โรคไตอักเสบในเด็ก (Pediatric nephritis)
- โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิง สุวรรณี วิษณุโยธิน
- 5 มีนาคม 2563
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ
- โรคไตอักเสบในเด็กเกิดขึ้นได้อย่างไร?
- โรคไตอักเสบในเด็กมีอาการอย่างไร ?
- แพทย์วินิจฉัยโรคไตอักเสบในเด็กได้อย่างไร?
- หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาโรคไตอักเสบในเด็กจะมีอันตรายอย่างไร?
- โรคไตอักเสบในเด็กมีวิธีรักษาอย่างไร ?
- โรคไตอักเสบในเด็กรักษาหายไหม?
- โรคไตอักเสบในเด็กสามารถป้องกันได้หรือไม่?
- ควรนำเด็กพบแพทย์เมื่อไร?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เด็ก: โรคเด็ก (Childhood: Childhood diseases)
- โรคไต (Kidney disease)
- โรคไตเรื้อรัง (Chronic kidney disease)
- การล้างไต การบำบัดทดแทนไต (Renal replacement therapy)
- โรคพุ่มพวง / โรคลูปัส (Lupus) / โรคเอสแอลอี (SLE)
- โรคลิ้นหัวใจ (Valvular heart disease)
- ปัสสาวะ การตรวจปัสสาวะ (Urinalysis)
บทนำ
ไต เป็นอวัยวะที่มีรูปร่างคล้ายเมล็ดถั่ว มีอยู่ 2 ข้างบริเวณเอวของร่างกาย ทำหน้าที่ขับถ่าย น้ำและของเสียออกจากร่างกายทางปัสสาวะ นอกจากนี้ยังมีหน้าที่สร้างฮอร์โมนบางชนิดเช่น ฮอร์ โมนที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงและวิตามินดีเพื่อช่วยในการสร้างกระดูก เมื่อมีการอักเสบของไตเกิดขึ้น ทำให้หน้าที่ของไตดังกล่าวทั้งหมดบกพร่อง โดยทำให้เกิดการคั่งของน้ำ เกลือแร่บางชนิด และของเสียในร่างกาย มากน้อยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการอักเสบ
โรคไตอักเสบในเด็ก (Pediatric nephritis หรือ childhood nephritis) เป็นโรคไตในเด็กที่พบบ่อย สาเหตุมีได้หลายอย่างและแตกต่างจากในผู้ใหญ่ ความรุนแรง วิธีการรักษา และการพยากรณ์โรค (ความรุนแรงของโรค) ขึ้นอยู่กับสาเหตุของไตอักเสบนั้น
โรคไตอักเสบในเด็กเกิดขึ้นได้อย่างไร?
สาเหตุของโรคไตอักเสบในเด็กมีได้หลายสาเหตุ
- สาเหตุพบบ่อยที่สุดคือ ไตอักเสบที่เกิดตามหลังการติดเชื้อสเตร็ปโตคอคคัส (Streptococcus) บางสายพันธุ์ ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้เกิดคอหอยและทอนซิลอักเสบหรือเกิดฝีหนองที่ผิวหนังได้ การติดเชื้อมักเกิดประมาณ 1 - 3 สัปดาห์ก่อนที่จะเกิดอาการของไตอักเสบ ระ หว่างนั้นจะมีการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันต้านทานในร่างกายให้เกิดปฏิกิริยาการอักเสบของไต
- สาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดไตอักเสบในเด็กเช่น โรคลูปัส(Lupus) หรือโรคเอสแอลอี(SLE, systemic lupus erythematosus) ซึ่งเป็นโรคภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกายไวเกินที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด และทำให้เกิดความผิดปกติได้เกือบทุกอวัยวะในร่างกายนอกเหนือจากไตอักเสบ
- นอกจากนี้สาเหตุของไตอักเสบในเด็กยังอาจเกิดจากโรคหลอดเลือดอักเสบที่เรียกว่า Henoch SchÖnlein Purpura ซึ่งจะขอเรียกสั้นๆว่า “โรคฮีนอค” ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันต้านทานในร่างกายแล้วส่งผลให้เกิดไตอักเสบตามมา
- นอกจากนี้โรคไตอักเสบในเด็กอาจเกิดตามหลังการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่น เช่น สแตฟฟิโลคอคคัส (Staphylococcus) ตามหลังการติดเชื้อไวรัสเช่น โรคหัด และโรคอีสุกอีใสตามหลังโรคลิ้นหัวใจอักเสบ
- และบางชนิดของไตอักเสบในเด็กยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
โรคไตอักเสบในเด็กมีอาการอย่างไร ?
