โรคหู หรือ โรคของหู (Ear disease)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 13 มกราคม 2563
- Tweet
- บทนำ: คือโรคอะไร?พบบ่อยไหม?
- หูเป็นโรคอะไรได้บ้าง?มีสาเหตุจากอะไร?
- อะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคหู?
- โรคหูมีอาการอย่างไร?
- ควรพบแพทย์เมื่อไร?
- แพทย์วินิจฉัยโรคหูได้อย่างไร?
- มีแนวทางรักษาโรคหูอย่างไร?
- โรคหูรุนแรงไหม?
- ดูแลตนเองอย่างไร? พบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไหร่?
- มีการตรวจคัดกรองโรคหูไหม?
- ป้องกันโรคหูได้อย่างไร?
- บรรณานุกรม
- หู: กายวิภาคหู (Ear anatomy) / สรีรวิทยาของหู (Ear physiology)
- สิ่งแปลกปลอมในช่องหู (Foreign body in the ear canal)
- มะเร็งหู (Ear cancer)
- ยาหยอดหู (Ear drops)
- การดูแลรักษาสุขอนามัยของหู การดูแลหู (Ear care)
- หูอื้อ อาการหูอื้อ มีเสียงในหู (Tinnitus)
- หูติดเชื้อ (Ear infection)
- หูอื้อจากโดยสารเครื่องบิน หูอื้อจากเปลี่ยนความดันอากาศ (Barotitis)
- โรคหินปูนในหู โรคตะกอนหินปูนหูชั้นในหลุด (Benign Paroxysmal Positional Verti go: BPPV)
- ไข้หูดับ โรคติดเชื้อสเตรปโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus suis)
- ภาวะเร่งด่วนทางหู (Ear emergencies)
- แก้วหูทะลุ (Ruptured eardrum)
บทนำ: คือโรคอะไร?พบบ่อยไหม?
โรคหู หรือ โรคของหู(Ear disease)คือ โรค/ภาวะผิดปกติที่เกิดกับเซลล์/เนื้อเยื่อหูซึ่งจะส่งให้หูทำงานลดลงหรือผิดปติ ซึ่งอาการจากโรคหูจะส่งผลให้การได้ยินลดลง โดยอาจเกิด เฉียบพลันชั่วคราว หรือ เกิดเรื้อรังต่อเนื่อง ทั้งสองกรณีสามารถนำไปสู่หูหนวกถาวรได้ นอกจากนั้นคือ ร่างกายสูญเสียการทรงตัวที่อาการหลักคือ บ้านหมุน, เดินเซ
อนึ่ง:
- ชื่อภาษาอังกฤษอื่นๆของโรคหู คือ Ear disorder, Ear problem
โรคหู/โรคของหู พบบ่อย แต่ไม่มีรายงานอัตราเกิดในภาพรวมที่แน่นอน เพราะมักรายงานแยกเป็นอัตราเกิดเฉพาะของแต่ละโรคย่อยๆ โรคหู พบทั่วโลก ทุกเชื้อชาติ ทุกวัยตั้งแต่ทารกแรกเกิด ไปจนถึงผู้สูงอายุ และพบใกล้เคียงกันทั้งในเพศหญิงและเพศชาย พบเกิดได้ทั้ง 2 หู คือทั้งซ้ายและขวา หรือเกิดเพียงหูข้างเดียว (ซ้ายและขวา มีโอกาสเกิดได้ใกล้เคียงกัน)โดยขึ้นกับสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหูชนิดนั้นๆ
หู (Ear) เป็นอวัยวะสำคัญอวัยวะหนึ่ง เป็นอวัยวะที่ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีหน้าที่หลัก คือ เพื่อการได้ยิน, การทรงตัวของร่างกาย, และในปัจจุบันหู/ใบหูยังเป็นอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับความสวยงามของใบหน้า และยังเป็นอวัยวะที่ช่วยระบุตัวตนของเราได้
หู แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
