ทำตาสองชั้น (Blepharoplasty)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต
- 25 มีนาคม 2566
- Tweet
สารบัญ
- เรื่องทั่วไปเกี่ยวกับตาสองชั้น
- ผ่าตัดตาสองชั้นอย่างไร?
- มีข้อห้ามไม่ให้ทำตาสองชั้นหรือไม่?
- มีผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนในการทำตาสองชั้นไหม?
- เตรียมตัวก่อนผ่าตัดอย่างไร?
- ใครที่ทำตาสองชั้นแล้วมักไม่สวย?
- ดูแลตัวเองหลังผ่าตัดอย่างไร?
- อะไรเป็นสัญญาณที่เตือนว่าควรไปพบแพทย์ก่อนนัด?
บทความที่เกี่ยวข้อง
- โรคตา โรคทางตา (Eye disease)
- กายวิภาคและสรีรวิทยาของตา (Anatomy and physiology of the eye)
- การตรวจตา การตรวจสุขภาพตา (Eye examination)
- กลุ่มยาแก้ปวดและยาพาราเซตามอล (Analgesics and Paracetamol)
- แผลเป็นนูน (Keloid)
- โรคติดเชื้อ ภาวะติดเชื้อ (Infectious disease)
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด: ยากันเลือดแข็งตัว (Anticoagulants)
เรื่องทั่วไปเกี่ยวกับตาสองชั้น
พวกเราชาวเอเชียโดยเฉพาะคนจีนหรือคนไทยเชื้อสายจีน มักจะไม่มีรอยพับบริเวณหนังตาบน ซึ่งคือ เห็นเป็นตาชั้นเดียว อาจทำให้แลดูเหมือนตาตี่ๆ ไม่สวยงามในสายตาบางคน
บางคนอาจเป็นตาชั้นเดียวตั้งแต่เกิด หรือมีตา 2 ชั้นอยู่ พออายุมากขึ้น อ้วนขึ้น มีไขมันที่เปลือกตามาก จนห้อยมาบดบังชั้นที่เคยมีอยู่ บางคนห้อยมากจนแทบจะปิดตาลงมา ทำให้การมองเห็นลดลง หรือเป็นเหตุให้ขนตาชี้ลง จนเขี่ยตาดำหรือกระจกตา จึงต้องมีการผ่าตัดทำตา 2 ชั้น (Blepharoplasty) เพื่อความสวยงามและ/หรือเพื่อการรักษา
ผ่าตัดตาสองชั้นอย่างไร?
โดยทั่วไป วิธีผ่าตัดตาสองชั้น เช่น
- ใช้ฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณเปลือกตาหรือหนังตาที่ต้องการทำให้เป็น 2 ชั้น
- วาดเป็นรอยที่คาดว่าจะทำให้เกิด 2 ชั้น ในตา 2 ข้าง ให้เท่าๆกัน บางรายถ้ามีหนังตาหย่อนมากก็จะวาดจำนวนหนังตาที่จะต้องตัดออกด้วย และวาดให้ตาทั้ง 2 ข้าง เท่ากัน
- ใช้มีดผ่าตัด กรีดตามรอยที่วาดไว้ ตัดเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังที่คิดว่าเป็นส่วนเกินออก หากมีไขมันมากก็ตัดออกด้วย
- เย็บให้ผิวหนังติดกับส่วนที่อยู่ชิดกับTarsus (เป็นเนื้อเยื่อคล้ายกระดูกอ่อนที่มีหน้าที่โครงรูปให้เป็นหนังตา)
- เย็บแผลที่กรีดออกให้ติดกัน
- แพทย์นัดตัดไหมในเวลาประมาณ 5 – 7 วัน
ทั้งนี้ หลักการในการทำตาสองชั้น คือ การทำให้ผิวหนังบางส่วนยึดติดเนื้อเยื่อใกล้ๆ Tarsus ซึ่งโดยทั่วไป หลังผ่าตัดสามารถกลับบ้านได้ ไม่ต้องอยู่โรงพยาบาล
มีข้อห้ามไม่ให้ทำตาสองชั้นหรือไม่?