อาการสำคัญของโรคไตอักเสบในเด็กคือ
- อาการบวมโดยเฉพาะที่หนังตา 2 ข้างและใบหน้า โดยเฉพาะช่วงเช้าหลังตื่นนอน หากอาการรุนแรงทำให้บวมมาก จะพบการบวมที่ขาและท้องร่วมด้วย
- อาการอื่นๆที่พบคือ
- ปัสสาวะออกลดลง
- นอกจากนี้อาจพบปัสสาวะสีผิดปกติเช่น สีแดงคล้ำ สีคล้ายน้ำล้างเนื้อ สีน้ำตาลคล้ายสีชาหรือสีน้ำปลา เป็นต้น
- และตรวจพบความดันโลหิตสูง ซึ่งภาวะนี้อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการ
- ปวดศีรษะ
- ตามัว
- หรือชัก
- หมดสติ
- หากไตอักเสบรุนแรงมากอาจทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันซึ่งจะทำให้เกิดอาการดังกล่าวรุนแรงมากได้
อนึ่ง:
- กรณีโรคไตอักเสบจากโรคลูปัส อาจพบอาการอื่นๆนอกระบบไตได้ เช่น
- ผื่นที่แก้ม 2 ข้างหรือ บริเวณนอกร่มผ้า ซึ่งมักสัมพันธ์กับการถูกแสงแดดจัดนานๆ
- แผลในปากโดยเฉพาะที่เพดานปาก อาจมีอาการเจ็บหรือไม่เจ็บก็ได้
- ปวดข้อหรือข้อบวมโดยเฉพาะข้อนิ้วมือและข้อมือ
- ส่วนกรณี โรคไตอักเสบจากโรคฮีนอค อาจพบ
- อาการปวดข้อ
- และมีผื่นเป็นจุดแดงโดยเฉพาะที่ขาและสะโพก
- ในบางรายอาจมีปวดท้องร่วมด้วย
แพทย์วินิจฉัยโรคไตอักเสบในเด็กได้อย่างไร ?
แพทย์วินิจฉัยโรคไตอักเสบในเด็กได้จาก
- อาการผู้ป่วย
- การตรวจปัสสาวะ
- และการตรวจเลือด
- นอกจากนี้อาจร่วมกับการตรวจเพาะเชื้อจากคอหอย หรือจากผิวหนังในรายที่สงสัยว่าไตอักเสบเกิดตามหลังการติดเชื้อ
หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาโรคไตอักเสบในเด็กจะมีอันตรายอย่างไร?
ในผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการวินิจฉัยหรือรักษาโรคไตอักเสบล่าช้า อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรก ซ้อนตามมาได้หลายอย่าง เช่น
- หากอาการบวมเป็นมาก อาจทำให้เกิดน้ำในช่องท้องและช่องเยื่อหุ้มปอดทำให้เด็กอาจรู้สึก แน่นท้อง อึดอัด เหนื่อย และหายใจลำบากได้
- เด็กที่มีความดันโลหิตสูงมาก อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ชัก และหมดสติ
- หากโรครุนแรงมากทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบ พลันซึ่งจะทำให้อาการบวมและความดันโลหิตสูงรุนแรงขึ้น
- และเกิดภาวะเกลือแร่ในเลือดผิดปกติเช่น
- ภาวะเกลือโพแทสเซียมสูงในเลือด ซึ่งทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ
- ภาวะกรดในเลือด/เลือดเป็นกรดซึ่งทำให้หายใจหอบและหัวใจทำงานผิดปกติ
- และภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำซึ่งทำให้กล้ามเนื้อกระตุกและชักได้
โรคไตอักเสบในเด็กมีวิธีรักษาอย่างไร?
วิธีรักษาโรคไตอักเสบในเด็ก ประกอบด้วย 2 วิธีหลักซึ่งต้องใช้ควบคู่กันไปคือ
1. การรักษาเพื่อลดอาการของไตอักเสบและภาวะแทรกซ้อน:
ก. แพทย์จะลดอาการบวม โดย
- ให้เด็กจำกัดปริมาณน้ำดื่ม และงดอาหารเค็ม หรืออาหารที่มีปริมาณเกลือโซเดียมสูง (เกลือแกง เกลือปรุงอาหาร) เช่น
- ลดปริมาณการใช้เกลือ น้ำปลา ซอส ปรุงรสและซีอิ๊วในการปรุงอาหาร
- งดผงชูรส อาหารหมักดอง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารสำเร็จรูปบางประเภท เช่น หมูหรือเนื้อสวรรค์ หมูแผ่น แหนม ปลาร้า มันฝรั่งทอด ขนมขบเคี้ยว เป็นต้น
- นอกจากนี้แพทย์จะให้ยาขับปัสสาวะในรูปแบบฉีดหรือรับประทานเพื่อลดอาการบวม
ข. ในการควบคุมความดันโลหิต แพทย์จะให้ยาลดความดันโลหิตสูงควบคู่ไปกับการให้เด็กนอนพักและงดการออกกำลังกายในช่วงแรก
ค. ในเด็กที่มีภาวะไตวายเฉียบพลันหรือภาวะเกลือโปแตสเซียมในเลือดสูง แพทย์จะให้งดผัก และผลไม้ซึ่งมีปริมาณโปแตสเซียมสูงด้วย โดยเฉพาะกล้วย ส้ม แคนตาลูป มะเขือเทศ และมันฝรั่ง
2. การรักษาเฉพาะโรค:
การรักษานี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรคที่ทำให้เกิดไตอักเสบในเด็ก เช่น
- หากเป็นไตอักเสบที่เกิดตามหลังการติดเชื้อและยังพบเชื้อนั้นอยู่ในร่างกาย แพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อ (ยาปฏิชีวนะ) รับประทานหรือฉีด เพื่อกำจัดเชื้อนั้น และเพื่อไม่ให้เชื้อนั้นแพร่ระบาดสู่คนรอบข้างต่อไป
- หากเป็นโรคไตอักเสบจากโรคลูปัสหรือไตอักเสบจากโรคฮีนอคที่รุนแรง แพทย์จะให้ยา สเตียรอยด์รับประทานเพื่อรักษา เป็นต้น
โรคไตอักเสบในเด็กรักษาหายไหม?