- หูชั้นนอก: ประกอบด้วย ใบหู, ท่อรูหู, และแก้วหู ซึ่งหน้าที่หลักของหูชั้นนอก คือ เป็นตัวนำพาเสียงให้เข้าสู่หูชั้นกลาง
- หูชั้นกลาง: ประกอบด้วย เนื้อเยื่อแก้วหูด้านใน, ห้องที่อยู่ระหว่างหูชั้นนอกและหูชั้นในซึ่งเป็นที่อยู่ของกระดูกหูชิ้นเล็กๆ3ชิ้น เนื้อเยื่อหูชั้นกลางที่รวมถึงกระดูกหูมีหน้าที่ขยายเสียงที่ส่งผ่านมาจากหูชั้นนอก และนำส่งเสี่ยงที่ขยายแล้วนี้เข้าสู่หูชั้นใน เข้าสู่ประสาทหู
- หูชั้นใน: เป็นที่อยู่ของเส้นประสาทหู(เส้นประสาทสมองคู่ที่8) ซึ่งมีหน้าที่นำส่งสัญญาณจากหูเข้าสู่การแปลผลและการสั่งการทำงานในสมอง โดย
- นำส่งสัญญาณเสียงผ่านทางเส้นประสาทหูเข้าสู่สมองส่วนที่เรียกว่า สมองกลีบขมับ
- นำส่งสัญญาณเกี่ยวกับการทรงตัวของร่างกายผ่านเส้นประสาทหูเข้าสู่สมองส่วนที่เรียกว่า ก้านสมอง
(แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ‘หู กายวิภาคหู’)
หูเป็นโรคอะไรได้บ้าง?มีสาเหตุจากอะไร?
โรคหู/ โรคของหู หรือ ภาวะ/อาการผิดปกติของหู มีได้มากมายหลากหลายโรค ทั้งที่พบได้น้อยมาก, พบได้เรื่อยๆไม่บ่อยมาก, และที่พบบ่อย, ซึ่งในบทความนี้จะกล่าวถึงโรค/ภาวะ/อาการ ที่เป็นที่รู้จักบ่อย เช่น
ก. โรคสาเหตุจากพันธุกรรม: เป็นโรคที่พบได้เรื่อยๆ มักพบอาการได้ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก โดยอาการหลักคือ หูได้ยินลดลง จนถึงขั้นหูหนวก โดยเด็กกลุ่มนี้มักมีประวัติคนในครอบครัวหูหนวก เช่น เด็กหูหนวกแต่กำเนิด
ข. สาเหตุจากสูงอายุ: ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เซลล์ของหูจะเสื่อมลงเช่นเดียวกับเซลล์ของทุกอวัยวะในร่างกาย โดยเฉพาะของหูชั้นกลาง และของ ประสาทหู ที่จะส่งผลให้การได้ยินลดลง จนถึงหูหนวก ซึ่งได้แก่ อาการหูตึงในผู้สูงอายุ
ค. มีสิ่งแปลกปลอมในหู : เป็นภาวะที่มักพบในเด็กเล็ก หรือในคนที่ชอบเอาสิ่งแปลกปลอมใส่เข้าไปในรูหู หรือแมลงเข้าหู ซึ่งเมื่อมีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นควรรีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาล อย่าพยายามเอาสิ่งเหล่านั้นออกเอง เพราะอาจทำให้รูหูบาดเจ็บ หรือแก้วหูทะลุได้ (แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ‘ภาวะเร่งด่วนทางหู’
ง. น้ำเข้าหู: เป็นภาวะพบบ่อย พบทุกอายุ ทุกเพศ ทั่วไป อาการมักหายเองภายใน 24 ชั่วโมงหลังการดูแลตนเอง แต่ถ้าอาการคงอยู่ตั้งแต่ 1-2 วันขึ้นไป หรืออาการเลวลง ควรรีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาล (แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ‘น้ำเข้าหู’)
