7. ตลาดศูนย์บริการทางรังสี – ตอนที่ 10
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 6 กรกฎาคม 2566
- Tweet
ความพยายามในการสร้าง (Creation) ภาคดูแลสุขภาพ เป็นลำดับความสำคัญสูงสุด (Top priority) สำหรับประเทศไทย ซึ่งในภาคบริการนี้ คาดว่าจะขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ (Significant expansion) ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะรองรับสนับสนุนตลาดเครื่องมือแพทย์ของไทยอย่างไม่หยุดยั้ง
ในขณะเดียวกัน ประชากรสูงอายุ (Aging population) และจำนวนโรงพยาบาลและคลิติก ก็มีส่วนเพิ่มค่าใช้จ่าย (Expenditure) ในการดูแลสุขภาพทั้งหมดโดยรัฐบาล และเพิ่มการท่องเที่ยวทางการแพทย์ (Medical tourism) ซึ่งสร้างผลกระทบ (Impact) ต่ออุปสงค์ (Demand) สำหรับเครื่องมือในลักษณะที่เป็นคุณประโยชน์ (Benefit)
ในส่วนของตลาด (Market segmentation) ประเภทของธุรกิจที่ครองส่วนแบ่งรายได้ (Revenue share) ในตลาดเครื่องมือแพทย์ ส่วนมากเป็นรายการนำเข้า (Import) ที่สัมพันธ์กับเครื่องมือ-อุปกรณ์ และโครงสร้าง (Infra-structure) โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์การถ่ายภาพเพื่อวินิจฉัยโรค (Diagnostic imaging)
CT (Computed tomography) Scan สร้าง (Contribute) ส่วนแบ่งรายได้สูงสุด ในบรรดาสินค้านำเข้า ตามมาด้วยสินค้าบนพื้นฐานรังสีเอ็กซ์ (X-ray based), อุลตร้าซาวนด์ (Ultra-sound), และเครื่องตรวจด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า MRI (= Magnetic resonance imaging: MRI)
ในบรรดาเครื่องมือแต่ละประเภท (Modality) ปรากฏว่า CT Scan มีอัตราเติบโตสูงสุด เนื่องจากเป็นเครื่องมือหลัก (Primary) ในการวิเคราะห์ผู้ป่วย Covid-d19 ผู้นำเข้าสินค้าเหล่านี้ ชุมนุม (Concentrate) อยู่ในบรรดาบริษัทนานาชาติ (Multi-national company: MNC)
อย่างไรก็ตาม บริษัทท้องถิ่นที่ช่วยกระจายสินค้า (Local distributor) ไปทั่วประเทศ ก็มีจำนวนมาก ซึ่งนำไปสู่การเจือจาง (Dilution) ส่วนแบ่งตลาด (Market share) จาก MNC กลยุทธ์การตลาดที่เป็นตัวแปร (Parameter) สำคัญ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ (Portfolio), ราคา (Pricing), บริการหลังการขาย (After-sale service), การรับประกัน (Warranty), และเทคโนโลยี
บริษัท GE (สัญชาติอเมริกัน), Siemens (สัญชาติเยอรมัน), Philips (สัญชาติเนเธอแลนด์), Canon (สัญชาติญี่ปุ่น), และ Fuji Film (สัญชาติญี่ปุ่น) เป็นผู้เล่น (Player) รายสำคัญในบรรดา MNC ส่วนบริษัทท้องถิ่นรายสำคัญ ที่เป็นตัวแทน (Authorized) ได้แก่ บริษัท Meditop, Mind medical, and R.X. เป็นต้น
ปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้ประโยชน์จากรังสีอย่างกว้างขวางทั้งทางอุตสาหกรรม (Industrial) และการแพทย์ (Medical) สำหรับในทางการแพทย์รังสีเอ็กซ์ได้รับการนำมาใช้ในการวินิจฉัยโรคให้แก่ผู้ป่วย การที่ผู้ป่วยได้รับรังสีอาจส่งผลให้เกิดอันตรายจากรังสีได้ ดังนั้นจึงต้องมีการกำกับควบคุม (Control) ให้มีการใช้รังสีกับผู้ป่วยในปริมาณที่น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แต่ยังคงคุณภาพของภาพถ่ายทางรังสี เพื่อให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานที่ดำเนินการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย จากการใช้เครื่องรังสีเอ็กซ์ในโรงพยาบาลต่างๆ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509 เพื่อการป้องกันอันตรายจากรังสีและเพื่อให้เครื่องรังสีเอ็กซ์มีคุณภาพในการตรวจวินิจฉัยโรค
แหล่งข้อมูล –