เช่นเดียวกับการทำผ่าตัดบริเวณผิวหนังทั่วๆไป ที่ทำโดยใช้ยาชาฉีดเฉพาะที่ ซึ่งผู้ที่ 'ไม่ควรทำ' เช่น
- แพ้ยาชาที่ใช้ฉีด
- เป็นคนมีแนวโน้มที่จะเป็น แผลเป็น หรือแผลเป็นนูน (Keloid) เนื่องจากเป็นการทำผ่าตัดเพื่อความสวยงามเป็นหลัก การมีแผลเป็นนูน จะยิ่งทำให้ไม่สวยงาม
- มีโรคทางร่างกายที่อาจทำให้มีผลต่อการผ่าตัด เช่น โรคเลือด (เพราะเมื่อมีเลือดออกแล้วหยุดยาก) โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือโรคอื่นๆทางกายที่ยังควบคุมยังไม่ได้
- ผู้ที่คาดหวังมากเกินไป เช่น คาดหวังว่าตา 2 ชั้น ต้องออกมาสวยงามดังดาราคนใดคนหนึ่งที่ตั้งเป้าไว้ ทั้งๆที่รูปหน้าอาจไม่อำนวยให้เป็นเช่นนั้น
มีผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนในการทำตาสองชั้นไหม?
ผลข้างเคียงแทรกซ้อนที่อาจพบได้จากการทำตาสองชั้น เช่น
- มีเลือดออกมากระหว่างผ่าตัด: เนื่องจากหนังตาเป็นส่วนที่มีเลือดมาเลี้ยงค่อนข้างมาก การกรีดหนังตาบริเวณนี้มักจะมีเลือดออก ซึ่งแพทย์ต้องใช้วิธี จี้ห้ามเลือด, การมีเลือดออกมาก อาจทำให้แผลผ่าตัดบวมอยู่นานกว่าปกติ
- แผลอักเสบติดเชื้อ: ซึ่งอาจพบได้บ้าง โดยผู้ป่วยจะมีอาการปวด เจ็บ แผลเป็นหนอง, แก้ไขโดยการให้ยาปฏิชีวนะแก้อักเสบระงับการติดเชื้อ
- แผลไม่ติด หรือติดไม่ดี: ทำให้มีรอยแผลเป็นมากกว่าปกติ แผลหายช้า เจ็บตา นานกว่าปกติ
- ที่สำคัญที่สุด และพบเป็นปัญหาได้บ่อย ได้แก่
- ไม่พอใจหรือไม่สวยดังคาด
- ตา 2 ชั้น 2 ข้างไม่เท่ากัน
- รอยสองชั้นไม่เป็นที่พอใจ เช่น ตื้นเกินไป สูงเกินไป
- หลังผ่าตัด เวลาหลับตา ตาปิดไม่สนิท มักจะเป็นระยะแรกๆเท่านั้น ส่วนใหญ่พบในผู้ป่วยที่รับการผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกมากกว่า
- มีแผลเป็นบริเวณที่กรีด มากบ้าง น้อยบ้าง แต่โดยทั่วไปมักจะยอมรับได้ เนื่องจากเวลาลืมตา แผลเป็นจะหลบซ่อนอยู่ เจ้าตัวมองไม่เห็น ยกเว้นรายที่เป็นแผลเป็นใหญ่แบบแผลเป็นนูน ซึ่งพบได้น้อย
- ไม่เกิดมีตาสองชั้นในบางราย จากการเย็บเพื่อให้เกิดการติดกันของผิวหนังกับเนื้อเยื่อบริเวณ Tarsus ไม่ติด, หรือไหมที่เย็บหลุดก่อนเวลา ทำให้ไม่เกิดตาสองชั้น
*****อนึ่ง: การผ่าตัดตาสองชั้นในบางราย อาจต้องมีการผ่าตัดซ้ำเพื่อแก้ไข
เตรียมตัวก่อนผ่าตัดอย่างไร?