จ. ขี้หูอุดตัน: เป็นภาวะพบบ่อย พบทุกอายุ พบน้อยในเด็ก แต่พบสูงขึ้นตามอายุที่มากขึ้น ซึ่งไม่มีอาการเฉพาะสำหรับภาวะนี้ อาการจะเหมือนกับโรคหูทั่วไป คือ หูอื้อ, รู้สึกแน่นในหู, มีเสียงในหู, และหูได้ยินเสียงลดลง, ซึ่งเมื่อมีอาการดังกล่าวควรรีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาล อย่ารักษาตนเอง หรืออย่าใช้การแคะหู เพราะอาจส่งผลให้หูติดเชื้อ และ/หรือแก้วหูทะลุได้ (แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ‘ขี้หูอุดตัน’
ฉ. โรคติดเชื้อ: หูทั้ง 3 ส่วนสามารถติดเชื้อได้เสมอใน ทุกอายุ ทุกเพศ ซึ่งสามารถเกิดได้ทั้งจาก เชื้อแบคทีเรีย, เชื้อไวรัส , โรคเชื้อรา แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง
- หูติดเชื้อ
- โรคหัด
- โรคหัดเยอรมัน
- หูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง
- ไข้หูดับ
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
ช. โรคผิวหนัง: หูชั้นนอก เป็นเนื้อเยื่อในกลุ่มเดียวกับผิวหนัง ดังนั้นโรคของหูชั้นนอกจึงเกิดได้เช่นเดียวกับโรคผิวหนัง เช่น สิว, ตุ่มหนอง, แผลติดเชื้อ, อุบัติเหตุที่ทำให้ใบหูฉีกขาด, รวมถึงมะเร็งผิวหนัง (แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ‘โรคผิวหนัง’)
ซ. แก้วหูทะลุ: เป็นภาวะพบได้เรื่อยๆ ในอดีตมักเกิดจากหูติดเชื้อเรื้อรัง แต่ปัจจุบันสาเหตุจากติดเชื้อพบลดลง เพราะการสาธารณสุขที่ดีขึ้น ผู้ป่วยมาพบแพทย์เร็วขึ้น สาเหตุอื่นจึงพบบ่อยขึ้น เช่น จากการแคะหู, จากอุบัติเหตุต่อหู, เป็นต้น (แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ‘แก้วหูทะลุ’
ฌ. อุบัติเหตุต่อหู: เป็นสิ่งที่พบได้เรื่อยๆในทุกอายุ ทุกเพศ จากการที่หูได้รับบาดเจ็บ หรือถูกกระแทกอย่างรุนแรง เช่น อุบัติเหตุรถยนต์ การทะเลาะวิวาท การตกจากที่สูง และรวมถึงการได้ยินเสียงดังต่อเนื่อง เช่น ใช้หูฟัง, การงาน/อาชีพ, เสียงระเบิด
ญ. โรคเมนิแยร์(Meniere’s disease): เป็นโรคยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด พบได้เรื่อยๆ เป็นโรคของผู้ใหญ่ ผู้หญิงพบบ่อยกว่าผู้ชาย อาการสำคัญคือ วิงเวียน/ บ้านหมุนเรื้อรัง แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ‘โรคเมนิแยร์’
ฎ. หินปูนในหู: เป็นโรคพบได้เรื่อยๆ ทุกเพศ ทุกวัย แต่มักพบในผู้ใหญ่ อาการหลักคือ วิงเวียน บ้านหมุนเรื้อรัง แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ‘หินปูนในหู โรคตะกอนหินปูนหูชั้นในหลุด’
ฏ. หูอื้อจากโดยสารเครื่องบิน: เป็นภาวะที่พบบ่อยในการโดยสารเครื่องบิน พบได้ทุกอายุ และทุกเพศ ทั่วไปอาการมักดีขึ้นใน 24 ชั่วโมง แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้น หรืออาการเลวลง ควรต้องรีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาล (แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ‘หูอื้อจากโดยสารเครื่องบิน’
