว่าสะดือลงไป หรืออาจจำเป็นต้องดมยาสลบ

2. ผู้ป่วยจะถูกจัดให้นอนในท่าขึ้นขาหยั่ง แพทย์/พยาบาลจะทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศและช่องคลอดผู้ป่วย

3. แพทย์ทำการตรวจภายใน จากนั้นใส่เครื่องมือเพื่อถ่างช่องคลอด

4. ทาน้ำยา Lugol solution(สารไอโอดีนที่อยู่ในรูปสารละลาย) ที่ปากมดลูก เพื่อทำให้เห็นรอยโรคชัดเจนขึ้น

5. แพทย์ทำการตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย เพื่อส่งตรวจชิ้นปากมดลูกที่ถูกตัดอกเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา จากนั้นทำการเย็บปากมดลูก และตรวจสอบจุดเลือดออก

6. ทำการขูดมดลูกที่บริเวณคอมดลูก (Endocervical curettage) และส่งตรวจชิ้นเนื้อที่ขูดได้ทางพยาธิวิทยาเช่นกัน

7. หลังผ่าตัด ผู้ป่วยจะได้นอนพักรักษาตัว 1-2 วันที่โรงพยาบาล หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน(ผลข้างเคียง) แพทย์จะอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้ และนัดมาตรวจติดตามการรักษา และฟังผลชิ้นเนื้อที่ตัดออกไปในระยะเวลาต่างกันตามข้อปฏิบัติของแต่ละโรงพยาบาล เช่น 2-4 สัปดาห์หลังออกจากโรงพยาบาล เป็นต้น

 

ดูแลตนเองอย่างไรหลังการตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย?

หลังจากตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย แพทย์จะให้ผู้ป่วยนอนพักโนโรงพยาบาลอีก 1-2 วัน หากผู้ป่วยไม่มีอาการผิดปกติ แพทย์จะให้ผู้ป่วยกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ผู้ป่วยอาจมีเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อยได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งการปฏิบัติตัวช่วง 4-6 สัปดาห์แรกหลังการทำการตัดปากมดลูก แนะนำดังนี้

1. ห้ามสวนล้างช่องคลอด

2. หลีกเลี่ยงการยกของหนัก

3. หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด

4. งดมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดโอกาสเกิดเลือดออกจากแผลผ่าตัด และ/หรือการติดเชื้อที่รอยแผลผ่าตัดที่ปากมดลูก(ปากมดลูกอักเสบ)

5. ต้องกลับไปพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลเพื่อฟังผลชิ้นเนื้อที่ตัดออกไปตามกำหนดที่แพทย์นัด ซึ่งทั่วไปจะประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังผ่าตัด เพื่อดูผลชิ้นเนื้อว่าผิดปกติมากน้อยเพียงใด และ การตัดปากมดลูกรูปกรวยเพียงพอต่อการวินิจโรคหรือรักษาโรคที่ปากมดลูกหรือไม่

 

ต้องกลับมาพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไหร่?

ผู้ป่วยต้องรีบกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลก่อนนัดเมื่อ

1. มีเลือดออกทางช่องคลอดมาก

2. ตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น

3. มีไข้

4. ปวดท้อง ปวดท้องน้อย

 

ภาวะแทรกซ้อนของการตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยมีอะไรบ้าง?

