5. ตลาดอาหารเสริม - ตอนที่ 72

  • โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
  • 4 ธันวาคม 2568
  • Tweet

การศึกษา (Study) ดังกล่าวพบว่า ลักษณะประชากร (Population characteristics) ไทย ในอนาคตได้จากการฉายภาพ (Projection) ประชากร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 ต่อไปอีก 30 ปีข้างหน้า จนถึงปี พ.ศ. 2578 โดยกลางปีพ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นปีฐาน (Base year) ของการฉายภาพ ซึ่งประเทศไทยมีประชากร 62.2 ล้านคน

หนึ่งปีถัดไปประมาณ (Estimate) ได้ว่าประชากรไทย ณ กลางปี พ.ศ. 2549 เพิ่มขึ้นเป็น 62.5 ล้านคน เท่ากับว่าหนึ่งปีมีคนเพิ่มขึ้น 3 แสนคนเศษ คิดเป็น อัตราเพิ่มประชากร 0.6% ต่อปี การเพิ่มของประชากรไทยยังคงเพิ่มขึ้น (Increasing) ต่อไปในอนาคต แต่เป็นการเพิ่มที่ช้าลง (Slow down)

แต่ละปีอัตราเพิ่มประชากรค่อยๆ ลดลงๆ (Slightly decline) ในปีพ.ศ. 2565 ดูเหมือนว่า จะเป็นปีที่เป็นไปได้ว่าอัตราเพิ่มประชากรจะติดลบ (Negative) กล่าวคือ ต่ำกว่าศูนย์บ้างเล็กน้อย ทำให้จำนวนประชากรไทยถึงจุดอิ่มตัว (Saturation point) โดยคาดว่าประชากรไทยจะถึงจุดอิ่มตัวที่จำนวนประมาณ 65 ล้านคน ในราวปี พ.ศ. 2565

หลังจากนั้นจำนวนประชากรแต่ละปีลดลง และจากการศึกษายังพบอีกว่า ประชากรวัยสูงอายุ (Elderly) จะมีอัตราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่วัยแรงงาน (Labor force) มีอัตราคงที่ (Stable) ส่วนวัยเด็กนั้นมีแนวโน้มลดลง (Decreasing) แต่เมื่อได้ศึกษาถึงอัตราส่วนเกื้อหนุน (Support ratio) ผู้สูงอายุ เมื่อปี พ.ศ. 2553 พบข้อมูลน่าทึ่งว่า

ผู้สูงอายุ 1 คน มีผู้ดูแล 12 คน (1:12) แต่ในอีก 30 ปีข้างหน้า ผู้สูงอายุไทยแต่ละคนจะมีคนวัยทำงาน ที่อาจจะช่วยในการดูแลค้ำจุน (Support) เพียง 2 คน เท่านั้น หรือคิดเป็นอัตราส่วน 1 : 2 สถิตินี้ สอดคล้อง (Align) กับทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งได้จัดทํา “การคาดประมาณประชากรของประเทศไทย 2543-2573”

โดยพบว่า ประชากรไทยจะเพิ่มขึ้น ในอัตราที่ลดลงจาก 62.24 ล้านคนในปี พ.ศ. 2543 เป็น 70.65 ล้านคนในปี 2568 และเริ่มลดลงเหลือ 70.63 ล้านคนในปี พ.ศ. 2573 เนื่องจากภาวะเจริญพันธุ์ (Reproductive) ที่ลดลงจาก 1.81 ในปี พ.ศ. 2543 เป็น 1.60 ในปี พ.ศ. 2549 และลดลงเหลือ 1.35 ในปี พ.ศ2573

สำหรับการเปลี่ยนแปลง โครงสร้าง (Structure) ประชากรไทยในอนาคต พบว่า ในช่วงระยะเวลา 30 ปีระหว่างปีพ.ศ. 2543 -2573 สัดส่วน (Proportion) ของประชากรวัยแรงงานเปลี่ยนแปลงไม่มากนักคือ ลดลงประมาณ 4.54% ในขณะที่สัดส่วนของประชากรวัยเด็กลดลง 11.15% ส่วนสัดส่วนของประชากรวัยสูงอายุ เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 15.69%

จากผลการศึกษาดังกล่าว เราสามารถนำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการประมวล (Process) เพื่อใช้เป็น แนวทางในการดำเนินธุรกิจ (Business conduct) ต่อไปในอนาคตได้ กล่าวคือ กลุ่มลูกค้าที่เป็นเด็กจะลดน้อยลง เนื่องจากอัตราการเกิด (Birth rate) ของประชากรมีแนวโน้ม (Tendency) ลดลง

แต่ในทางตรงกันข้าม (Reversely) กลับพบว่ากลุ่ม ลูกค้าวัยสูงอายุจะมีปริมาณมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากคนกลุ่มสูงอายุจะมีชีวิตที่ยืนยาว (Longevity) มากยิ่งขึ้น จากการพัฒนาการทางด้านการแพทย์ รวมถึงความสนใจและห่วงใยการบำรุงรักษาสุขภาพ (Health consciousness) มากขึ้น ตระหนักในการดูแลสุขภาพพลานามัย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ

แหล่งข้อมูล –

  1. file:///C:/Users/user/Downloads/7043-Article%20Text-19184-21464-10-20160115%20(3).pdf [2025, December 3].
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Dietary_supplement [2025, December 3].