ฐ. เนื้องอกเส้นประสาทหู: เป็นโรคพบน้อย เป็นโรคของผู้ใหญ่ มักเกิดกับหูข้างเดียว แต่ก็พบเกิดทั้ง2ข้างได้ ซึ่งไม่มีอาการเฉพาะเช่นกัน แต่เป็นอาการเช่นเดียวกับโรค/ภาวะผิดปกติต่างๆของหู เช่น หูได้ยินลดลง, หูอื้อต่อเนื่องหรือเป็นๆหายๆ (แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ‘เนื้องอกเส้นประสาทหู’
ฑ. มะเร็งหู: เป็นโรคพบน้อยมาก มักพบเกิดที่หูชั้นนอก เป็นโรคของผู้ใหญ่ พบในทุกเพศ แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ‘มะเร็งหู’
ฒ. ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด ซึ่งอาจทำให้หูตึงชั่วคราว หรืออาจถาวรได้ เช่น
- ยาปฏิชีวนะบางชนิด เช่นยา Streptomycin, Gentamycin
- ยาต้านมาลาเรียบางชนิด เช่นยา Chloroquine, Quinine
- ยาเคมีบำบัดบางชนิด เช่นยา Cisplatin
- ยา Aspirin ในขนาดยาสูงๆ
- ยาขับปัสสาวะบางชนิด เช่นยาในกลุ่ม Thiazide
- ยาในกลุ่ม NSAIDs เช่นยา Naproxin, Ibruprofen
- ยารักษาโรคนกขาไม่ขัน เช่นยา Viagra (Sildenafil), PDE5 inhibitor
อะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคหู?
ปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคหู/ โรคของหู ขึ้นกับสาเหตุ บางสาเหตุก็มีปัจจัยเสี่ยง บางสาเหตุไม่พบมีปัจจัยเสี่ยง ทั่วไป ปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคหู เช่น
- พันธุกรรม: เพราะพบคนที่มีครอบครัวเป็นโรคหูบางชนิด โดยเฉพาะหูตึงแต่กำเนิด มักมีคนในครอบครัวมีหูหนวกแต่กำเนิดมาก่อน
- อายุ: โรคหูหลายโรคพบเกิดจากความเสื่อมของเซลล์ตามอายุ เช่น หูตึงในผู้สูงอายุ, โรคเนื้องอกประสาทหูก็เป็นโรคพบในวัยผู้ใหญ่ เป็นต้น
- การติดเชื้อ: เช่น
- ถ้าขณะตั้งครรภ์ มารดาติดเชื้อหัดเยอรมัน ทารกในครรภ์มักมีโรคแต่กำเนิดของหูที่รวมถึงหูตึง
- หูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง/ หูน้ำหนวก
- โรคประจำตัวเรื้อรังที่ส่งผลให้หลอดเลือดอักเสบตีบแคบที่รวมถึงหลอดเลือดของหู เซลล์/เนื้อเยื่อหูจึงขาดเลือดเรื้อรัง: เช่น โรคเบาหวาน, โรคไขมันในเลือดสูง, โรคหลอดเลือดแดงแข็ง, โรคความดันโลหิตสูง
ปัจจัยเสี่ยงเกิดหูตึง :
หูตึง เป็นภาวะพบบ่อย ส่วนใหญ่มีสาเหตุที่ป้องกันหรือชะลอการเกิดให้ช้าลงได้ด้วยการดูแลตนเอง/ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่ทำให้หูตึงก่อนวัยอันควร ซึ่งปัจจัยเสี่ยงของหูตึงที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงพบบ่อยได้แก่
- ภาวะขาดสารอาหาร: เซลล์หู จะเช่นเดียวกับเซลล์ทุกชนิดของร่างกาย ที่ต้องการสารอาหารที่ครบถ้วน ดังนั้น การปรับพฤติกรรมการบริโภคจึงช่วยชะลอหูตึงตามวัยได้ โดย
- กินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ให้ครบถ้วนในทุกมื้ออาหาร หรือย่อย่างน้อยในทุกวัน
- ไม่สูบบุหรี่ เลิกบุหรี่ถ้ากำลังสูบอยู่ เพราะควันพิษของบุหรี่ส่งผลให้เกิดหลอดเลือดแดงแข็ง/อักเสบ ตีบที่รวมถึงหลอดเลือดหู เซลล์หูจึงเสื่อมได้เร็วขึ้นจากขาดเลือด
- ไม่ดื่มสุรา เลิกสุราถ้ากำลังดื่มอยู่ เพราะสุราเป็นสาเหตุสำคัญของ ภาวะขาดสารอาหาร และโรคตับแข็ง ที่ส่งผลถึงสุขภาพโดยรวมของทุกอวัยวะที่รวมถึงหู
- การได้รับเสียงดังอย่างต่อเนื่อง: เช่น การเปิดฟังเพลง, การใช้หูฟังเพลง, และถ้างานอาชีพที่ต้องอยู่กับเสียงดังต่อเนื่อง ซึ่งการป้องกันประสาทหูเสื่อมจากสาเหตุนี้ คือ ปรับเสียงต่างๆให้เบาและใช้หูฟังเท่าที่จำเป็นจริงๆ และต้องใส่เครื่องป้องกันหูขณะทำงานเสมอเมื่อเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับเสียงประเภทต่างๆ
- การติดเชื้อหัดเยอรมันของทารกในครรภ์: ซึ่งป้องกันได้โดย มารดาฉีดวัคซีนหัดเยอรมันตั้งแต่เมื่อเตรียมตัวจะตั้งครรภ์
- หูน้ำหนวกที่เกิดจากหูชั้นกลางติดเชื้อแบคทีเรีย: ซึ่งป้องกันได้โดย ไม่ใช้ไม้แคะหู และเมื่อมีอาการผิดปกติทางหู และอาการเลวลง หรืออาการไม่ดีขึ้นใน 2-3 วันควรรีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาล
- ประสาทหูเสื่อมเร็วที่เกิดจากเซลล์ประสาทหูเสื่อมจากขาดเลือดเรื้อรัง สืบเนื่องจากโรคหลอดเลือดตีบแคบที่มีสาเหตุจากกลุ่มโรคเอนซีดี/NCD (แนะนำอ่านรายละเอียดของแต่ละโรคที่รวมถึงวิธีป้องกันได้จากเว็บ haamor.com) ได้แก่
- โรคเบาหวาน
- โรคไขมันในเลือดสูง
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคหลอดเลือดแดงแข็ง
โรคหูมีอาการอย่างไร?
อาการพบบ่อยของโรคหู/ โรคของหู(ไม่จำเป็นต้องมีครบทุกอาการ) อาจเกิดเพียงหูข้างเดียว หรือทั้ง2 ข้างของหู ได้แก่
- ปวดหู
- หูอื้อ
- การได้ยินลดลง หรือไม่ได้ยินเลย(หูดับ) ซึ่งอาจเกิดหูดับเฉียบพลัน หรือการได้ยินค่อยๆลดลงเรื่อยๆ
- อาการของโรคผิวหนังที่เกิดกับหูชั้นนอก เช่น ผื่น ตุ่มคัน สิว แผลที่อาจมีหนองหรือไม่ก็ได้
- อาการจากหูติดเชื้อ เช่น หู/บริเวณหู บวม แดง ร้อน เจ็บ มีไข้ มีสารคัดหลั่งจากหู เช่น สารน้ำ หนอง เลือด
- อาการ วิงเวียนศีรษะ/ บ้านหมุน กรณีมีโรคเกิดกับหูชั้นใน
- อาจมีต่อมน้ำเหลืองลำคอ โต คลำได้ อาจเจ็บหรือไม่ก็ได้ พบในกรณี หูอักเสบติดเชื้อ หรือ มะเร็งหูระยะลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลือง
- อาจมีก้อนเนื้อผิดปกติที่หู กรณีเป็นเนื้องอก หรือ มะเร็ง
ควรพบแพทย์เมื่อไร?
เมื่อมีอาการทางหูที่ผิดปกติ เช่นที่กล่าวใน ‘หัวข้อ อาการฯ’ และอาการไม่ดีขึ้นใน 2-3วันหลังดูแลตนเอง หรืออาการเลวลง ควรรีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเสมอ
แพทย์วินิจฉัยโรคหูได้อย่างไร?
