10. ตลาดประกันสุขภาพ – ตอนที่ 40

การนำเทคโนโลยีการสื่อสาร (Communication) มาใช้มากขึ้นในภาคการดูแลสุขภาพ (Health-care sector) บ่งชี้ถึง (Indicate) การเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อย (Gradual change) ไปจากกระบวนทัศน์ (Paradigm) ที่เน้นสถาบันเป็นศูนย์กลาง (Institute-centric) ไปสู่รูปแบบ (Model) การส่งมอบการดูแล (Care delivery) ที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง (Patient-centric)

การดูแลโดยยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางให้ประโยชน์ (Benefit) ต่างๆ นานา เช่น ลดการเข้ารับการรักษา (Admission) ในโรงพยาบาล, ลดค่าใช้จ่าย (Expenditure), และบรรเทา (Relieve) ความเครียด (Stress) ในการดูแลสุขภาพ โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) คือ การมีส่วนร่วม (Participation) ของระบบการดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้น (Enhance) กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder)

ทั้งหมดนี้ จะช่วยลดต้นทุน (Cost reduction) โดยรวม (Overall) ในด้านการดูแลสุขภาพ นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่ได้รับปฏิสัมพันธ์เชิงบวก (Positive interface) กับผู้ให้บริการ (Service provider) จะแสดงความไว้วางใจ (Trust) มากขึ้น และมีแนวโน้ม (Trend) ที่จะเปลี่ยนแพทย์น้อยลง

ดังนั้น จึงส่งเสริม (Promote) ความต่อเนื่องของการดูแล (Continuous care) ทำให้ผู้ป่วยแสวงหา (Seek) การรักษาเฉพาะบุคคล (Individual) มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อปรับ (Adjust) ความต้องการ (Requirement) ให้สอดคล้องกับผู้ดูแล (Care-giver) จนผลักดันให้เกิดความต้องการในการเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพและเวทีพื้นฐาน (Platform) อันจะนำไปสู่สื่อสารที่มีประสิทธิภาพกับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ (Clinical specialist) และนักวิจัย (Researcher)

ในการวิเคราะห์ส่วนตลาดค้าประกันสุขภาพ เราสามารถแบ่งตลาดค้าประกันสุขภาพทั่วโลกตามช่องทาง (Channel) การจัดจำหน่าย (Distribution), ประเภทประกันภัย (Insurance type), ความคุ้มครอง (Coverage), ประเภทผู้ใช้ปลายทาง (End-user type) และกลุ่มอายุ (Age group) และภูมิภาค (Region) ของโลก

ตลาดค้าประกันสุขภาพทั่วโลกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ กล่าวคือ ภาครัฐ (Public) และเอกชน (Private) ภาคเอกชนคาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็ว (Rapid growth) ระหว่างปี ค.ศ. 2021 ถึง ค.ศ. 2028 เนื่องจากการเกิดขึ้นของบริษัทประกันสุขภาพเอกชนและความพร้อม (Readiness) ของแผนประกันสุขภาพ (Health insurance plan) ที่คุ้มค่า (Cost effective) สำหรับบุคคล (Individual) และสมาชิกในครอบครัว (Family member)

แผนประกันสุขภาพภาคเอกชนยังมอบสิทธิประโยชน์ (Privilege) มากมาย ที่ตรงตามข้อกำหนดความคุ้มครองขั้นต่ำ (Minimum requirement) ที่จำเป็นของ พระราชบัญญัติการดูแลสุขภาพในราคาถูก (Affordable Care Act: ACA) ในกรณีของสหรัฐอเมริกา

ตลาดโลก (Global market) แบ่งออกเป็น 2 ส่วนตามประเภทความคุ้มครอง กล่าวคือ ประกันชีวิต (Life insurance) และประกันสุขภาพ (Health insurance) ระยะยาว ตลอดระยะเวลาคาดการณ์ (Forecast) คาดว่ากลุ่มธุรกิจประกันชีวิตจะเติบโตเร็วที่สุด (Fastest growth) ในแง่ของรายได้ (Revenue)

การประกันชีวิตไม่เพียงแต่ให้ความคุ้มครองแบบถาวร (Permanent) เท่านั้น แต่ยังให้ผลประโยชน์การเสียชีวิต (Death) เช่น ความมั่นคงทางการเงิน (Financial security) สำหรับสมาชิกในครอบครัวที่ยังมีชีวิตอยู่ (Survivor) อีกด้วย นอกจากนี้ ยังให้การเข้าถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษี (Taxation) ช่วยให้บุคคลสามารถกู้ยืมเงิน (Loan) ตามกรมธรรม์ประกันภัย (Insurance policy) และให้ความคุ้มครองทางการเงิน (Financial projection) จากภาวะ (Condition) สุขภาพต่างๆ

แหล่งข้อมูล

  1. https://exactitudeconsultancy.com/th/reports/5425/health-insurance-exchange-market/ [2024, September 16].
  2. https://en.wikipedia.org/wiki/Health_insurance_marketplace [2024, September 16].