ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

ทั่วไป

เรื่องทั่วไปที่สำคัญของโรคไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis) คือ

  • ไส้ติ่งอักเสบเป็นโรคที่การรักษาคือการผ่าตัดในช่องท้อง และเป็นโรคพบได้บ่อยมากโรคหนึ่ง
  • ทุกคน ทุกเพศ ทุกอายุ มีโอกาสเป็นไส้ติ่งอักเสบ แม้กระทั่งหญิงตั้งครรภ์
  • การรักษาผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบก่อนที่จะแตก ช่วยลดโรคแทรกซ้อนและค่าใช้จ่ายการรักษาเป็นอย่างมาก
  • การปวดท้องน้อยด้านขวานั้น อาจเป็นได้ทั้ง ไส้ติ่งอักเสบ ลำไส้อักเสบ ท้องเสีย ท้องผูก นิ่วในท่อไต การติดเชื้อของปีกมดลูก กล้ามเนื้ออักเสบ และอื่นๆอีก
  • ดังนั้นความเข้าใจโรคไส้ติ่งอักเสบ จึงทำให้ลดความกังวลใจ และไม่ละเลยอาการสำคัญที่เตือนให้มาพบแพทย์ทันที (ฉุกเฉิน) เมื่อสงสัยว่าอาจกำลังปวดท้องด้วยโรคไส้ติ่งอัก เสบ

ไส้ติ่งอยู่ตรงไหน? ทำหน้าที่อะไร?

โรคไส้ติ่งอักเสบ
  • ไส้ติ่งมีรูปร่างเหมือนถุงยาวๆขนาดเท่านิ้วก้อย ยื่นออกมาจากลำไส้ใหญ่ ตำแหน่งอยู่ที่ท้องน้อย (อุ้งเชิงกราน) ด้านขวา
  • ผนังด้านในของไส้ติ่งมีเนื้อเยื่อต่อมน้ำเหลืองกระจายอยู่ ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อเกิดการอักเสบได้ง่าย ซึ่งเนื้อเยื่อนี้มีการเพิ่มปริมาณมากช่วงวัยรุ่น จึงพบไส้ติ่งอักเสบเกิดได้บ่อยในวัย รุ่น
  • ไส้ติ่งในมนุษย์ไม่มีหน้าที่สำคัญอย่างใด การตัดไส้ติ่งออกไม่เกิดผลเสียใดๆ (ไส้ติ่งในสัตว์กินพืชเคี้ยวเอื้อง เช่น วัว ใช้เป็นอวัยวะในการช่วยย่อยอาหาร)

ไส้ติ่งอักเสบคืออะไร?

ไส้ติ่งอักเสบคือ อาการบวมและติดเชื้อของไส้ติ่ง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่ง ด่วน เพราะถ้าหากทิ้งไว้นาน ไส้ติ่งที่อักเสบมักแตกกระจายเชื้อโรคสู่ช่องท้อง และอาจเป็นสา เหตุรุนแรงจนติดเชื้อในกระแสเลือด/โลหิต (ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ)ได้

ไส้ติ่งอักเสบเกิดจากอะไร?

สาเหตุของไส้ติ่งอักเสบ ได้แก่

  • ส่วนใหญ่เกิดจากการอุดตันที่ไส้ติ่ง จากก้อนอุจจาระที่แข็ง หรือ
  • เนื้อเยื่อต่อมน้ำเหลืองที่ผนังไส้ติ่งหนาตัวขึ้น ตามการอักเสบต่างๆที่เกิดขึ้นในร่างกาย
  • สาเหตุอื่นๆที่พบได้น้อยกว่า เช่น พยาธิในลำไส้ (เช่น พยาธิตืดหมู) หรือเนื้องอก

ใครบ้างมีโอกาสเป็นไส้ติ่งอักเสบ?

ผู้มีโอกาสเกิดไส้ติ่งอักเสบ คือ

  • เกิดขึ้นได้กับทุกคน ตั้งแต่เด็ก 2 ขวบไปจนถึงคนชรา
  • พบบ่อยมากที่สุด ช่วงอายุ 15 - 30 ปี

อาการของไส้ติ่งอักเสบเป็นอย่างไร?

อาการสำคัญไส้ติ่งอักเสบ คือ ปวดท้อง ที่มีลักษณะ เช่น

ก. ระยะแรก: ระยะไส้ติ่งเริ่มอุดตัน: จะมีอาการ เช่น

  • ปวดท้องกะทันหัน และเป็นอาการเกิดก่อนอาการอื่นๆ
  • มักปวดตำแหน่งรอบสะดือ ปวดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
  • มักมีอาการเบื่ออาหาร จุก แน่นท้อง เกิดร่วมด้วยตามมา

ข. ระยะต่อมา: ระยะไส้ติ่งบวมโป่งขึ้น เชื้อโรคขยายลุกลามถึงชั้นนอกของไส้ติ่ง อาการ เช่น

  • ปวดท้องมากขึ้นในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่เกิน 1 - 2 วัน
  • ย้ายตำแหน่งมาปวดที่ท้องน้อยด้านขวา
  • การเคลื่อนไหว –ไอ -จาม ทำให้ปวดมากขึ้น
  • และอาจเกิดอาการท้องเสียหรือท้องผูก ในระยะนี้ก็ได้

ค. ระยะรุนแรง: ไส้ติ่งอักเสบแตกกระจายในช่องท้อง: เมื่อปล่อยไว้จนไส้ติ่งอักเสบแตก (พบได้บ่อยประมาณ 20%) หากไม่ได้รับการผ่าตัดออก จะเกิดผลข้างเคียง แทรกซ้อนได้ 2 แบบ คือ

  • ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อห่อหุ้มไส้ติ่งที่แตกนั้นไว้ ทำให้คลำได้มีก้อนเจ็บที่ท้องน้อย และมีไข้ หรือ
  • เชื้อโรคและหนองกระจายไปทั่วท้อง (เยื่อบุช่องท้องอักเสบ) อาจเข้ากระแสเลือด(ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ) ซึ่งอันตรายถึงชีวิต(ตาย)ได้

แพทย์วินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบอย่างไร?

