ไทคาร์ซิลลิน (Ticarcillin)

สารบัญ

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ: คือยาอะไร?

 ไทคาร์ซิลลิน (Ticarcillin) คือ ยาปฏิชีวนะที่อยู่ในกลุ่ม Carboxypenicillin มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียชนิดแกรมลบได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะเชื้อ Pseudomonas aeruginosa ตัวยาไทคาร์ ซิลลินเป็นยาปฏิชีวนะไม่กี่ตัวที่สามารถต่อต้านเชื้อ Stenotrophomonas maltophillia กลไกการออกฤทธิ์ของยานี้คือยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ในตัวแบคทีเรียส่งผลให้แบคทีเรียหยุดการเจริญเติบโต

 ผลข้างเคียงของยาไทคาร์ซิลลินอาจทำให้เกิดอาการต่อผิวหนัง ต่อระบบทางเดินอาหาร ต่อการทำงานของหัวใจ รวมถึงต่อระบบเลือดในร่างกายมนุษย์

ยาไทคาร์ซิลลินไม่สามารถดูดซึมจากระบบทางเดินอาหารได้ จึงมีรูปแบบยาแผนปัจจุบันเป็น ยาฉีด  ตัวยาสามารถละลายน้ำได้ดี ในทางคลินิกเมื่อละลายตัวยาเพื่อเตรียมฉีดให้กับผู้ป่วยควรใช้ยานี้ทันทีทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการเสื่อมสลายของยาไทคาร์ซิลลินนั่นเอง

ในสูตรตำรับของยาไทคาร์ซิลลินอาจจะมีส่วนผสมของยาคลาวูลาเนท (Clavulanate) (ยาปฏิชีวนะที่ใช้เพิ่มประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะชนิดอื่น) ร่วมด้วย

สรรพคุณทางคลินิกได้นำยาไทคาร์ซิลลินมารักษาการติดเชื้อของโรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ รวมถึงการติดเชื้อที่ ผิวหนัง ปอด ข้อกระดูก และ ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ) อีกด้วย

ยังมีข้อมูลสำคัญบางประการที่ผู้บริโภคควรทราบเกี่ยวกับยาไทคาร์ซิลลิน เช่น

  • ยาไทคาร์ซิลลินใช้ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ไม่สามารถรักษาอาการป่วยจากโรคติดเชื้อไวรัส
  • การใช้ยานี้เป็นเวลานานๆอาจเป็นเหตุให้เกิดการติดเชื้อประเภทอื่นๆตามมา เช่น โรคเชื้อรา แพทย์จึงไม่แนะนำการใช้ยาไทคาร์ซิลลินเป็นเวลานานเกินไป
  • อาจพบอาการท้องเสียแบบไม่รุนแรงกับผู้ป่วยที่ใช้ยาปฏิชีวนะไทคาร์ซิลลิน
  • ขณะที่มีการใช้ยาไทคาร์ซิลลินแพทย์อาจต้องตรวจสอบการทำงานของระบบเลือดและไตของผู้ป่วยร่วมด้วย ทั้งนี้เพื่อทดสอบว่าเกิดความผิดปกติต่อระบบดังกล่าวของร่างกายจากยานี้หรือไม่
  • ผู้ป่วยจะต้องได้รับยานี้จนครบขนาดมาตรฐานของการให้ยาถึงแม้จะมีอาการดีขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อเกิดการดื้อยา
  • ยาไทคาร์ซิลลินสามารถทำให้ฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดด้อยประสิทธิภาพลงไป หากใช้ยาร่วมกัน แพทย์มักจะแนะนำให้ใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วยเช่น การใส่ถุงยางอนามัยชาย นอกจากนี้ยังต้องหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ร่วมกับกลุ่มยา Tetracyclines ยาต้านการแข็งตัวของเลือด และยาในกลุ่ม Aminoglycoside

 ผู้บริโภคสามารถพบเห็นการใช้ยานี้แต่ในสถานพยาบาลเท่านั้นด้วยต้องอาศัยผลการตรวจร่างกายมาประกอบกัน เพื่อทำการสั่งจ่ายยาให้กับผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสมถูกต้องและปลอดภัย

ไทคาร์ซิลลินมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) รักษาโรคอะไร?

