การดูแลช่องปากเมื่อได้เคมีบำบัดหรือรังสีรักษา (Chemotherapy or radiation therapy: Oral care)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 8 เมษายน 2566
- Tweet
สารบัญ
- ทำไมได้เคมีบำบัดแล้วถึงเจ็บปากเจ็บคอ?
- ทำไมฉายรังสีรักษาแล้วถึงเจ็บปากคอ?
- ป้องกันไม่ให้เจ็บปากเจ็บคอได้ไหม?
- ดูแลตนเองอย่างไรเมื่อเจ็บปากเจ็บคอ?
- ควรพบแพทย์เมื่อไร?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- มะเร็ง (Cancer)
- รังสีรักษา ฉายรังสี ใส่แร่ (Radiation therapy)
- การฉายรังสีรักษา เทคนิคการฉายรังสี (External irradiation)
- ยาเคมีบำบัด (Cancer chemotherapy)
- น้ำยาบ้วนปาก ยาบ้วนปาก (Gargle)
- กลิ่นปาก (Bad breath)
- การดูแลตนเอง การดูแลผู้ป่วยเคมีบำบัด (Coping with chemotherapy)
- การดูแลตนเองเมื่อป่วยเป็นโรคมะเร็ง และการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง (Cancer patient self-care and Cancer care)
ทำไมได้เคมีบำบัดแล้วถึงเจ็บปากเจ็บคอ?
ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) มีคุณสมบัติก่อการบาดเจ็บและทำลายเซลล์ทุกชนิด แต่จะทำลายเซลล์มะเร็งมากกว่าเซลล์ปกติมาก และเซลล์ปกติยังมีคุณสมบัติที่จะซ่อมแซมฟื้นตัวจากยาเคมีบำบัดได้ดีกว่าเซลล์มะเร็งมาก ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ จึงได้นำยาเคมีบำบัดมาใช้รักษาโรคมะเร็ง และเนื่องจากเซลล์เยื่อเมือกบุช่องปากและช่องคอ มีความไวต่อยาเคมีบำบัดมาก กว่าเซลล์อื่นๆของร่างกายเพราะเป็นเซลล์ที่มีการแบ่งตัวสูงกว่า ดังนั้นเมื่อได้ยาเคมีบำบัด ยาจะส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บ อักเสบ (โดยไม่ติดเชื้อ) ของเซลล์เยื่อเมือกบุช่องปาก/ช่องคอ จึงก่อให้เกิดอาการเจ็บปากเจ็บคอได้ แต่จะเป็นอาการเพียงชั่วคราว ซึ่งมักเกิดประมาณ 24 ชั่วโมงภายหลังยาเคมีบำบัด และจะมีอาการอยู่ประมาณ 4-5 วัน โดยอาการจะดีขึ้นตามลำดับหลังได้ยาเคมีบำบัด 2-3 วันไปแล้ว
ความรุนแรงของอาการเจ็บปากเจ็บคอจะขึ้นกับหลายปัจจัย ที่สำคัญ เช่น
- ชนิดและปริมาณยาเคมีบำบัด
- มีการฉายรังสีรักษาบริเวณช่องปากและลำคอร่วมด้วย
- ผู้ป่วยสูบ/เคยสูบบุหรี่ และ/หรือดื่ม/เคยสุรามาก่อน
ทำไมฉายรังสีรักษาแล้วถึงเจ็บปากเจ็บคอ?