แพทย์วินิจฉัยโรคหู/ โรคของหูได้จาก
- การซักถามประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย ที่สำคัญเช่น อาการ การตั้งครรภ์/การฝากครรภ์(ในสตรี) ประวัติโรคต่างๆในครอบครัว โรคประจำตัว การฉีดวัคซีน การใช้ยาต่างๆ
- การตรวจร่างกาย ที่รวมถึงการตรวจวัดสัญญาณชีพ
- การตรวจหูที่รวมถึงการตรวจดูในช่องหูด้วยเครื่องมือเฉพาะทาง
- อาจมีการตรวจอื่นๆเพื่อการสืบค้นเพิ่มเติมตาม อาการผู้ป่วย, ชนิดโรคที่แพทย์สงสัยเป็นสาเหตุ, และดุลพินิจของแพทย์ เช่น
- ตรวจเลือด เพื่อดูค่าต่างๆ เช่น CBC, สารภูมิต้านทาน, สารก่อภูมิต้านทาน, ค่าน้ำตาลในเลือด, ไขมันในเลือด, ค่าการทำงาน ของตับ ของไต
- ปัสสสวะ:การตรวจปัสสาวะ
- การเอกซเรย์ ภาพหู
- การตรวจภาพหูด้วย เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (ซีทีสแกน) และ/หรือเอมอาร์ไอ เพื่อดูพยาธิสภาพอย่างละเอียดของหู
- การตรวจเชื่อ, การเพาะเชื้อ จากสารคัดหลั่งจากหู เช่น สารน้ำ, หนอง
- การเจาะดูดเซลล์จากรอยโรคที่หู และ/หรือต่อมน้ำเหลือง เพื่อการตรวจทางเซลล์วิทยา
- การตัดชิ้นเนื้อจากรอยโรคที่หู หรือจากต่อมน้ำเหลืองลำคอ เพื่อการวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา
- การตรวจเทคนิคเฉพาะทางหูกรณีผู้ป่วยมีปัญหาทางการได้ยิน
มีแนวทางรักษาโรคหูอย่างไร?
แนวทางการรักษาโรคหู/ โรคของหู คือ การรักษาสาเหตุ, การชะลอเซลล์หูเสื่อม , และการรักษาประคับประคองตามอาการ/ การรักษาตามอาการ
ก. การรักษาสาเหตุ: ซึ่งจะต่างกันแต่ละผู้ป่วยตามแต่ละสาเหตุ เช่น
- การให้ยาปฏิชีวนะ กรณีสาเหตุเกิดจากหูติดเชื้อแบคทีเรีย
- การลดขนาดยา หรือ การปรับเปลี่ยนยานั้นๆ กรณีสาเหตุเกิดจากผลข้างเคียงของยา
- การรักษาอาการวิงเวียนศีรษะด้วยการใช้ยา กรณีเกิดอาการ วิงเวียศีรษะ/บ้านหมุน
- การผ่าตัด, การฉายรังสีรักษา, และ/หรือ ยาเคมีบำบัด กรณีสาเหตุคือ มะเร็งหู
อนึ่ง แนะนำอ่านเพิ่มเติมรายละเอียดของโรคต่างๆที่เป็นสาเหตุที่รวมถึงการรักษาและการพยากรณ์โรคได้จากเว็บ haamor.com
ข. การชะลอการเสื่อมของเซลล์ต่างๆของหู: ซึ่งได้แก่
- การกินอาหารมีประโยชนฺห้าหมู่ให้ครบถ้วนในทุกมื้ออาหาร หรืออย่างน้อยในทุกๆวัน
- เลิกบุหรี่ ไม่สูบบุหรี่
- เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์/สุรา ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์/สุรา
- ป้องกัน รักษา ควบคุมโรคใน กลุ่มโรคเอนซีดี/NCD ที่มีผลให้เกิดโรคหลอดเลือดให้ได้ดี ที่สำคัญคือ
- โรคเบาหวาน
- โรคไขมันในเลือดสูง
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคหลอดเลือดแดงแข็ง
- หลีกเลี่ยงการใช้หูฟังในการฟังเพลง การฟังเพลงเสียงดัง และรู้จักการใช้อุปกรณ์ป้องกันหูเมื่อมีอาชีพเกี่ยวข้องกับการใช้เสียงดัง
- รู้จักการดูแลรักษาสุขภาพหู (แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ‘การดูแลรักษาสุขอนามัยของหู (Ear care)’
ค. การรักษาตามอาการ: เช่น
- ยาแก้ปวด กรณีปวดหู
- ยาลดไข้ กรณีมีไข้
- ยาแก้อาการวิงเวียนศีรษะ
- ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน
โรคหูรุนแรงไหม?
