สิ่งหลุดอุดหลอดเลือดปอด (Pulmonary embolism)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 9 กรกฎาคม 2565
- Tweet
สารบัญ
- บทนำ: คือโรคอะไร?
- อะไรเป็นสาเหตุของโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด?
- ใครมีปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด?
- อาการของโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอดเป็นอย่างไร?
- เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?
- แพทย์วินิจฉัยโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอดอย่างไร?
- รักษาโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอดอย่างไร?
- การพยากรณ์โรคของโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอดเป็นอย่างไร?
- อะไรเป็นปัจจัยโรครุนแรง?
- ดูแลตนเองอย่างไร?
- เมื่อไหร่ควรพบแพทย์ก่อนนัด?
- ป้องกันโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอดได้อย่างไร?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ (Venous thrombosis)
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด: ยากันเลือดแข็งตัว (Anticoagulants)
- โรคเลือด (Blood Diseases)
- หลอดเลือดดำผิวอักเสบ (Superficial Thrombophlebitis)
- โรคหลอดเลือด โรคเส้นเลือด (Blood vessel disease)
- หลอดเลือดขอด หลอดเลือดขาขอด หลอดเลือดดำขอด (Varicose vein)
- ยาสลายลิ่มเลือด หรือยาละลายลิ่มเลือด (Fibrinolytic drugs or Thrombolytic drugs)
- ยาเฮพาริน (Heparin)
บทนำ: คือโรคอะไร
สิ่งหลุดอุดหลอดเลือดปอด(Pulmonary embolism ย่อว่า พีอี/PE) คือ โรค/ภาวะที่มีสิ่งหลุดอุดหลอดเลือด (เอมโบลิซึม/Embolism) ที่การอุด/การอุดกั้น/การอุดตันนี้เกิดในหลอดเลือดแดงของปอด ทั่วไปผู้ป่วยโรคนี้จะมีอาการเกิดขึ้นทันที ที่สำคัญ ได้แก่ หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย และมักร่วมกับเจ็บหน้าอกโดยเฉพาะขณะหายใจเข้า และ ไอเป็นเลือด/เสมหะเป็นเลือด
โรค/ภาวะสิ่งหลุดอุดหลอดเลือดปอดพบทั่วโลก เป็นโรคของผู้ใหญ่ มักพบในวัยกลางคนขึ้นไป พบสูงในผู้สูงอายุ เพศหญิงและเพศชายพบได้ใกล้เคียงกัน แต่ปัจจุบันยังไม่มีสถิติเกิดภาวะสิ่งหลุดอุดหลอดเลือดปอดของประชากรทั่วโลกด้วยเป็นภาวะที่วินิจฉัยได้อยาก, ในประเทศที่พัฒนาแล้ว สถิติก็จะแตกต่างกันในแต่ละประเทศ มีรายงานการเกิดประมาณ 23-65 รายต่อประชากร 1 แสนคนในสหรัฐอมริกา
อนึ่ง ความหมายจาก พจนานุกรมศัพท์แพทย์ศาสตร์ อังกฤษ-ไทย ไทย-อังกฤษ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2547 ให้ความหมายคำว่า “Embolism ว่า ภาวะสิ่งหลุดอุดหลอดเลือด”, และ “Embolus หมายถึง สิ่งหลุดอุดหลอดเลือด” ซึ่ง Embolus เป็น เอกพจน์ ส่วนพหูพจน์ คือ Emboli ทั้งนี้ คำว่า “Embolus มาจากภาษากรีก แปลว่า ก้อน หรือ อุด”
ทั้งนี้ สิ่งหลุดอุดหลอดเลือดเกือบทั้งหมด เกิดจากลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดโดยเฉพาะจากหลอดเลือดดำต้นขาหรืออุ้งเชิงกราน/ท้องน้อย แต่ก็พบเกิดจากสาเหตุ/สิ่งหลุดชนิดอื่นได้ถึงแม้จะพบได้น้อยมาก เช่น ฟองอากาศ(Air or gas embolism), ไขมัน/ฟองไขมัน(Fat embolism), น้ำคร่ำ/ฟองน้ำคร่ำ/ภาวะน้ำคร่ำอุดหลอดเลือด, ซึ่งอาการผู้ป่วย, การพยากรณ์โรคส่วนใหญ่จะคล้ายกันในทุกสาเหตุ แตกต่างกันที่การรักษาซึ่งจะขึ้นกับแต่ละสาเหตุ/แต่ละชนิดของสิ่งหลุดฯ
*ดังนั้น ในบทความนี้ ขอกล่าวถึงเฉพาะ สิ่งหลุดฯที่เป็น “ลิ่มเลือด” และที่อุด “เฉพาะหลอดเลือดแดงปอด”เท่านั้น
อะไรเป็นสาเหตุของโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด?