ภาวะแทรกซ้อนของการตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย ได้แก่

ก. ภาวะแทรกซ้อนระยะสั้นภายในประมาณ 1 เดือนหลังผ่าตัด: เช่น

1. เลือดออกมากทางช่องคลอดโดยออกจากแผลผ่าตัด

2. ติดเชื้อที่ปากมดลูก(ปากมดลูกอักเสบ) และทำให้มีเลือดออก และ/หรือตกขาวมีกลิ่นเหม็น

3. มีการติดเชื้อจากปากมดลูกลุกลามเข้าไปในอุ้งเชิงกราน(การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน)

4. มดลูกทะลุจากที่ตัดปากมดลูกมากหรือลึกเกินไป ซึ่งต้องรีบรักษาโดยการผ่าตัดมดลูกโดยเร็ว

ข. ภาวะแทรกซ้อนระยะยาวที่เกิดขึ้นหลัง 1-3เดือนหลังผ่าตัด: เช่น

1. รูปากมดลูก/ปากมดลูกตีบ ทำให้ประจำเดือนไหลออกมาลำบาก ทำให้ปวดประจำเดือนมาก หรือปวดท้องน้อยเรื้อรัง

2. รูปากมดลูกตีบแคบ ทำให้มีภาวะมีบุตรยาก

3. รูปากมดลูก/ปากมดลูกปิดไม่สนิท สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากการตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย ทำให้มีโอกาสแท้งบุตร หรือคลอดก่อนกำหนดได้ง่าย

 

สามารถป้องกันการตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยได้หรือไม่?

การป้องกันการตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย ต้องป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุให้ไม่มีเซลล์ปากมดลูกเจริญผิดปกติ ซึ่งคือ การป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีอวัยวะเพศหญิงนั่นเอง ได้แก่

1. หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน

2. ใช้ถุงยางอนามัยชายขณะมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง

3. ต้องหมั่นตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกปี หรือบ่อยตามคำแนะนำของแพทย์

4. ฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี ตามแพทย์แนะนำ

 

หลังจากตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยสามารถตั้งครรภ์ได้หรือไม่?

หลังผ่าตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย ผู้ป่วยสามารถตั้งครรภ์ได้หลังการผ่าตัดผ่าน 4-6 สัปดาห์ไปแล้ว โดยต้องรอฟังผลชิ้นเนื้อที่ตัดออกไปก่อนว่า มีความผิดปกติหรือไม่ หากมีความผิดปกติ ต้องรับการรักษาความผิดปกตินั้นๆก่อน แต่หากไม่มีความผิดปกติหรือมีความผิดปกติเพียงเล็กน้อย แพทย์จะนัดทำการตรวจปากมดลูกเป็นระยะๆ

ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรต้องปรึกษาแพทย์ล่วงหน้าเพื่อวางแผนตั้งครรภ์เสมอ เพราะต้องระวังการเกิดภาวะปากมดลูกปิดไม่สนิท(Cervical insufficiency)ในขณะตั้งครรภ์ ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการแท้งบุตรหรือต่อการคลอดก่อนกำหนด หรือมีภาวะแท้งบ่อยๆ(แท้งซ้ำ) ซึ่งแพทย์จะมีการเย็บปากมดลูก( Cervical cerclage) หรือใส่ห่วงพยุงปากมดลูก(Cervical pessary)เพื่อดันบริเวณปากมดลูกเพื่อป้องกันการแท้งหรือการคลอดก่อนกำหนดเมื่อมีการตั้งครรภ์

อนึ่ง สำหรับวิธีในการคุมกำเนิดหลังการตัดปากมดลูกรูปกรวย สามารถใช้ได้ทุกวิธี แนะนำอ่านเพิ่มเติมเรื่องวิธีคุมกำเนิดได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง

  • การคุมกำเนิด และเรื่อง
  • การวางแผนครอบครัว

 

ทารกที่เกิดหลังจากตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยมีปัญหาหรือไม่?

ปัญหาของทารกที่คลอดจากมารดาผ่าตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย จะขึ้นกับอายุครรภ์ที่คลอดมากกว่า ยิ่งคลอดก่อนกำหนดมาก ทารกจะยิ่งมีปัญหามาก

 

บรรณานุกรม

  1. https://emedicine.medscape.com/article/270156-overview [2018,March3]
  2. https://www.uptodate.com/contents/cervical-intraepithelial-neoplasia-procedures-for-cervical-conization? [2018,March3]