โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ (Prostaglandin inhibitors)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 6 สิงหาคม 2565
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ: คือยาอะไร?
- โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์มีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
- โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์มีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์อย่างไร?
- โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์อย่างไร?
- โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์มีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- การชักนำให้เจ็บครรภ์คลอด (Labor induction)
- คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids)
- คอก-ทู อินฮิบิเตอร์ (Cox-2 inhibitor) หรือ ไซโคลออกซิจิเนส-2 อินฮิบิเตอร์ (Cyclooxygenase-2 inhibitor)
- ซาลิไซเลต (Salicylate)
- ข้ออักเสบ (Arthritis)
- เกาต์ (Gout)
บทนำ: คือยาอะไร?
โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ (Prostaglandin inhibitor,หรือ โพรสตาแกลนดิน แอนตาโกนิสต์/Prostaglandin antagonist) คือ กลุ่มยาที่นำมาใช้ได้หลากหลายวัตถุประสงค์ เช่น ยาแก้ปวด, ยาแก้อักเสบชนิดไม่ได้เกิดจากติดเชื้อ (อ่านเพิ่มเติมใน’หัวข้อ สรรพคุณรักษาโรคอะไร’) โดยตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของสารโพรสตาแกลนดิน(แต่ละชนิดย่อย)ซึ่งมีความสัมพันธ์และสอดคล้องกับตัวยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์นั่นเอง
โพรสตาแกลนดิน:
โพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) คือ สารประกอบประเภทไขมันที่มีโครงสร้างเหมือนฮอร์โมน ซึ่งสารนี้มีอยู่ตามเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย หน้าที่ของโพรสตาแกลนดินมีหลากหลาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดย่อยของโพรสตาแกลนดินเอง เช่น
- ทำให้หลอดเลือดหดหรือขยายตัว
- ทำให้มีการรวมตัวของเกล็ดเลือดเพิ่มขึ้นหรือไม่ก็ลดลง
- กระตุ้นเส้นประสาทบริเวณไขสันหลังในด้านรับรู้ความเจ็บปวด
- เร่งการคลอด(อ่านเพิ่มเติมในเว็บ com บทความเรื่อง การชักนำให้เจ็บครรภ์คลอด)
- ลดแรงดันภายในลูกตา(อ่านเพิ่มเติมในเว็บ com บทความเรื่อง ความดันตาสูง)
- ควบคุมกลไกการอักเสบของเนื้อเยื่อต่างๆ
- ควบคุมการเคลื่อนย้าย เกลือแคลเซียม ปริมาณฮอร์โมนต่างๆในเลือด รวมถึงเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกาย
- ออกฤทธิ์ต่อสมองส่วนไฮโปธาลามัส (Hypothalamus) ส่งผลทำให้เกิดอาการไข้
- ออกฤทธิ์ต่อกล้ามเนื้อเรียบในหน่วยไต ส่งผลให้เพิ่มอัตราการกรองของเสียออกจากเลือดที่ผ่านไต
- ยับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
ทั้งนี้ อนุพันธ์หรือชนิดย่อยของโพรสตาแกลนดิน แบ่งออกเป็น 2กลุ่ม คือ Prostacyclins (หน้าที่ส่วนใหญ่จะต้านการทำงานของเกล็ดเลือด และช่วยทำให้หลอดเลือดขยายตัว), และThromboxanes(หน้าที่ส่วนใหญ่คือ ทำให้เกล็ดเลือดจับรวมตัวกัน เกิดเป็นลิ่มเลือด และช่วยทำให้หลอดเลือดหดตัว), ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดย่อยจะทำหน้าที่ตรงกันข้ามกัน เพื่อสร้างสมดุลของกระบวนการทางเคมีต่างๆภายในร่างกาย
ทั่วไป อาจจำแนกยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ เป็นกลุ่มย่อย ได้ดังนี้