สาเหตุสำคัญและพบบ่อยที่สุดเกือบทั้งหมดของ ภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด คือ หลอดเลือดปอดเกิดการอุดกั้น/อุดตันจากลิ่มเลือดที่เกิดในหลอดเลือดดำที่อยู่ในอวัยวะ/เนื้อเยื่อส่วนลึกๆของร่างกายที่เรียกว่า’Deep vein’ (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่องลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ) บ่อยที่สุดจาก หลอดเลือดดำส่วนลึกของต้นขา, หลอดเลือดดำในอุ้งเชิงกราน/ท้องน้อย
เมื่อเกิดมีลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ จากการไหลเวียนเลือดจะทำให้ลิ่มเลือดอาจหลุดเข้ากระแสเลือดและล่องลอยไปกับกระแสเลือด ผ่านเข้าหัวใจห้องขวาบนและล่าง และเข้าสู่หลอดเลือดปอดจากหัวใจห้องล่างขวา(อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง หัวใจ กายวิภาคหัวใจ) ซึ่งถ้าลิ่มเลือดมีขนาดใหญ่ จะส่งผลให้เกิดการอุดตันหลอดเลือดปอดแดงขนาดใหญ่ที่ขั้วปอด, แต่ถ้าลิ่มเลือดมีขนาดเล็ก ก็จะกระจายไปอุดหลอดเลือดแดงขนาดเล็กที่เป็นแขนงเล็กๆของหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ขั้วปอด
โดยถ้ามีการอุดตันของหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ขั้วปอด หรือ มีการอุดตันของหลอดเลือดแดงปอดขนาดเล็กๆแต่ในปริมาณมาก จะส่งผลให้ปอดขาดเลือดทันที ส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดอาการหายใจขัด/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อยทันที จนอาจเป็นสาเหตุ ถึงตายได้
แต่ถ้าการอุดตันหลอดเลือดปอดเกิดเพียงเล็กน้อย ผู้ป่วยจะมีอาการไม่มาก หรือบางรายอาจไม่มีอาการ
ใครมีปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด?
ผู้มีปัจจัยเสี่ยงเกิดลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด คือ ผู้ที่มีโอกาสเกิดลิ่มเลือดได้ง่าย เช่น
- ผู้ที่มีการไหลเวียนเลือดไม่ดี
- มีโรคหรือกินยาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด
- หลอดเลือดมีการอักเสบ/บาดเจ็บ( เช่น จากการผ่าตัด)
ทั้งนี้ ตัวอย่างกลุ่มผู้มีปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด เช่น
- มีประวัติมีลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ โดยเฉพาะจากหลอดเลือดดำต้นขา และ/หรืออุ้งเชิงกราน/ท้องน้อย
- มีประวัติครอบครัวมีโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด
- ผู้ป่วยหลังการผ่าตัดใหญ่ เช่น การผ่าตัดช่องท้อง การผ่าตัดกระดูก การผ่าตัดในอุ้งเชิงกราน
- ผู้ป่วยโรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน
- ผู้ป่วยที่มีกระดูกหัก โดยเฉพาะกระดูกขาหัก หรือ กระดูกสะโพกหัก
- ผู้ป่วยโรคเลือดที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
- ผู้ป่วยมีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดสมอง/อัมพาต และ/หรือ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
- ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยเฉพาะ มะเร็งปอด รองลงมาคือ มะเร็งตับอ่อน
- ผู้สูงอายุ ที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว เพราะจะทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี จึงเกิดลิ่มเลือดง่าย
- ผลข้างเคียงจากยาบางชนิดที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดได้ง่าย เช่น ยา Estrogen, Testosterone, ยาเม็ดคุมกำเนิด
- การตั้งครรภ์ เพราะครรภ์จะกดหลอดเลือด ในช่องท้อง ในอุ้งเชิงกราน การไหลเวียนเลือดจึงไม่ดี จึงเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดได้ง่าย
- เชื้อชาติ: พบโรคนี้ได้สูงใน คนอเมริกันผิวดำ คนผิวขาว แต่พบได้น้อยกว่ามากในคนเอเซีย
อาการของโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอดเป็นอย่างไร?