รังสีรักษา (Radiotherapy หรือ Radiation therapy) ก่อให้เกิดอาการเจ็บปากเจ็บคอ เพราะรังสีจะก่อให้เกิดการบาดเจ็บต่อเซลล์ที่ได้รับรังสี โดยจะต่างจากยาเคมีบำบัดที่ยาเคมีบำบัดจะก่ออาการเจ็บปากเจ็บคอได้เสมอในทุกครั้งของการให้ยาเคมีบำบัดและในโรคมะเร็งทุกชนิดที่ได้รับยาเคมีบำบัด โดยอาการจะน้อย หรือมาก ขึ้นกับชนิด และปริมาณ (Dose) ของยาเคมีบำบัด แต่รังสีรักษา จะก่อให้เกิดอาการเจ็บปากเจ็บคอ เฉพาะเมื่อเป็นการฉายรังสีรักษาผ่านบริเวณช่องปากและ/หรือช่องคอเท่านั้น ดังนั้นอาการเจ็บปากเจ็บคอ จึงเกิดเฉพาะการฉายรังสีในโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นเฉพาะในส่วน/ระบบ-ศีรษะ-ลำคอเท่านั้น (การดูแลตนเองเมื่อฉายรังสีรักษาบริเวณศีรษะและลำคอ) โรคมะเร็งอื่นๆ เช่น โรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งปากมดลูก จะไม่มีอาการเจ็บปากเจ็บคอเมื่อได้รับการรักษาด้วยรังสีรักษา
อาการเจ็บปากเจ็บคอจากรังสีรักษา/การฉายรังสีรักษาจะมากหรือน้อยขึ้นกับหลายปัจจัยเช่นกัน ที่สำคัญ เช่น
- ปริมาณรังสีที่ผู้ป่วยได้รับ
- สุขภาพของช่องปาก (เช่น มีโรคเหงือก โรคฟันผุ)
- การได้ยาเคมีบำบัดร่วมด้วย
- อายุมาก
- เป็นโรคเบาหวาน
- สูบ/เคยสูบบุหรี่
- ดื่ม/เคยดื่มสุรา
ทั่วไปถ้าผู้ป่วยไม่เคยสูบบุหรี่ และ/หรือดื่มสุรา และ/หรือไม่ได้ยาเคมีบำบัดร่วมด้วย อาการเจ็บปากเจ็บคอมักเริ่มเกิดในสัปดาห์ที่ 2-3 ของการฉายรังสี แต่ถ้าเคยสูบบุหรี่ ดื่มสุรา และ/หรือการได้ยาเคมีบำบัดด้วย อาการเจ็บปากเจ็บคอจะเกิดได้ภายใน 2-3 วันของการฉายรังสีรักษา
อาการเจ็บปากเจ็บคอจากรังสีรักษาจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อฉายรังสีต่อเนื่อง จากปริมาณรังสีสะสมที่สูงขึ้น แต่อาการจะค่อยๆดีขึ้นภายหลังหยุดฉายรังสีแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ และจะกลับเป็นปกติ หรือใกล้เคียงปกติ ประมาณ 6-8 สัปดาห์หลังครบรังสีรักษาแล้ว (การดูแลตนเองเมื่อฉายรังสีรักษาบริเวณศีรษะและลำคอ)
ป้องกันไม่ให้เจ็บปากเจ็บคอได้ไหม?
การป้องกันอาการเจ็บปากเจ็บคอ จากยาเคมีบำบัดและจากรังสีรักษาเป็นเรื่องยาก เพราะเป็นสิ่งที่ต้องเกิด แต่อาจลดอาการรุนแรงลงได้ ทั่วไปโดย
- อมน้ำแข็งในช่วงให้ยาเคมีบำบัด หรือในช่วงฉายรังสี แต่เป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ และได้ผลไม่ชัดเจน จึงไม่มีการนำมาใช้ในทางปฏิบัติ
- เลิกบุหรี่ และสุรา
- ดื่มน้ำสะอาดมากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้วเมื่อไม่มีโรคจำกัดน้ำดื่ม
- รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
- ดูแลการทำงานของไขกระดูกให้ปกติ ไม่มีภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำจากเคมีบำบัด และ/หรือรังสีรักษา:การดูแลตนเอง) เพื่อป้องกันการติดเชื้อของช่องปากช่องคอ ซึ่ง คือ การกินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ให้ครบในทุกๆวัน โดยเพิ่มอาหารโปรตีนให้เพียงพอ
ดูแลตนเองอย่างไรเมื่อเจ็บปากเจ็บคอ?