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดตา2ชั้น: ทั่วไปได้แก่
- เนื่องจากเป็นการทำผ่าตัดโดยใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่ต้องดมยาสลบ จึงไม่ต้องอดอาหาร, แต่ก็ไม่ควรทานจนอิ่มเกินไป เพราะระหว่างนอนทำผ่าตัด ซึ่งใช้เวลานอนประมาณ 1 ชั่วโมง อาจจะเกิดอาการแน่นอึดอัดท้องได้
- ไม่ควรใช้เครื่องสำอางใดๆในบริเวณใบหน้า อันจะทำให้สกปรกยากแก่การเช็ดออกก่อนผ่าตัด, ตลอดจนเป็นบ่อเกิดการติดเชื้อโรคได้
- หากมีการรับประทานยาห้ามเลือด ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน ควรหยุดรับประทาน 7-10 วัน เพราะอาจเป็นเหตุให้เลือดออกง่าย และออกมากกว่าปกติ
- สระผมให้สะอาดก่อนมาผ่าตัด เพราะอาจจะสระผมไม่สะดวกในวันแรกๆหลังผ่าตัด
- ควรจัดให้มีเวลาพักผ่อนหลังผ่าตัดประมาณ 1 สัปดาห์, งดการทำงานหรือออกกำลังกายหนักที่อาจพลาดพลั้งถูกแผลผ่าตัด, งานเบาๆ ยังพอทำได้
- ***หลังผ่าตัด 1 – 2 สัปดาห์ ตาทั้ง 2 ข้าง จะบวม มากบ้างน้อยบ้าง และควรงดใช้เครื่องสำอางบริเวณตาจนกว่าแผลจะหายสนิท ซึ่งมักประมาณ 2 สัปดาห์
ใครที่ทำตาสองชั้นแล้วมักไม่สวย?
โดยทั่วไป หากมีตาชั้นเดียว ทำให้แลดูตาตี่ การเกิดตา 2 ชั้น ย่อมทำให้ดูตาสดใสกว่าเดิม โดยต้องเปรียบเทียบก่อนและหลังทำ *อย่าไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น ซึ่งโครงหน้าแตกต่างกัน สวยขึ้นมากน้อยต่างกัน การทำตา 2 ชั้น เป็นเพียงกรีดให้เป็นรอยพับบริเวณหนังตา ไม่อาจเปลี่ยนโครงหน้าอื่นๆได้
ผู้ที่มีหนังตาอูมมาก มีรอยตีนกามาก การทำตา 2 ชั้น ทำให้ตามีรอยพับ แต่ตีนกายังเหมือนเดิม อาจจะแลดูไม่สวยดังที่ตั้งใจ ภาวะนี้ควรไปรับการผ่าตัดลบตีนกามากกว่า
ผู้มีรอยแผลเป็นเก่าบริเวณหนังตา การทำผ่าตัดซ้ำ อาจทำให้มีแผลเป็นดึงรั้ง ตาจึงออกมาไม่สวย
ผู้ที่เป็นแผลเป็นนูนง่าย การทำตาสองชั้นจะทำให้มีแผลเป็นมากขึ้น ดูไม่สวย
ดูแลตัวเองหลังผ่าตัดอย่างไร?
การดูแลตนเองหลังผ่าตัดตาสองชั้น เช่นเดียวกับการดูแลแผลผ่าตัดทั่วไป ที่สำคัญ คือ
- ปฏิบัติตามแพทย์ พยาบาล แนะนำ ให้ถูกต้อง
- รักษาความสะอาดแผล
- เช็ดแผลเบาๆ หากรู้สึกว่ามีน้ำเลือด น้ำเหลือง เยิ้มออกมา
- หลีกเลี่ยงการถูกน้ำที่ไม่สะอาด
- หมอบางท่านอาจให้ยาที่เป็นครีมป้ายหนังตาป้องกันเชื้อโรค ควรใช้ตามคำแนะนำอย่างถูกต้อง
- หลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งบริเวณแผล
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณแผล
- สามารถทำงานเบาๆ เช่น ขีดเขียนได้ตามอัธยาศัย
- ทานยาแก้ปวด พาราเซตามอล (Paracetamol) หากรู้สึกเจ็บ/ปวด แผล
อะไรเป็นสัญญาณที่เตือนว่าควรไปพบแพทย์ก่อนนัด?
สัญญาณเตือนให้รีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล หรือรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลก่อนนัด ทั่วไป คือ
- แผลเลือดออก
- ปวดแผลมาก ทานยาแก้ปวดไม่บรรเทา หรือต้องทานติดต่อกัน
- แผลผิดปกติ เช่น แผลไม่ติด คัน มีผื่น มีน้ำเหลือง หรือมีหนอง
- ตาบวมและเขียวช้ำมาก
- น้ำตาไหลมากกว่าปกติ
- เจ็บภายในตา, อาจจากมีสิ่งแปลกปลอมพลัดเข้าไปในตา เนื่องจากหลังผ่าตัดหนังตาจะตึงๆ ไม่ค่อยกระพริบตา
- ตามัวลง
- มีขี้ตา
- เมื่อมีความกังวลในอาการ หรือกังวลเรื่องแผล