อาการภาวะ/โรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด ที่เป็นอาการหลักที่ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคนี้ได้รวดเร็ว และเป็นอาการที่ผู้ป่วยต้องรีบมาโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉินโดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสียงดังได้กล่าวในหัวข้อ”ปัจจัยเสี่ยงฯ” ซึ่งอาการ คือ “หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย และมักร่วมกับ เจ็บหน้าอกโดยเฉพาะเมื่อหายใจเข้าและไอมีเสมหะเป็นเลือด”
อาการอื่นๆที่อาจพบได้ เช่น
- มีอาการเขียวคล้ำได้ทั่วตัวจากร่างกายขาดออกซิเจน
- เวียนศีรษะ เป็นลม
- หายใจเร็ว, หัวใจเต้นเร็ว, ชีพจรเต้นเบา
- กระสับกระส่าย
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?
เมื่อมีภาวะ/โรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด อาการหลักที่ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคนี้ได้รวดเร็วขึ้น และเป็นอาการที่ผู้ป่วยต้องรีบมาโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสียง ดังได้กล่าวในหัวข้อ”ปัจจัยเสี่ยงฯ” คือ “หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย และมักร่วมกับ เจ็บหน้าอกโดยเฉพาะเมื่อหายใจเข้าและไอมีเสมหะเป็นเลือด”
แพทย์วินิจฉัยโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอดอย่างไร?
แพทย์วินิจฉัยภาวะ/โรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอดได้จาก
- อาการผู้ป่วย ประวัติทางการแพทย์ต่างๆ เช่น โรคประจำตัว การใช้ยาต่างๆ การผ่าตัด และประวัติปัจจัยเสี่ยง (ดังกล่าวในหัวข้อ”ปัจจัยเสี่ยงฯ”)
- การตรวจร่างกาย
- การตรวจเอกซเรย์ภาพปอด
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจอีเคจี
- การตรวจเอคโคหัวใจ
- การตวจภาพปอดด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (ซีทีสแกน) หรือเอมอาร์ไอ
- การตรวจอัลตราซาวด์หลอดเลือดต่างๆโดยเฉพาะที่ขา/ต้นขาและที่อุ้งเชิงกราน
- ตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการเพื่อดู เช่น
- ปริมาณเกล็ดเลือด(การตรวจซีบีซี/CBC)
- ระดับสารในเลือดที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด เช่น Prothrombin time และ Partial thromboplastin time)
- ระดับเอนไซม์การทำงานของหัวใจ
- อาจมีการสืบค้นอื่นๆเพิ่มเติมตามดุลพินิจของแพทย์ เช่น
- ตรวจภาพปอดทางรังสีวิทยา/เวชศาสตร์นิวเคลียร์ (Lung ventilation/perfusion scan)เพื่อดูการอุดตันของหลอดเลือดปอด
- ตรวจภาพหลอดเลือดปอดทางรังสีวินิจฉัยด้วยการใส่สายสวนในหลอดเลือดร่วมกับการฉีดสี (Pulmonary angiography)
รักษาโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอดอย่างไร?