ก. เอ็นเสด/NSAIDs (Non steroidal anti inflammatory drugs): เป็นกลุ่มยาที่ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่มีชื่อว่า ไซโคลออกซิจิเนส (Cyclooxygenase) ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญที่ใช้สังเคราะห์สารโพรสตาแกลนดินทั้งชนิด Thromboxane และ Prostacyclins ผลที่ตามมาคือ ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของร่างกาย ตัวยาในกลุ่ม NSAIDs ยังถูกแบ่งออกเป็นหมวด/กลุ่มย่อย คือ กลุ่ม
- Cyclooxygenase-2 inhibitor ย่อว่า คอกทูอินฮิบิเตอร์/COX-2 inhibitor
- Acetic acid
- Fenamates
- อนุพันธ์ของออกซิแคม (Oxicam derivatives)
- Propionic acid และ
- ซาลิไซเลต/Salicylates
ข. คอร์ติโคสเตียรอยด์(Corticosteroids): เป็นยากลุ่มสเตียรอยด์ที่ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ชื่อว่า Phospholipase A2 ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ควบคุมการเกิดของสารที่กระตุ้นให้มีการอักเสบอย่างเช่น Prostaglandins และ Leukotrienes ตลอดจน Cyclooxygenase และ Lipoxygenase
ยาในกลุ่ม Corticosteroids ยังถูกแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ย่อยลงไปอีกได้หลากหลายที่มีโครงสร้างโมเลกุลและการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันออกไป มักนำมาใช้รักษาอาการแพ้ต่างๆของร่างกาย เช่น โรคหืด อาการแพ้ทางผิวหนัง อาการอักเสบของข้อกระดูก/ข้ออักเสบ การอักเสบของระบบทางเดินอาหาร บำบัดอาการบวมของอวัยวะต่างๆในร่างกาย
ค. Cyclopentenone prostaglandin: เป็นสารประกอบที่สามารถยับยั้งการทำงานของสารพันธุกรรมในเม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์ (T cell) ซึ่งจะทำงานในบริเวณเนื้อเยื่อของร่างกายที่มีการอักเสบเกิดขึ้น ทางคลินิกมักนำ Cyclopentenone prostaglandin มาบำบัด โรคภูมิต้านทานตนเอง/โรคออโตอิมมูน (Autoimmune disease) อย่างเช่น ภาวะผมร่วงของบุรุษ นอกจากจะใช้เป็นยาต่อต้านการอักเสบแล้ว ยังกำลังถูกพัฒนาเป็นยาต่อต้านโรคมะเร็งบางชนิดอีกด้วย เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่
ยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ ยังมีผลข้างเคียงที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละชนิดย่อย/กลุ่มย่อย เช่น ทำให้เกิดอาการระคายเคืองกระเพาะอาหาร แต่บางกลุ่มก็ทำให้เกิดการระคายเคืองน้อย หรือส่งผลต่อการทำงานของหัวใจ ต่อความดันโลหิต ต่อสภาพจิตใจ และต่อการทำงานของไต ซึ่งอาการข้างเคียงต่างๆเหล่านั้นจะขึ้นกับตัวยาของแต่ละกลุ่มย่อยของยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์แต่ละชนิดย่อยนั่นเอง
ในท้องตลาด อาจพบยาต่างๆของกลุ่มโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ ได้มากมายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นยาชนิดรับประทาน ยาฉีด ยาพ่นสเปรย์ ยาหยอดตา หรือ ยาทาเฉพาะที่ จึงอาจกล่าวได้ว่ายาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ เป็นยากลุ่มใหญ่ และมีจำนวนตัวยาย่อยหลากหลายรายการ มีการออกฤทธิ์และระยะเวลาของการใช้ยาแต่ละชนิดย่อยๆเหล่านี้ที่แตกต่างกัน ยาบางกลุ่ม อย่างเช่น Corticosteroid จะถูกจัดเป็นยาควบคุมพิเศษเสียเป็นส่วนมากที่การใช้ต้องมีใบสั่งจากแพทย์มากำกับ
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคต่อการเลือกใช้ยาใดๆ ในกลุ่มโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ ควรต้องขอคำปรึกษาจากแพทย์ หรือจากเภสัชกร ก่อนเลือกใช้ยาเสมอ
โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์มีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?
ยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์มีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้: เช่น
- รักษาอาการปวดจาก โรคข้ออักเสบ โรคข้อรูมาตอย โรคเกาต์
- รักษาอาการปวด หลังผ่าตัด
- รักษาอาการปวดประจำเดือน
- รักษาอาการอักเสบ และอาการแพ้ของผิวหนัง
- บรรเทาอาการ โรคหืด และอาการแพ้ของระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคภูมิแพ้
- บรรเทาและรักษาอาการอักเสบของระบบขับถ่ายอุจจาระ เช่น บริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย
- รักษาและป้องกันภาวะเกลือโซเดียมในเลือดสูงมากผิดปกติ (Hypernatremia)
- รักษาอาการบวมของบางอวัยวะของร่างกาย เช่น สมอง
โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ คือ ตัวยาจะยับยั้งการสังเคราะห์สารโพรสตาแกลนดินชนิดต่างๆ ซึ่งขึ้นกับธรรมชาติของรายการยาย่อยแต่ละรายการยา ทำให้กระบวนการอักเสบภายในร่างกายถูกปิดกั้น, นอกจากนี้ตัวยาหลายรายการ จะยังยับยั้งการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์ (T cell) ส่งผลไม่ให้เกิดการทำลายเซลล์ของร่างกาย, และช่วยสนับสนุนบรรเทาอาการอักเสบ, จากกลไกโดยย่อดังกล่าว ส่งผลให้ยากลุ่มโพรสตาแกลนดินอินฮิบิเตอร์มีฤทธิ์การรักษาตามสรรพคุณ
โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์มีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- ยารับประทานชนิด ยาเม็ด ยาแคปซูล และยาน้ำ
- ยาฉีด
- ยาพ่นจมูก
- ยาพ่นปาก
- ยาหยอดตา
- ยาทาเฉพาะที่
โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์มีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
ขนาดการใช้/การบริหารยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ จะขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ โดยต้องนำข้อมูลประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วยมาประกอบ เพื่อการสั่งจ่ายนี้ให้ตรงตามอาการและมีความปลอดภัยมากที่สุดต่อผู้ป่วย ซึ่งผู้บริโภค/ผู้ป่วยสามารถสืบค้นข้อมูลรายละเอียดของการใช้ยา ข้อควรระวัง ข้อห้ามใช้ ได้จากเอกสารกำกับยา/ ฉลากยา ที่แนบมากับผลิตภัณฑ์ยา
เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึงยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย
- มีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหืด รวมถึงกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภท สามารถผ่านทางน้ำนม หรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
กรณีที่ลืมรับประทานยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2เท่า
แต่อย่างไรก็ดี การลืมรับประทานยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ อาจทำให้อาการของโรคกำเริบ หรือไม่ก็อาจเกิดภาวะถอนยา/ลงแดงตามมา ดังนั้นเพื่อประสิทธิผลของการรักษา ควรรับประทานยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ ตรงตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด
โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ สามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย เช่น
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น รู้สึกไม่สบายภายในท้อง เกิดแผลในกระเพาะอาหาร และในลำไส้ เลือดออกในระบบทางเดินอาหาร การรับรสชาติอาหารเปลี่ยนไป ปวดท้อง ท้องเสีย ท้องอืด ปากคอแห้ง ปากเป็นแผล คลื่นไส้อาเจียน
- ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น ความดันโลหิตสูง ภาวะหัวใจล้มเหลว ตัวบวม เจ็บหน้าอก
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น ปวดหัว วิงเวียน ง่วงนอน มีไข้ กระตุ้นให้เกิดการชัก
- ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น สับสน ซึมเศร้า นอนไม่หลับ
- ผลต่อไต: เช่น เป็นพิษกับไต/ไตอักเสบ
- ผลต่อระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรค: เช่น กดภูมิคุ้มกันฯของร่างกาย (เช่น ติดเชื้อได้ง่าย) มีไข้คล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่
- ผลต่อกล้ามเนื้อและกระดูก: เช่น เกิดภาวะของกระดูกบางลง/โรคกระดูกพรุน กระดูกบาง ปวดหลัง
- ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น เจ็บคอ /คออักเสบ คัดจมูก
- ผลต่อตา: เช่น สามารถกระตุ้นให้เกิด ต้อกระจก ต้อหิน
มีข้อควรระวังการใช้โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์อย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก(นิยามคำว่าเด็ก) และผู้สูงอายุ โดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีโรคลำไส้อักเสบ หรือมีแผลในกระเพาะอาหาร