ความรุนแรง/การพยากรณ์โรคของโรคหู/โรคของหู ขึ้นกับ สาเหตุและการพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆก่อนที่จะเกิดหูดับถาวร อย่างไรก็ตาม ทั่วไป โรคหู เป็นโรคที่มีการพยากรณ์โรคที่ดี แพทย์มักรักษาควบคุมได้ ไม่เป็นเหตุให้ตาย ยกเว้นมะเร็งหู แต่อย่างไรก็ตาม การได้ยินมักไม่กลับคืนเป็นปกติ และยังอาจสูญเสียการได้ยิน/หูหนวกอย่างถาวร
ดูแลตนเองอย่างไร? พบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไหร่?
การดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคหู/ โรคของหู ที่สำคัญ ได้แก่
- ปฏิบัติตาม แพทย์ พยาบาล แนะนำ
- กินยา/ใช้ยาที่แพทย์สั่งให้ถูกต้อง ไม่หยุดยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน
- รู้จักดูแลสุขภาพหูเพื่อชะลอการเสื่อมของเซลล์หู ดังได้กล่าวใน ‘ข้อข. ของหัวข้อ การรักษาฯ’
- พบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดเสมอ
- พบแพทย์/มาโรงพยาบาลก่อนแพทย์นัดเมื่อ
- อาการต่างๆเลวลง หรือเกิดมีอาการใหม่ๆที่ไม่เคยมีมาก่อน
- มีผลข้างเคียงจากยาที่แพทย์สั่งจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ขึ้นผื่น วิงเวียนศีรษะมากขึ้นต่อเนื่อง คลื่นไส้-อาเจียนต่อเนื่อง
- กังวลในอาการ
มีการตรวจคัดกรองโรคหูไหม?
ปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีตรวจให้พบโรคหู/ โรคของหูตั้งแต่ยังไม่มีอาการ ดังนั้นเมื่อมีอาการทางหู และอาการไม่ดีขึ้นภายใน2-3วันหลังดูแลตนเอง หรือเมื่ออาการเลวลง ควรรีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาล
ป้องกันโรคหูได้อย่างไร?
การป้องกันโรคหู/ โรคของหูให้เต็มร้อยเป็นไปไม่ได้ เพราะบางสาเหตุป้องกันไม่ได้/ป้องกันยาก เช่น สาเหตุจากพันธุกรรม แต่ส่วนใหญ่สามารถป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคหูโดยเฉพาะภาวะหูตึงได้ด้วย
- การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง(ที่หลีกเลี่ยงได้)ดังกล่าวใน’หัวข้อ ปัจจัยเสี่ยงฯ’
- รู้จักการดูแลตนเองเพื่อชะลอการเสื่อมของเซลล์หูก่อนวัยอันควร รวมถึงเพื่อป้องกันหูติดเชื้อ แนะนำอ่านเพิ่มเติมใน
- บทความนี้ ‘ข้อ ข. ของหัวข้อ การรักษาฯ’
- และบทความเรื่อง ‘การดูแลรักษาสุขอนามัยของหู’ ในเว็บ haamor.com
บรรณานุกรม
- https://medlineplus.gov/eardisorders.html [2020,Jan11]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Ear [2020,Jan11]
- https://northhillsent.com/risk-factors [2020,Jan11]