แนวทางการรักษาภาวะ/โรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด จะเป็นการรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาล และมักให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาในห้องผู้ป่วยวิกฤต(Intensive care unit/ ICU) ได้แก่ การสลายลิ่มเลือดในหลอดเลือดปอด, การป้องกันการเกิดลิ่มเลือดใหม่, การรักษาโรคที่เป็นสาเหตุให้เกิดลิ่มเลือด, และการรักษาประคับประคองตามอาการ/การรักษาตามอาการ
- ก. การสลายลิ่มเลือดในหลอดเลือดปอด: เช่น
- การใช้ยาละลายลิ่มเลือด หรือ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาในกลุ่ม Heparin
- บางกรณี อาจต้องผ่าตัด เพื่อเอาลิ่มเลือดออกถ้าลิ่มเลือดมีขนาดใหญ่และอุดหลอดเลือดแดงใหญ่ของปอด โดยเป็นการผ่าตัดผ่านสายสวนเข้าหลอดเลือดปอด (Pulmonary embolectomy)
- ข. การป้องกันการเกิดลิ่มเลือดใหม่: เช่น
- การให้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น ยา Warfarin
- บางกรณีขึ้นกับสาเหตุที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดและตำแหน่งของหลอดเลือดดำที่เป็นต้นกำเนิดของการเกิดลิ่มเลือด คือการใส่ตะแกรงเพื่อใช้เป็นตัวกรอง/ดักจับลิ่มเลือดที่ผ่านเข้ามาในหลอดเลือดดำใหญ่กลางลำตัว(Inferior vena caval vein)ที่นำเลือดเข้าสู่หัวใจก่อนส่งต่อไปยังหลอดเลือดปอด เรียกการรักษาวิธีนี้ว่า ‘Inferior vena caval filter’
- ค. การรักษาโรคที่เป็นสาเหตุให้เกิดลิ่มเลือดที่จะต่างกันไปในแต่ละผู้ป่วยตามแต่ละสาเหตุ เช่น การรักษาโรคลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ
- ง. การรักษาตามอาการ ซึ่งจะขึ้นกับอาการต่างๆของผู้ป่วยแต่ละราย เช่น การให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนเต็มที่, การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ, การให้ออกซิเจน
อนึ่ง: การรักษาภาวะ/โรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด ต้องใช้เวลาเป็นเดือน ทั่วไปประมาณ 3-6 เดือน และอาจต้องกินยาต้านการแข็งตัวของเลือดไปจนตลอดชีวิต
การพยากรณ์โรคของโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอดเป็นอย่างไร?
การพยากรณ์โรคของภาวะ/โรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด ทั่วไปจัดเป็นโรคที่รุนแรง
- ประมาณ 10% ตายภายใน1ชั่วโมงหลังเกิดอาการ อัตราฯ อาจสูงกว่านี้ถ้าอาการรุนแรง
- ประมาณ 30% ตายจากการเกิดลิ่มเลือดอุดตันซ้ำ
- กรณีโรค/อาการรุนแรง อัตราตายประมาณ 30-60%
อะไรเป็นปัจจัยโรครุนแรง?
ปัจจัยที่ส่งผลให้โรครุนแรง: เช่น
- อาการตั้งแต่แรกของผู้ป่วยที่รุนแรง เช่น มีความดันโลหิตต่ำ หรืออยู่ในภาวะช็อก
- มีอาการของหัวใจห้องขวาทำงานผิดปกติ
- มีค่าเอนไซม์การทำงานของหัวใจในเลือดสูง
- มีโรคประจำตัว ที่เป็น โรคหัวใจ และ/หรือ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง/โรคซีโอพีดี
- การเกิดลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอดปริมาณมาก หรือ อุดกั้นที่หลอดเลือดแดงใหญ่ของปอด
*อนึ่ง:โรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอดสามารถกลับเป็นซ้ำได้เสมอ เมื่อยังไม่สามารถควบคุมปัจจัยเสี่ยง(ดังได้กล่าวในหัวข้อ“ปัจจัยเสี่ยงฯ”)การเกิดโรคนี้ได้ และ/หรือเมื่อผู้ป่วยขาดยาต้านการแข็งตัวของเลือด
ดูแลตนเองอย่างไร?
การดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอดและแพทย์ให้กลับมาดูแลตนเองต่อที่บ้าน เช่น
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของ แพทย์ พยาบาล อย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง เพราะการรักษา ควบคุม และป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรคนี้ต้องใช้ระยะเวลานานต่อเนื่องเป็นหลายๆเดือน
- กินยา/ใช้ยาต่างๆที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพราะยาป้องกันการแข็งตัวของเลือดเป็นยาที่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายสูง
- ทำกายภาพฟื้นฟูขาตาม แพทย์ นักกายภาพบำบัด พยาบาล แนะนำเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอเลือดดำที่อยู่ในส่วนลึกของขา
- รักษา ควบคุม โรคที่เป็นสาเหตุให้เกิดลิ่มเลือดให้ได้ดี
- ระมัดระวังกิจกรรม ที่รวมถึงการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น มีด การตัดเล็บ การแปรงฟัน/ชนิดของขนแปรง รวมถึงการกีฬา ที่มีโอกาสทำให้เกิดบาดแผลได้ง่าย เพราะผู้ป่วยที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดจะเกิดการตกเลือดได้ง่ายมาก
- พบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดเสมอ
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์ก่อนนัด?
