ทำตาสองชั้น (Blepharoplasty)

สารบัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

เรื่องทั่วไปเกี่ยวกับตาสองชั้น

พวกเราชาวเอเชียโดยเฉพาะคนจีนหรือคนไทยเชื้อสายจีน มักจะไม่มีรอยพับบริเวณหนังตาบน ซึ่งคือ เห็นเป็นตาชั้นเดียว  อาจทำให้แลดูเหมือนตาตี่ๆ ไม่สวยงามในสายตาบางคน   

บางคนอาจเป็นตาชั้นเดียวตั้งแต่เกิด  หรือมีตา 2 ชั้นอยู่ พออายุมากขึ้น  อ้วนขึ้น  มีไขมันที่เปลือกตามาก จนห้อยมาบดบังชั้นที่เคยมีอยู่  บางคนห้อยมากจนแทบจะปิดตาลงมา ทำให้การมองเห็นลดลง หรือเป็นเหตุให้ขนตาชี้ลง จนเขี่ยตาดำหรือกระจกตา จึงต้องมีการผ่าตัดทำตา 2 ชั้น (Blepharoplasty) เพื่อความสวยงามและ/หรือเพื่อการรักษา

ผ่าตัดตาสองชั้นอย่างไร?

ทำตาสองชั้น

 

โดยทั่วไป วิธีผ่าตัดตาสองชั้น เช่น

  • ใช้ฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณเปลือกตาหรือหนังตาที่ต้องการทำให้เป็น 2 ชั้น
  • วาดเป็นรอยที่คาดว่าจะทำให้เกิด 2 ชั้น ในตา 2 ข้าง ให้เท่าๆกัน บางรายถ้ามีหนังตาหย่อนมากก็จะวาดจำนวนหนังตาที่จะต้องตัดออกด้วย และวาดให้ตาทั้ง 2 ข้าง เท่ากัน
  • ใช้มีดผ่าตัด กรีดตามรอยที่วาดไว้ ตัดเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังที่คิดว่าเป็นส่วนเกินออก หากมีไขมันมากก็ตัดออกด้วย
  • เย็บให้ผิวหนังติดกับส่วนที่อยู่ชิดกับTarsus (เป็นเนื้อเยื่อคล้ายกระดูกอ่อนที่มีหน้าที่โครงรูปให้เป็นหนังตา)
  • เย็บแผลที่กรีดออกให้ติดกัน
  • แพทย์นัดตัดไหมในเวลาประมาณ 5 – 7 วัน

ทั้งนี้ หลักการในการทำตาสองชั้น คือ การทำให้ผิวหนังบางส่วนยึดติดเนื้อเยื่อใกล้ๆ Tarsus ซึ่งโดยทั่วไป หลังผ่าตัดสามารถกลับบ้านได้ ไม่ต้องอยู่โรงพยาบาล

มีข้อห้ามไม่ให้ทำตาสองชั้นหรือไม่?

เช่นเดียวกับการทำผ่าตัดบริเวณผิวหนังทั่วๆไป ที่ทำโดยใช้ยาชาฉีดเฉพาะที่ ซึ่งผู้ที่ 'ไม่ควรทำ' เช่น

  • แพ้ยาชาที่ใช้ฉีด
  • เป็นคนมีแนวโน้มที่จะเป็น แผลเป็น หรือแผลเป็นนูน (Keloid) เนื่องจากเป็นการทำผ่าตัดเพื่อความสวยงามเป็นหลัก  การมีแผลเป็นนูน จะยิ่งทำให้ไม่สวยงาม
  • มีโรคทางร่างกายที่อาจทำให้มีผลต่อการผ่าตัด เช่น โรคเลือด (เพราะเมื่อมีเลือดออกแล้วหยุดยาก) โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือโรคอื่นๆทางกายที่ยังควบคุมยังไม่ได้
  • ผู้ที่คาดหวังมากเกินไป เช่น คาดหวังว่าตา 2 ชั้น ต้องออกมาสวยงามดังดาราคนใดคนหนึ่งที่ตั้งเป้าไว้ ทั้งๆที่รูปหน้าอาจไม่อำนวยให้เป็นเช่นนั้น

มีผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนในการทำตาสองชั้นไหม?