ไทคาร์ซิลลิน

ยาไทคาร์ซิลลินมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้: เช่น

  • รักษาโรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ
  • รักษาการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
  • รักษาการติดเชื้อที่ผิวหนัง(ผิวหนังติดเชื้อ)
  • รักษาภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ)
  • รักษาการติดเชื้อโรคปอดบวม
  • รักษาการติดเชื้อที่ข้อและกระดูก เช่น กระดูกอักเสบ
  • รักษาการติดเชื้อที่เยื่อบุช่องท้อง (เยื่อบุช่องท้องอักเสบ)

ไทคาร์ซิลลินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

กลไกการออกฤทธิ์ของยาไทยคาร์ซิลลินคือ ตัวยาจะยับยั้งการสร้างผนังเซลล์ (เซลล์-เนื้อเยื่อ-อวัยวะ)ของแบคทีเรีย ทำให้แบคทีเรียหยุดการเจริญเติบโต ไม่สามารถขยายพันธุ์และตายลงในที่สุด

ไทคาร์ซิลลินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

ยาไทคาร์ซิลลินมีรูปแบบการจัดจำหน่าย:

  • ยาฉีด ขนาด 1, 3, 20 และ 30 กรัม/ขวด
  • ยาฉีดที่มีส่วนผสมของยาอื่น เช่น
    • Clavulanic Acid (ยาคลาวูลาเนท) 100 มิลลิกรัม + Ticarcillin 3 กรัม/ขวด
    • Clavulanic Acid 200 มิลลิกรัม + Ticarcillin 3 กรัม/ขวด

ไทคาร์ซิลลินมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?

ขนาดยาไทคาร์ซิลลินจะขึ้นกับชนิดโรคและความรุนแรงของอาการโรค รวมถึงดุลพินิจของแพทย์ ดังนั้นในที่นี้ขอยกตัวอย่างขนาดยานี้เฉพาะในบางโรค เช่น

 ก. สำหรับโรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ: เช่น

  • ผู้ใหญ่และเด็กอายุมากกว่า 12 ปี: กรณีติดเชื้อที่มีความซับซ้อนหรือรุนแรงมาก ให้ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำขนาด 3 กรัมทุก 4 - 6 ชั่วโมงเป็นเวลา 14 วัน, กรณีที่ติดเชื้อที่มีความรุน แรงต่ำให้ฉีดยาขนาด 1 กรัมเข้ากล้ามเนื้อหรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำทุก 6 ชั่วโมง
  • เด็กอายุ 1 เดือน - 12 ปี: กรณีติดเชื้อที่มีความรุนแรงต่ำฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำหรือเข้ากล้ามเนื้อขนาด 50 - 100 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วันโดยแบ่งฉีดทุกๆ 6 - 8 ชั่ว โมง หากเด็กน้ำหนักตัวมากกว่า 40 กิโลกรัมขึ้นไปให้ใช้ขนาดเดียวกันกับของผู้ใหญ่, กรณีติดเชื้อที่มีความรุนแรงมากให้ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำขนาด 150 - 200 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิ โลกรัม/วันโดยแบ่งฉีดทุกๆ 4 - 6 ชั่วโมง กรณีที่เด็กน้ำหนักตัวมากกว่า 40 กิโลกรัมขึ้นไปให้ใช้ขนาดเดียวกันกับของผู้ใหญ่
  • เด็กอายุต่ำกว่า 1 เดือน: ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกที่แน่ชัดถึงขนาดการใช้ยานี้ การใช้ยานี้ในเด็กวัยนี้จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป

ข. สำหรับภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ): เช่น

  • ผู้ใหญ่และเด็กอายุมากกว่า 12 ปี: ฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ 3 กรัมทุก 4 ชั่วโมงเป็น เวลา 14 วัน
  • เด็กอายุ 1 เดือน - 12 ปี: ฉีดยาขนาด 200 - 300 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/วัน เข้าหลอดเลือดดำโดยแบ่งการให้ยาเท่าๆกันทุกๆ 4 - 6 ชั่วโมง
  • เด็กอายุต่ำกว่า 1 เดือน: ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกที่แน่ชัดถึงขนาดการใช้ยานี้ การใช้ยานี้ในเด็กวัยนี้จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป

*****หมายเหตุ:  ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสม   ควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?

         เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมถึงยาไทคาร์ซิลลิน ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก/หอบเหนื่อย
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาไทคาร์ซิลลินอาจทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ /มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

ไทคาร์ซิลลินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

 ยาไทคาร์ซิลลินสามารถก่อให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)  เช่น

  • ท้องเสียลักษณะถ่ายเหลวหรือกระทั่งมีเลือดปน
  • เกิดภาวะเลือดออกง่าย
  • อ่อนเพลีย
  • ปากคอแห้ง
  • กระหายน้ำ
  • รู้สึกสับสน
  • ปัสสาวะมาก
  • ปวดกล้ามเนื้อ
  • หัวใจเต้นเร็ว
  • มีไข้
  • หนาวสั่น
  • ปวดตามร่างกาย
  • อาจมีผื่นคัน
  • หูดับ
  • ผู้ป่วยบางรายอาจพบอาการติดเชื้อยีสต์/Yeast (เชื้อราประเภทหนึ่งมักพบในบริเวณช่องคลอด)

มีข้อควรระวังการใช้ไทคาร์ซิลลินอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาไทคาร์ซิลลิน เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
  • ห้ามใช้ยาที่มีสภาพที่เปลี่ยนแปลงไปจากมาตรฐานเดิม
  • ห้ามใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก และผู้สูงอายุ โดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์
  • ให้หยุดใช้ยานี้ทันทีกรณีตรวจพบร่างกายผู้ป่วยมีการติดโรคเชื้อราหรือเชื้อโรคชนิดอื่นๆที่ไม่ตอบสนองต่อยาไทคาร์ซิลลิน ซึ่งแพทย์จะเปลี่ยนยานี้และปรับแนวทางการรักษาใหม่
  • การใช้ยานี้กับผู้ป่วยจะต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้อาการป่วยจะดีขึ้นก็ยังต้องใช้ยานี้จนครบมาตรฐานของการรักษา
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง: ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาไทคาร์ซิลลินด้วย) ยาแผนโบราณ  อาหารเสริม   ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร  ทุกชนิดและสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน

ไทคาร์ซิลลินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาไทคาร์ซิลลินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • การใช้ไทคาร์ซิลลิน ร่วมกับยา Methotrexate อาจทำให้ผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียงจาก Methotrexate ได้มากขึ้นโดยจะแสดงอาการ คลื่นไส้อาเจียน ปากเป็นแผล เม็ดเลือดต่ำ หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกันแพทย์จะปรับขนาดการใช้ยาให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
  • การใช้ยาไทคาร์ซิลลิน ร่วมกับยา Tetracycline จะทำให้ประสิทธิภาพการรักษาของยาไทคาร์ซิลลินด้อยลงไป หากไม่มีความจำเป็นใดๆควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
  • การใช้ยาไทคาร์ซิลลินร่วมกับยาเม็ดคุมกำเนิด เช่นยา Ethinyl Estradiol อาจเป็นเหตุให้ฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดด้อยประสิทธิภาพลงจนเกิดภาวะตั้งครรภ์ตามมาได้ กรณีที่จำเป็นต้องใช้ยาร่วมกันควรใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยชาย

ควรเก็บรักษาไทคาร์ซิลลินอย่างไร?

ควรเก็บยาไทคาร์ซิลลิน:

  • เก็บยาภายใต้อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส (Celsius)
  • ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
  • เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อน และความชื้น
  • เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ไทคาร์ซิลลินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาไทคาร์ซิลลิน  มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น

ชื่อการค้า บริษัทผู้ผลิต
CLATIPLUS (คลาไทพลัส) Fusion
Timentin (ไทเมนติน) GlaxoSmithKline

 

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Ticarcillin   [2022,April16]
  2. https://www.drugs.com/dosage/ticarcillin.html  [2022,April16]
  3. https://www.drugs.com/dosage/ticarcillin.html#Usual_Adult_Dose_for_Urinary_Tract_Infection  [2022,April16]
  4. https://www.drugs.com/drug-interactions/ticarcillin-index.html?filter=2&generic_only=   [2022,April16]
  5. https://en.wikipedia.org/wiki/Carboxypenicillin  [2022,April16]
  6. https://www.rxlist.com/timentin-injection-drug.htm  [2022,April16]