การดูแลตนเองเมื่อมีอาการเจ็บปากเจ็บคอ และการพบแพทย์ ทั้งในการได้รับยาเคมีบำบัดและ/หรือในรังสีรักษา (การดูแลตนเองเมื่อฉายรังสีรักษาบริเวณศีรษะและลำคอ) ทั่วไปคือ
- รักษาความสะอาดช่องปากเสมอ: โดย
- แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ก่อนเข้านอน และเมื่อตื่นนอนเช้า
- ปรับยาสีฟันเป็นยาสีฟันเด็กที่ไม่ก่อการระคายเยื่อเมือกช่องปาก
- เปลี่ยนแปรงสีฟันเป็นแปรงเด็กชนิดขนแปรงอ่อนนุ่ม
- บางครั้งอาจใช้เพียงผ้าสะอาดเช็ดช่องปาก ถ้าการแปรงฟันเพิ่มอาการเจ็บช่องปากมากขึ้น
- บ้วนปากด้วยน้ำเกลือเจือจาง(ทำเองได้จากการผสมน้ำกับเกลือแกง), หรือน้ำสะอาด, หรือน้ำยาบ้วนปาก (เฉพาะเมื่อแพทย์แนะนำเท่านั้น) หลัง กินอาหาร ดื่มเครื่องดื่ม ทุกครั้ง
- ปรับอาหารเป็นอาหารอ่อน อาหารเหลว (ประเภทอาหารทางการแพทย์)
- กินอาหารให้เพียงพอ โดยเฉพาะอาหารประเภทที่ซ่อมแซมเซลล์ที่บาดเจ็บเสีย หาย ซึ่งคือ อาหารโปรตีน (เช่น นม ไข่ เนื้อสัตว์ ปลา ตับ นมถั่วเหลือง)
- กินอาหารบ่อยๆ เพิ่มมื้ออาหาร แต่กินครั้งละเท่าที่พอกินได้
- ดื่มน้ำสะอาดให้ได้มากๆ อย่างน้อยวันละ 1-2 ลิตรเมื่อไม่มีโรคต้องจำกัดน้ำดื่ม ทยอยดื่ม/จิบทั้งวัน ไม่ใช่ดื่มรวดเดียว
- จิบน้ำบ่อยๆ อมน้ำแข็งก้อนเล็กๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นในช่องปากเสมอ ยิ่งช่องปากแห้งจะยิ่งเจ็บปากเจ็บคอ
- รักษาความสะอาดฟันปลอมถ้าใช้ฟันปลอม และอาจต้องพักการใช้ ถ้ามีแผลที่เหงือก หรือเพดานปาก
ควรพบแพทย์เมื่อไหร่?
ทั่วไปควรพบแพทย์/แจ้ง แพทย์ พยาบาล หรือมาโรงพยาบาลก่อนแพทย์นัด เมื่อ
- อาการเจ็บปากเจ็บคอส่งผลถึงการ กิน การดื่ม ทั้งๆที่ดูแลตนเองแล้ว
- กิน หรือ ดื่มได้น้อย
- อ่อนเพลียมาก
- มีกลิ่นปากมาก
- มีเลือดออกจากแผลในปาก และ/หรือในคอ
- ท้องเสีย
- ท้องผูก
- มีไข้
- กังวลในอาการ
บรรณานุกรม
- DeVita, V., Hellman, S., and Rosenberg, S. (2005). Cancer: principles& practice of oncology (7th edition). New York: Lippincott Williams & Wilkins.
- https://www.cancer.net/navigating-cancer-care/how-cancer-treated/chemotherapy/side-effects-chemotherapy [2023,April8]
- https://www.dana-farber.org/health-library/articles/mouth-care-for-cancer-patients/ [2023,April8]
- https://dental.ufl.edu/patient-care/patient-information/special-care-instructions-for-cancer-patients/oral-care-during-head-neck-radiotherapy/ [2023,April8]
- https://www.nidcr.nih.gov/health-info/cancer-treatments [2023,April8]