ผลข้างเคียงแทรกซ้อนที่อาจพบได้จากการทำตาสองชั้น เช่น

  • มีเลือดออกมากระหว่างผ่าตัด: เนื่องจากหนังตาเป็นส่วนที่มีเลือดมาเลี้ยงค่อนข้างมาก การกรีดหนังตาบริเวณนี้มักจะมีเลือดออก ซึ่งแพทย์ต้องใช้วิธี จี้ห้ามเลือด, การมีเลือดออกมาก อาจทำให้แผลผ่าตัดบวมอยู่นานกว่าปกติ
  • แผลอักเสบติดเชื้อ: ซึ่งอาจพบได้บ้าง โดยผู้ป่วยจะมีอาการปวด เจ็บ แผลเป็นหนอง, แก้ไขโดยการให้ยาปฏิชีวนะแก้อักเสบระงับการติดเชื้อ
  • แผลไม่ติด หรือติดไม่ดี: ทำให้มีรอยแผลเป็นมากกว่าปกติ แผลหายช้า เจ็บตา นานกว่าปกติ
  • ที่สำคัญที่สุด และพบเป็นปัญหาได้บ่อย ได้แก่
    • ไม่พอใจหรือไม่สวยดังคาด
    • ตา 2 ชั้น 2 ข้างไม่เท่ากัน
    • รอยสองชั้นไม่เป็นที่พอใจ เช่น ตื้นเกินไป สูงเกินไป
    • หลังผ่าตัด เวลาหลับตา ตาปิดไม่สนิท มักจะเป็นระยะแรกๆเท่านั้น ส่วนใหญ่พบในผู้ป่วยที่รับการผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกมากกว่า
    • มีแผลเป็นบริเวณที่กรีด มากบ้าง น้อยบ้าง แต่โดยทั่วไปมักจะยอมรับได้ เนื่องจากเวลาลืมตา แผลเป็นจะหลบซ่อนอยู่ เจ้าตัวมองไม่เห็น ยกเว้นรายที่เป็นแผลเป็นใหญ่แบบแผลเป็นนูน ซึ่งพบได้น้อย
    • ไม่เกิดมีตาสองชั้นในบางราย จากการเย็บเพื่อให้เกิดการติดกันของผิวหนังกับเนื้อเยื่อบริเวณ Tarsus ไม่ติด, หรือไหมที่เย็บหลุดก่อนเวลา ทำให้ไม่เกิดตาสองชั้น

*****อนึ่ง: การผ่าตัดตาสองชั้นในบางราย อาจต้องมีการผ่าตัดซ้ำเพื่อแก้ไข

เตรียมตัวก่อนผ่าตัดอย่างไร?

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดตา2ชั้น: ทั่วไปได้แก่

  • เนื่องจากเป็นการทำผ่าตัดโดยใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่ต้องดมยาสลบ จึงไม่ต้องอดอาหาร, แต่ก็ไม่ควรทานจนอิ่มเกินไป เพราะระหว่างนอนทำผ่าตัด ซึ่งใช้เวลานอนประมาณ 1 ชั่วโมง อาจจะเกิดอาการแน่นอึดอัดท้องได้
  • ไม่ควรใช้เครื่องสำอางใดๆในบริเวณใบหน้า อันจะทำให้สกปรกยากแก่การเช็ดออกก่อนผ่าตัด, ตลอดจนเป็นบ่อเกิดการติดเชื้อโรคได้
  • หากมีการรับประทานยาห้ามเลือด ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน ควรหยุดรับประทาน 7-10 วัน เพราะอาจเป็นเหตุให้เลือดออกง่าย และออกมากกว่าปกติ
  • สระผมให้สะอาดก่อนมาผ่าตัด เพราะอาจจะสระผมไม่สะดวกในวันแรกๆหลังผ่าตัด
  • ควรจัดให้มีเวลาพักผ่อนหลังผ่าตัดประมาณ 1 สัปดาห์, งดการทำงานหรือออกกำลังกายหนักที่อาจพลาดพลั้งถูกแผลผ่าตัด, งานเบาๆ ยังพอทำได้
  • ***หลังผ่าตัด 1 – 2 สัปดาห์ ตาทั้ง 2 ข้าง จะบวม มากบ้างน้อยบ้าง และควรงดใช้เครื่องสำอางบริเวณตาจนกว่าแผลจะหายสนิท ซึ่งมักประมาณ 2 สัปดาห์

ใครที่ทำตาสองชั้นแล้วมักไม่สวย?