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีภาวะโรคหัวใจล้มเหลวขั้นรุนแรง ผู้ป่วยที่มีอัมพาต:โรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยโรคตับระยะรุนแรง
- ห้ามปรับขนาดรับประทาน โดยไม่ได้ขอคำปรึกษาจากแพทย์
- หลีกเลี่ยงการใช้ COX-2 inhibitor ในผู้ที่มีประวัติแพ้ยา Sulfonamides
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่าย
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยด้วยโรคต่อมไทรอยด์ ทั้งชนิด ไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ/ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน และโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ/ ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน รวมถึงผู้ป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอมจี (Myasthenia gravis, MG)
- ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร และมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามนัดทุกครั้ง
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ "ยา" ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยากลุ่มโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- การรับประทานยา Cyclooxygenase-2 inhibitor ร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด, ยา Corticosteroids, หรือ แอลกอฮอล์ อาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกง่าย หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกัน
- การใช้ยากลุ่ม Corticosteroids ร่วมกับยาเบาหวาน สามารถทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ หากจำเป็นต้องใช้ร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานเป็นรายบุคคลไป
- การใช้ยากลุ่ม Salicylates ร่วมกับยา Corticosteroids อาจทำให้ความเข้มของ ยากลุ่ม Salicylates ในกระแสเลือดลดต่ำลงจนอาจส่งผลต่อการรักษา หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นกรณีไป
ควรเก็บรักษาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์อย่างไร?
ควรเก็บยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์แต่ละชนิดย่อย: เช่น
- เก็บยาตามคำแนะนำในเอกสารกำกับยา/ฉลากยา
- ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
- เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อนและความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
โพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์มีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาโพรสตาแกลนดิน อินฮิบิเตอร์ มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Arcoxia (อาร์โคเซีย) | MSD |
Celebrex (เซเลเบรค) | Pfizer |
Zobrex (โซเบรค) | MacroPhar |
Cortef (คอร์เทฟ) | Pfizer |
H-Cort (เฮช-คอร์ท) | HOE Pharmaceuticals |
LactiCare-HC (แล็คติแคร์-เฮชซี) | Stiefel |
Solu-Cortef (โซลู-คอร์เทฟ) | Pfizer |
HC 1% (เฮชซี 1%) | Chinta |
Hytisone (ไฮทิโซน) | Atlantic Lab |
Clinipred (คลินิเพรด) | Bangkok Lab & Cosmetic |
Di-Adreson F (ดิ-แอดเดรซัน เอฟ) | MSD |
Fortisone (ฟอร์ติโซน) | The Forty-Two |
Inf-Oph (ไอเอ็นเอฟ-ออฟ) | Seng Thai |
Neosolone-C (นีโอโซโลน-ซี) | Chew Brothers |
Opredsone (โอเพรดโซน) | Greater Pharma |
Polypred(โพลีเพรด) | Pharmasant Lab |
Predcap (เพรดแคพ) | Bangkok Lab & Cosmetic |
Pred-Forte/Pred-Mild(เพรด-ฟอร์ท/ เพรด-มายด์) | Allergan |
Predi K.B. (เพรดิ เค.บี.) | K.B. Pharma |
Predisole (เพรดิโซน) | P P Lab |
Asatab (อะซาแท็บ) | T. O. Chemicals |
Aspent (แอสเพนท์) | Ranbaxy |
Aspent-M (แอสเพนท์-เอ็ม) | Ranbaxy |
Aspilets (แอสไพเลทส์) | Great Eastern |
Aspirin BD (แอสไพริน บีดี) | British Dispensary (L.P.) |
B-Aspirin 81 (บี-แอสไพริน 81) | Osoth Interlab |
Cardiprin 100 (คาร์ดิพริน 100) | Reckitt Benckiser |
Sodium Salicylate A.N.H. (โซเดียม ซาลิไซเลต เอ.เอ็น.เฮช.) | A.N.H. |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Prostaglandin#Inhibition [2022, Aug6]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Prostaglandin_antagonist [2022, Aug6]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Nonsteroidal_anti-inflammatory_drug [2022, Aug6]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Corticosteroid [2022, Aug6]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Cyclopentenone_prostaglandins [2022, Aug6]