7. ตลาดศูนย์บริการทางรังสี – ตอนที่ 11
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 20 กรกฎาคม 2566
- Tweet

ในปัจจุบันนี้ ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เข้ามามีบทบาท (Role) ต่อชีวิตประจำวัน และการพัฒนาประเทศในนานมิติ แต่ในแง่หนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม (Over-look) เลยคือ ความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเทคโนโลยีอย่างแท้จริง ทำให้การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ ขาดการควบคุมดูแลให้ถูกต้องและเหมาะสม จึงเป็นผลให้เกิดอันตราย (Harmful) ได้
การนำเอาสารกัมมันตรังสี (Radio-active) มาใช้ก็เช่นกัน เพราะสารกัมมันตรังสีนั้นมีประโยชน์มากมาย แต่โทษที่อาจเกิดขึ้นจากรังสีนั้นก็มีมากและหลายระดับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณ (Radiation dose), ชนิด, และระยะเวลาที่ได้รับรังสี เช่น ถ้าได้รับรังสีในปริมาณสูงแบบเฉียบพลัน (Acute) อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ (Mortal) หรือการรับรังสีที่อวัยวะสืบพันธ์แล้วทำให้เป็นหมัน (Sterile) เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ก็ยังไม่น่ากลัวเท่ากับการเปลี่ยนแปลงอันเป็นผลให้ลูกหลานที่เกิดมาผิดปกติ (Abnormal) ดังนั้น เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทางด้านรังสีจึงควรมีความรู้ ความเข้าใจในการป้องกัน (Prevention) อันตรายจากรังสีเป็นอย่างดี จึงจะสามารถใช้ประโยชน์จากรังสีได้อย่างคุ้มค่า (Worthy) และปลอดภัย (Safe) ที่สุด
สารกัมมันตรังสี คือสารที่สลายตัวปลดปล่อย (Release) รังสีออกมา อนุภาค (Particle) หรือคลื่น (Wave) ที่ปลดปล่อยออกมาจากอะตอม (Atom) ของกัมมันตรังสี สามารถจำแนกตามลักษณะการเกิดได้จาก 2 แหล่ง (Source) ดังนี้
- จากธรรมชาติ (Nature) โดยสารกัมมันตรังสีจากธรรมชาติ เช่น ยูเรเนียม(Uranium) 235, ยูเรเนียม 238, และคาร์บอน (Carbon) 14 ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับการเกิดของโลก
- จากมนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นมาเอง (Human invention) เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ (Nuclear reaction) ในเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณู (Nuclear reactor) หรือในเครื่องเร่งอนุภาค เช่น เครื่องเร่ง (Accelerator) อนุภาคนิวตรอน (Neutron) และไซโคลตรอน (Cyclotron generator) เป็นต้น สารกัมมันตรังสีที่ได้จากการผลิต เช่นโคบอลต์ (Cobalt) 60, ซีเซียม (Cesium) 137, ไอโอดีน (Iodine) 131, นิวตรอนของสารกัมมันตรังสีทั้ง 2 กลุ่ม จะให้รังสีออกมา อันได้แก่ รังสีแอลฟ่า (Alpha), รังสีเบต้า (Beta), และรังสีแกมม่า (Gamma)
นอกจากนี้รังสีที่เป็นที่รู้จักกันดีและใช้กันอย่างกว้างขวาง เพราะมีประโยชน์มากมาย ได้แก่ รังสีเอ็กซ์ (X-ray) ซึ่งเกิดจากเครื่องกำเนิด (Generator) รังสีซึ่งใช้ระบบไฟฟ้าแรงสูง เร่งให้อิเล็กตรอนวิ่งด้วยความเร็วสูงเข้าชนเป้าที่ทำด้วยโลหะหนัก (Heavy metal) และเกิดเป็นรังสีขึ้น มีความสามารถทะลุทะลวง (Penetrate) ผ่านวัตถุต่างๆ ได้มากบ้าง น้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับความหนาแน่น (Density) ของวัตถุ นั้นๆ
รังสีที่กล่าวมาข้างต้น สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งทางการแพทย์ (Medical), อุตสาหกรรม (Industrial), การเกษตร (Agricultural), และงานวิจัย (Research) ต่างๆ ตัวอย่างเช่น รังสีแอลฟ่า ใช้เป็นส่วนประกอบของอุปกรณ์สายล่อฟ้า (Am-241, Ra-226), อุปกรณ์กำจัดฝุ่นละอองในผลิตภัณฑ์ (Po-210), และอุปกรณ์ตรวจสอบควันไฟ (Am-241) เป็นต้น สำหรับรังสีเบต้า ใช้รักษาโรคต้อเนื้อ (Sr-90) ส่วนสารพรายน้ำ (H-3) และสารสะท้อนแสงหรือเรืองแสง (Pm-147) ใช้ระงับอาการปวดของมะเร็งที่ลามไปยังกระดูก (Sm-153) เป็นต้น
แหล่งข้อมูล –
- https://www.vibhavadi.com/Health-expert/detail/546 [2023, July 19].
- https://en.wikipedia.org/?title=Radioactivity&redirect=no [2023, July 19].