โดยทั่วไป หากมีตาชั้นเดียว ทำให้แลดูตาตี่ การเกิดตา 2 ชั้น ย่อมทำให้ดูตาสดใสกว่าเดิม   โดยต้องเปรียบเทียบก่อนและหลังทำ  *อย่าไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น ซึ่งโครงหน้าแตกต่างกัน สวยขึ้นมากน้อยต่างกัน การทำตา 2 ชั้น เป็นเพียงกรีดให้เป็นรอยพับบริเวณหนังตา ไม่อาจเปลี่ยนโครงหน้าอื่นๆได้

ผู้ที่มีหนังตาอูมมาก มีรอยตีนกามาก การทำตา 2 ชั้น ทำให้ตามีรอยพับ  แต่ตีนกายังเหมือนเดิม อาจจะแลดูไม่สวยดังที่ตั้งใจ ภาวะนี้ควรไปรับการผ่าตัดลบตีนกามากกว่า

ผู้มีรอยแผลเป็นเก่าบริเวณหนังตา การทำผ่าตัดซ้ำ อาจทำให้มีแผลเป็นดึงรั้ง ตาจึงออกมาไม่สวย

ผู้ที่เป็นแผลเป็นนูนง่าย การทำตาสองชั้นจะทำให้มีแผลเป็นมากขึ้น ดูไม่สวย

ดูแลตัวเองหลังผ่าตัดอย่างไร?

การดูแลตนเองหลังผ่าตัดตาสองชั้น เช่นเดียวกับการดูแลแผลผ่าตัดทั่วไป ที่สำคัญ คือ

  • ปฏิบัติตามแพทย์ พยาบาล แนะนำ ให้ถูกต้อง
  • รักษาความสะอาดแผล
  • เช็ดแผลเบาๆ หากรู้สึกว่ามีน้ำเลือด น้ำเหลือง เยิ้มออกมา
  • หลีกเลี่ยงการถูกน้ำที่ไม่สะอาด
  • หมอบางท่านอาจให้ยาที่เป็นครีมป้ายหนังตาป้องกันเชื้อโรค ควรใช้ตามคำแนะนำอย่างถูกต้อง
  • หลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งบริเวณแผล
  • หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณแผล
  • สามารถทำงานเบาๆ เช่น ขีดเขียนได้ตามอัธยาศัย
  • ทานยาแก้ปวด พาราเซตามอล (Paracetamol) หากรู้สึกเจ็บ/ปวด แผล

อะไรเป็นสัญญาณที่เตือนว่าควรไปพบแพทย์ก่อนนัด?

สัญญาณเตือนให้รีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล  หรือรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลก่อนนัด ทั่วไป คือ

  • แผลเลือดออก
  • ปวดแผลมาก ทานยาแก้ปวดไม่บรรเทา หรือต้องทานติดต่อกัน
  • แผลผิดปกติ เช่น แผลไม่ติด คัน มีผื่น มีน้ำเหลือง หรือมีหนอง  
  • ตาบวมและเขียวช้ำมาก
  • น้ำตาไหลมากกว่าปกติ
  • เจ็บภายในตา, อาจจากมีสิ่งแปลกปลอมพลัดเข้าไปในตา เนื่องจากหลังผ่าตัดหนังตาจะตึงๆ ไม่ค่อยกระพริบตา
  • ตามัวลง
  • มีขี้ตา
  • เมื่อมีความกังวลในอาการ หรือกังวลเรื่องแผล