เมื่อเคยมีโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด หรือเมื่อออกจากโรงพยาบาลมาดูแลรักษาตนเองที่บ้าน ผู้ป่วยควรรีบกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลทันที ไม่ต้องรอดูอาการ หรือรอจนถึงวันแพทย์นัด เมื่อ
- กลับมามีอาการเหมือนก่อนเข้าโรงพยาบาล
- อาการต่างๆแย่ลง
- มีผลข้างเคียงที่รุนแรงหรืออย่างต่อเนื่องจากยาที่แพทย์สั่ง เช่น เลือดออกที่อวัยวะต่างๆบ่อยมาก เช่น เลือดกำเดา ปัสสาวะเป็นเลือด อุจจาระเป็นเลือด และ/หรือเมื่อเลือดออก เลือดจะออกมาก
- เมื่อกังวลในอาการ
ป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอดได้อย่างไร?
การป้องกันภาวะ/โรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด คือ การป้องกันสาเหตุที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด ซึ่งดังกล่าวใน ‘บทนำ’ ผู้ป่วยเกือบทั้งหมด เกิดจากการมีลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำขา ซึ่งป้องกันได้โดย
- ดื่มน้ำสะอาดในแต่ละวันให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน
- พยายามให้ขามีการเคลื่อนไหวเสมอเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดที่ขา เช่น ลุกเดินบ่อยๆเมื่อต้องนั่งทำงานตลอดเวลา
- ถ้ามีอาชีพที่ต้องยืนนานๆ ควรปรึกษาแพทย์/นักกายภาพบำบัดเรื่อง การสวมถุงน่องพยุงกล้ามเนื้อขา เพราะถ้าใส่ผิดขนาด/ผิดวิธี อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงให้การไหลเวียนเลือดที่ขาลดลงได้
- ไม่ดื่มสุรา เพราะจะเพิ่มการปัสสาวะ ทำให้ร่างกายเกิดเสียน้ำ/ภาวะขาดน้ำจนเกิดเลือดข้น/เกิดลิ่มเลือดได้ง่าย
- ไม่สูบบุหรี่ และเลิกสูบ เพราะพิษของบุหรี่จะทำให้เกิดลิ่มเลือดได้ง่าย
- เมื่อมีการผ่าตัดใหญ่ ต้องรีบเคลื่อนไหวขา/ร่างกายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ตามคำแนะนำของ แพทย์ พยาบาล เพื่อให้เกิดการไหลเวียนเลือดที่ดีของหลอดเลือดขา
- เมื่อเจ็บป่วยที่ต้องนอนพักหลายวัน ต้องพยายามเคลื่อนไหวขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ตามคำแนะนำของแพทย์ พยาบาล
- กรณีที่เคยมีลิ่มเลือดเกิดขึ้นแล้ว หรือเคยมีโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด ต้องกินยาป้องกัน/ยาต้านการแข็งตัวของเลือดสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์ ไม่ขาดยา และไม่หยุดยาเอง
- กรณีที่เคยมีลิ่มเลือดเกิดขึ้นแล้ว หรือเคยมีโรคลิ่มเลือดอุดกั้นหลอดเลือดปอด ต้องพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดสม่ำเสมอ
บรรณานุกรม
- Belohlavek,J. et al. Exp Clin Cardiol.2013;18(2):129-138
- Jaff MR et al. Circulation. 2011 Apr 26;123(16):1788-830
- Sekhri,V. et al. Arch Med Sci.2012;8(6):957-969
- Torbicki,A. Rev Esp Cardiol. 2010;63(7):832-849
- https://www.clinicaladvisor.com/home/decision-support-in-medicine/pulmonary-medicine/acute-pulmonary-embolism-prevention-and-treatment/ [2022,July9]
- https://emedicine.medscape.com/article/300901-overview#showall [2022,July9]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Pulmonary_embolism [2022,July9]
- https://www.nhlbi.nih.gov/health/venous-thromboembolism [2022,July9]
- https://www.nhs.uk/conditions/pulmonary-embolism/ [2022,July9]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Embolism [2022,July9]
- https://www.medscape.com/answers/300901-8604/what-are-the-aha-guidelines-for-the-management-of-acute-pulmonary-embolism-pe [2022,July9]