นับเป็นความโชคดีที่โรคไตอักเสบในเด็กที่เกิดตามหลังการติดเชื้อ โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย สเตร็ปโตคอคคัสซึ่งพบได้บ่อยที่สุด ในเด็กมีการพยากรณ์โรคที่ดีต่างจากในผู้ใหญ่ โดยในเด็กส่วนใหญ่สามารถรักษาให้หายขาดได้
ส่วนโรคไตอักเสบที่เกิดจากโรคฮีนอคที่ไม่รุนแรงสามารถรักษาหายได้ แต่หากมีไตอักเสบ รุนแรงจนภาวะไตวายเฉียบพลันอาจถึงแก่ชีวิตได้ และหากรอดชีวิตก็มีแนวโน้มเกิดภาวะไตวายเรื้อรังตามมาสูง
แต่โรคไตอักเสบจากโรคลูปัส แม้เป็นโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดและรักษาไม่หายขาดทั้งในเด็กและในผู้ใหญ่ แต่ก็อย่าหมดกำลังใจในการเข้ารับการรักษา เนื่องจากสามารถรักษาให้โรคสงบได้ด้วยยาสเตียรอยด์และยาอื่นๆ ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้เป็นปกติโดยต้องรับประ ทานยาอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมโรค และหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด รวมทั้งหลีกเลี่ยงโรคติดเชื้อต่างๆ เพื่อลดการกำเริบของโรคลูปัส
โรคไตอักเสบในเด็กสามารถป้องกันได้หรือไม่?
โรคไตอักเสบในเด็กบางชนิดสามารถป้องกันได้ เช่น โรคไตอักเสบที่เกิดตามหลังการติดเชื้อ โดยดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง (รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน/สุขบัญญัติแห่งชาติ) ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการเข้าไปในแหล่งชุมชนแออัด หรือเข้าใกล้ผู้ป่วยที่มีการติดเชื้ออยู่ เพื่อป้อง กันการติดเชื้อดังกล่าวข้างต้นจะได้ไม่เกิดโรคไตอักเสบตามมา และในบางโรคก็มีวัคซีนป้องกัน เช่น โรคหัด โรคอีสุกอีใส เป็นต้น
แต่ในโรคไตอักเสบจากสาเหตุอื่น เนื่องจากสาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบแน่ชัดจึงยังไม่ทราบวิธีป้องกันโรค
ควรนำเด็กพบแพทย์เมื่อไร?
ควรนำเด็กพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเมื่อ
- ผู้ปกครองควรนำเด็กพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเสมอเมื่อเด็กมีอาการตาหรือหน้าบวมหลังตื่นนอนต่อเนื่อง
- และควรรีบนำเด็กพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเมื่อปัสสาวะของเด็กมีสีผิดปกติดังกล่าวแล้ว
บรรณานุกรม
1. Rodriguez-Iturbe B, Mezzano S. Acute postinfectious glomerulonephritis. In: Avner ED, Harmon WE, Niaudet P, Yoshikawa N, editors. Pediatric nephrology. 6th ed. Berlin Heidelberg: Springer-Verlag; 2009. p. 743-55.
2. สุวรรณี วิษณุโยธิน. Acute glomerulonephritis. ใน: สุขชาติ เกิดผล, อวยพร ปะนะมณฑา, จามรี ธีรตกุลพิศาล, ชาญชัย พานทองวิริยะกุล, ณรงค์ เอื้อวิชญาแพทย์, จรรยา จิระประดิษฐา, บรรณาธิการ. วิชากุมารเวชศาสตร์ เล่ม 3. ขอนแก่น: แอนนาออฟเซต; 2552. หน้า 711-9.