กลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือน (PMDD / Premenstrual dysphoric disorder)
- โดย รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง ประนอม บุพศิริ
- 27 มีนาคม 2565
- Tweet
สารบัญ
- กลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนคืออะไร?
- กลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนมีอาการอะไรบ้าง?
- กลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนมีความสำคัญหรือมีผลกระทบต่อสตรีอย่างไร?
- สาเหตุที่ทำให้เกิดกลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนมีอะไรบ้าง?
- ปัจจัยสี่ยงต่อการเกิดกลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนมีอะไรบ้าง?
- วิธีวินิจฉัยกลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนมีอะไรบ้าง?
- การรักษากลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนมีอะไรบ้าง? ดูแลตนเองอย่างไร?
- กลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนรุนแรงไหม? รักษาหายไหม?
- ป้องกันกลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนได้อย่างไร?
- บรรณานุกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ประจำเดือน (Menstruation)
- ปวดประจำเดือน (Dysmenorrhea)
- กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS / Premenstrual syndrome)
- โรคซึมเศร้า (Major Depressive Disorder หรือ MDD)
- ความเครียด ภาวะซึมเศร้า และโรคซึมเศร้า (Stress, Depression and Depressive disorder)
- เอสเอสอาร์ไอ (Selective serotonin reuptake inhibitors: SSRIs)
- ดานาซอล (Danazol)
- ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)
- เจ็บเต้านม (Breast pain)
- โกนาโดโทรปิน รีลีสซิ่ง ฮอร์โมน (Gonadotropin releasing hormone drugs)
กลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนคืออะไร?
กลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือน เป็นกลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนหรือกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนที่รุนแรง (Premenstrual dysphoric disorder หรือเรียกย่อว่า PMDD) คือ การมีอาการผิดปกติทางร่างกายจิตใจและ/หรืออารมณ์อย่างรุนแรงโดยสัมพันธ์กับก่อนการมีประจำเดือน เช่น ความเครียดจัด หงุดหงิดมาก โมโหร้าย หรือ ซึมเศร้าอย่างมาก
กลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนมีอาการอะไรบ้าง?
กลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนมีหลากหลายอาการ ได้แก่
- ซึมเศร้าอย่างมาก
- อยากฆ่าตัวตาย
- ร้องไห้บ่อยๆ
- โมโหร้าย
- นอนไม่หลับ
- ไม่มีเรี่ยวแรง
- อยากรับประทานอาหารที่แปลกๆ
- ไม่มีสมาธิในการทำงาน
- บวมตามตัว บวม/ปวดเต้านมมาก
- ปวดหัวอย่างมาก
- เจ็บเต้านมอย่างมาก
กลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนมีความสำคัญหรือมีผลกระทบต่อสตรีอย่างไร?
มีสตรีวัยเจริญพันธุ์ (วัยมีประจำเดือน) 2 - 10% ประสบกับปัญหานี้เนื่องจากมีอาการผิด ปกติค่อนข้างรุนแรง เช่น อยากฆ่าตัวตาย จึงเป็นอันตรายต่อชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที หรือมีอาการทางร่างกายมากเช่น ปวดหัวมาก ปวดเต้านมมาก ทำให้ขาดงานจึงมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของงานที่ทำได้
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการกลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนมีอะไรบ้าง?
สาเหตุจริงๆที่ทำให้เกิดอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าเกิดได้จาก
- การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนเพศหญิงในช่วงครึ่งหลังของวงรอบการมีประจำเดือนโดย เฉพาะในรอบเดือนที่มีการตกไข่ (ในสตรีวัยเจริญพันธุ์จะมีประจำเดือนทุก 28 - 30 วัน การ ตกไข่จะเกิดขึ้น 2 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือนครั้งถัดไป และบ่อยครั้งก็มีประจำเดือนได้โดยไม่มีการตกไข่)
- ความเครียด
- มีเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนต่อชีวิต
- อาจเกิดจากการลดลงของสาร เซโรโทนิน(Serotonin) ในร่างกายซึ่งเป็นสาระสำคัญของการรับส่งกระแสประสาท (Neurotransmitter) และสัมพันธ์กับภาวะทางอารมณ์/จิตใจเช่น ความหงุดหงิดและความโกรธ
ปัจจัยสี่ยงต่อการเกิดกลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนมีอะไรบ้าง?