แพทย์วินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบได้โดย

  • การซักประวัติอาการ ลักษณะการปวดท้อง
  • การตรวจกดตำแหน่งที่ปวดนั้น
  • การตรวจดูผลเลือดซีบีซี (CBC)
  • และการตรวจปัสสาวะ ร่วมด้วย
  • หากจำเป็นอาจใช้การตรวจสืบค้นภาพไส้ติ่งเพิ่มเติม เช่น การตรวจอัลตราซาวนด์ (ตรวจช่องท้องด้วยคลื่นเสียง) และ/หรือ เอกซเรย์ช่องท้อง และ/หรือหรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ช่องท้อง เพื่อช่วยแยกโรคอื่นๆที่อาจมีอาการคล้ายคลึงกับไส้ติ่งอักเสบ ทั้งนี้ การตรวจสืบค้นเพิ่มเติมเหล่านี้จะขึ้นกับ อาการผู้ป่วยและดุลพินิจของแพทย์ซึ่งแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย โดยโรคอื่นๆที่อาการคล้ายไส้ติ่งอักเสบ เช่น
    • โรคลำไส้อักเสบ
    • นิ่วในท่อไต
    • ปีกมดลูกอักเสบ
    • ท้องนอกมดลูก
    • ท้องผูกมาก

รักษาไส้ติ่งอักเสบอย่างไร?

การรักษาไส้ติ่งอักเสบคือ การผ่าตัดเอาไส้ติ่งออก ซึ่งคือการรักษาตามมาตรฐาน

เมื่อแพทย์ตรวจและวินิจฉัยว่าน่าจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ (แม้อาจไม่มั่นใจ 100 %) ก็จะพิจารณาผ่าตัดไส้ติ่งออก เพื่อป้องการไส้ติ่งอักเสบแตก

การผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบเป็นการผ่าตัดในช่องท้อง ซึ่งสาเหตุการผ่าตัดในช่องท้อง มาจากโรคไส้ติ่งอักเสบมากที่สุด

การผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ ส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ไม่ยุ่งยาก นอนโรงพยาบาล 2 - 3 วัน

แต่กรณีไส้ติ่งอักเสบที่แตกแล้ว มักใช้เวลาที่นานกว่า และอาจเกิดแผลผ่าตัดติดเชื้อภายหลังได้

ปัจจุบัน การผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบด้วยกล้องเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งแพทย์ผ่าตัดจะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม

รักษาไส้ติ่งอักเสบโดยไม่ต้องผ่าตัด ทำได้ไหม?

การรักษาไส้ติ่งอักเสบโดยหวังให้อาการดีขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยหวังว่า การอุดตันที่ไส้ติ่งจะหลุดคลายออกไปได้เองนั้น พบได้น้อยมาก และมีความเสี่ยงสูงที่ไส้ติ่งแตกทะลุ ดังนั้น จึงควรผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ ในทุกราย

ถ้าคิดว่าอาจกำลังเป็นไส้ติ่งอักเสบ ควรทำอย่างไร?

ไส้ติ่งอักเสบ เป็นโรคเร่งด่วน ต้องไปพบแพทย์ทันที ที่ห้องฉุกเฉินของโรง พยาบาล และไม่ควรกินยาระบาย หรือ สวนอุจจาระ เพราะอาจทำให้ไส้ติ่งอักเสบนั้นแตกเร็วขึ้น

ประเด็นสำคัญที่ควรจดจำ

ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับไส้ติ่งอักเสบที่ควรจดจำ ได้แก่

  • ไส้ติ่งอักเสบคือการบวมและอักเสบติดเชื้อของไส้ติ่ง ซึ่งอยู่ที่ตำแหน่งท้องน้อยด้านขวา
  • อาการไส้ติ่งอักเสบมักเริ่มด้วยอาการปวดท้อง
  • ตามด้วยอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก หรือท้องเสีย แล้วมีไข้ ท้องอืด
  • ส่วนใหญ่แล้ว แพทย์สามารถวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบได้ด้วยประวัติปวดท้องและการตรวจร่างกาย
  • ในบางกรณีที่จำเป็น อาจต้องตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้อง หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ช่องท้องเพิ่มเติม
  • การรักษาไส้ติ่งอักเสบคือการผ่าตัดไส้ติ่งโดยเร่งด่วน ไม่ใช่โรคที่รักษาด้วยยาเพียงอย่างเดียว

บรรณานุกรม

  1. SCHWARTZ, Principle of Surgery , McGRAW HILL
  2. https://www.niddk.nih.gov/health-information/digestive-diseases/appendicitis[2020,Jan25].
  3. https://vasurgery.com/surgical-procedures/general-surgery/appendix-surgery/[2020,Jan25].