ปัจจัยสี่ยงต่อการเกิดกลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือน คือ
- ประวัติในครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นภาวะนี้
- ภาวะเครียด
- การมีภาวะซึมเศร้าอยู่ก่อนหน้านี้ก็จะกระตุ้นให้เกิดภาวะ/กลุ่มอาการนี้รุนแรงขึ้น
วิธีวินิจฉัยกลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนมีอะไรบ้าง?
แพทย์วินิจฉัยกลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนโดยการซักประวัติดูว่าอาการดังที่กล่าว มาข้างต้นมักเกิดขึ้นซ้ำๆช่วง 10 - 14 วันก่อนมีประจำเดือน และอาการเหล่านี้จะดีขึ้นเมื่อประจำ เดือนหยุด จะมีอาการเกิดคล้ายเดิมอย่างน้อย 3 รอบประจำเดือนและมีอาการดังที่กล่าวมาข้าง ต้นอย่างน้อย 5 อาการร่วมกัน ส่วนการตรวจเลือดมักไม่พบสิ่งผิดปกติ
การรักษากลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนมีอะไรบ้าง? ดูแลตนเองอย่างไร?
หากมีอาการดังกล่าวแล้วควรรีบปรึกษาแพทย์ ซึ่งโดยทั่วไปแนวทางการรักษาคือ การใช้ยา และการดูแลตนเองโดยไม่ใช้ยา
ก. การใช้ยา: ได้แก่
- ยากลุ่ม Selective serotonin-reuptake inhibitors หรือเรียกย่อว่า SSRIs เป็นยาที่เพิ่มระดับสารเซโรโทนิน ในสมอง ซึ่งเป็นกลุ่มยาที่รักษาอาการซึมเศร้าเช่น ยา Fluoxetine, Sertraline, Paroxetine สามารถลดอาการซึมเศร้าและอาการปวดหัวได้
- ยา GnRH Analogs (โกนาโดโทรปิน-รีลีสซิ่ง-ฮอร์โมน: ยาลดการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน) ซึ่งจะทำให้ไม่มีการตกไข่และอาการคัดตึงเต้านม อ่อนเพลีย และโกรธง่ายหายไป แต่ต้องระ วังว่าหากใช้นานเกินกว่า 6 เดือนอาจจะทำให้เกิดโรค กระดูกพรุนได้
- ยา Danazol เป็นฮอร์โมนสังเคราะห์เหมือนฮอร์โมนเพศชายซึ่งจะป้องกันการตกไข่
- ยาเม็ดคุมกำเนิดและยาฉีดคุมกำเนิด (วิธีคุมกำเนิด) ซึ่งจะป้องกันการตกไข่ก็สามารถลดอาการของกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนนี้ได้เช่นกัน
- ยาแก้ปวดกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-steroidal anti inflammatory drug หรือเรียกย่อว่าเอ็นเสด (NSAID) เช่น พอนสแตน (Ponstan®)
***** ทั้งนี้การใช้ยาต่างๆควรต้องเป็นการแนะนำจากแพทย์เสมอ เพราะในผู้มีอาการแต่ละคนจะใช้ชนิดยา ขนาดยา และระยะเวลาในการใช้ยาที่แตกต่างกัน ซึ่งถ้าใช้ไม่ถูกต้อง ประ สิทธิภาพในการรักษาจะลดลงและอาจเกิดผลข้างเคียงจากยาได้ เช่น คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออา หาร ปากแห้ง อาจมีอาการคล้ายโรคหวัด หรือ มือสั่นได้เมื่อใช้ยาในกลุ่ม SSRIs เป็นต้น
ข. สิ่งที่ควรทำควบคู่ไปกับการรับประทานยา คือ การดูแลตนเอง: ได้แก่
- การออกกำลังกายให้สม่ำเสมอให้พอควรกับสุขภาพ
- พักผ่อนให้มากๆ
- รับประทานอาหารที่เป็นผักผลไม้มากๆเพื่อให้ได้วิตามินที่เพียงพอ
- ลดอาหารหวานจัดเค็มจัด
- ลดเครื่องดื่มคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ
กลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนรุนแรงไหม? รักษาหายไหม?
กลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนพบได้น้อยกว่ากลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนที่ไม่รุน แรงมาก แต่มีอาการมากกว่า บางครั้งอาจมีอันตรายถึงชีวิตเพราะบางคนจะมีอาการซึมเศร้าหมด หวังในชีวิตมากอาจคิดฆ่าตัวตาย การได้รับการรักษาทันท่วงทีจะช่วยบรรเทาอาการลงได้มาก
และเนื่องจากภาวะนี้สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเพศหญิงช่วงมีประจำเดือน ดังนั้นหากหมดประจำเดือนอาการเหล่านี้ก็จะหมดไป แต่ในช่วงที่ยังมีประจำเดือนอาการเหล่านี้ก็ยังคงมีอยู่ ได้แต่การรักษาจะทำให้อาการต่างๆดีขึ้น
กลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนมีผลข้างเคียงอย่างไร? ควรพบแพทย์เมื่อไร?
ในสตรีที่มีอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือน บางคนจะโมโหร้ายมากทำร้ายผู้อื่น บางคนจะ ซึมเศร้ามาก บางคนจะร้องไห้บ่อยๆ บางคนไม่มีแรงไปทำงาน บางคนอยากฆ่าตัวตาย หากมีอา การเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์เพราะอาจมีโรคอื่นที่มีอาการคล้ายกันได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมจะมีผลกระทบต่อสตรีผู้มีอาการและคนรอบข้างได้ นอกจากนั้นอาจทำให้สตรีผู้นั้นเกิดโรคซึมเศร้าตามมาได้
ป้องกันกลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือนได้อย่างไร?
นอกจากจะต้องรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดแล้ว การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอให้พอเหมาะกับสุขภาพจะช่วยลดหรือป้องกันภาวะ/กลุ่มอาการนี้ได้ เพราะเวลาออกกำลังกายจะมีฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขหลั่งออกมาจากสมองทำให้เรามีความสุขไม่เครียด
นอกจากนั้น ควรดูแลตัวเองเกี่ยวกับอาหาร: เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราผ่านพ้นวิกฤตช่วงก่อนมีประจำเดือนไปได้ เช่น
- ควรรับประทานคาร์โบไฮเดรตชนิดดี เช่น ข้าวที่ไม่ขัดสีจนวิตามินหายหมด (Whole grain)
- รับประทานผักผลไม้มากๆเพื่อให้ได้วิตามินครบถ้วน
- ลดอาหารหวานจัด
- ลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ลดเครื่องดื่มมีคาเฟอีน
บรรณานุกรม
- American College of Obstetricians and Gynecologists. Premenstrual Syndrome. ACOG Practice Bulletin No. 15. Washington, DC: American College of Obstetricians and Gynecologists, 2000.
- Dickerson LM, Mazyck PJ, Hunter MH. Premenstrual syndrome. Am Fam Physician. 2003;67(8):1743–52.
- Malone DC. Managing the spectrum of premenstrual symptoms. Am J Manag Care. 2005:11(16):S471–2.
- Vigod SN et al. Understanding and treating premenstrual dysphoric disorder: an update for the women’s health practitioner. Obstet Gynecol Clin North Am. 2009 Dec;36 (4):907–24.
- https://womensmentalhealth.org/specialty-clinics/pms-and-pmdd/ [2022,March26]