ไวโนเรลบีน (Vinorelbine)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 5 มิถุนายน 2561
- Tweet
- บทนำ
- ไวโนเรลบีนมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
- ไวโนเรลบีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ไวโนเรลบีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ไวโนเรลบีนมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- ควรดูแลตนเองอย่างไรขณะได้รับยาไวโรเรลบีน?
- หากลืมมารับการฉีดยาควรทำอย่างไร?
- ไวโนเรลบีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ไวโนเรลบีนอย่างไร?
- อาการข้างเคียงลักษณะใดที่ต้องนำผู้ป่วยมาส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว?
- ไวโนเรลบีนมีปฏิกิริยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาไวโนเรลบีนอย่างไร?
- ไวโนเรลบีนมีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- มะเร็ง (Cancer)
- เนื้องอก (Tumor)
- ยาเคมีบำบัด (Cancer chemotherapy)
- รังสีรักษา ฉายรังสี ใส่แร่ (Radiation therapy)
- ยารักษาแบบจำเพาะต่อเซลล์มะเร็ง ยารักษาตรงเป้า (Targeted Cell Therapy)
บทนำ
ยาไวโนเรลบีน (Vinorelbine หรือ Vinorelbin หรือ Vinorelbine tartrate ย่อว่า NVB)เป็นยาเคมีบำบัดสำหรับใช้รักษาโรคมะเร็งบางชนิด นักวิทยาศาสตร์ได้สังเคราะห์ยาไวโนเรลบีนจากสารอัลคาลอยด์(Alkaloid)ในพืชตระกูลแพงพวยฝรั่ง (Catharanthus roseus) เมื่อช่วงปี ค.ศ.1989 (พ.ศ.2532)ที่ประเทศฝรั่งเศสได้ประกาศรับรองให้ไวโนเรลบีนเป็นยาสำหรับรักษามะเร็งปอดชนิดเซลล์ตัวโต (Non small cell lung cancer) และอีก2ปีถัดมาทางคณะกรรมการอาหารและยาในต่างประเทศก็อนุมัติให้ใช้ไวโนเรลบีนรักษามะเร็งเต้านมในระยะแพร่ กระจาย
รูปแบบเภสัชภัณฑ์ของตัวยาไวโนเรลบีนมีทั้งแบบรับประทานและยาฉีด สูตรตำรับแบบรับประทานมีประสิทธิภาพในการรักษาคล้ายกับแบบยาฉีด แพทย์อาจใช้ยารับประทานเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบ(ผลข้างเคียง)จากการฉีดยาผ่านหลอดเลือดดำ อีกทั้งง่ายและสะดวกต่อผู้ป่วย
ยาไวโนเรลบีนสามารถถูกดูดซึมผ่านระบบทางเดินอาหารเพียงประมาณ 40% ตัวยาในกระแสเลือดจะถูกทำลายโดยตับ และถูกขับทิ้งไปกับอุจจาระเสียเป็นส่วนมาก ยาชนิดนี้สามารถสร้างผลข้างเคียงได้หลายประการกับผู้ป่วย เช่น ทำให้เม็ดเลือดขาวชนิดแกรนูโลไซต์ลดน้อยลง (Granulocytopenia)จนเสี่ยงต่อการติดเชื้อของร่างกายได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นก่อนใช้ยาไวโนเรลบีน แพทย์จำเป็นต้องขอตรวจเลือดCBC หากพบว่าปริมาณเม็ดเลือดขาวแกรนูโลไซต์มีระดับ 1,000 เซลล์/ลูกบาศก์มิลลิเมตรขึ้นไป จึงสามารถใช้ยาชนิดนี้ได้
นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยบางกลุ่มที่ไม่สามารถใช้ยาไวโนเรลบีนได้เลย เช่น
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยา หรือแพ้ส่วนประกอบของยานี้/ยาชนิดนี้
- ผู้ที่อยู่ในภาวะติดเชื้ออย่างรุนแรงภายใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
- ผู้ที่มีระดับเกล็ดเลือดต่ำ
- ผู้ป่วยโรคตับในระยะรุนแรง
- ห้ามใช้ยานี้ร่วมกับการทำรังสีรักษา ที่จะเป็นผลให้การฉายรังสีผ่านไปถึงตับ
- ห้ามใช้กับสตรีมีครรภ์ และสตรีในภาวะให้นมบุตร ด้วยตัวยาสามารถก่อพิษ(ผลข้างเคียงรุนแรง)ต่อ ทารกได้
แพทย์อาจใช้ยาไวโนเรลบีนในลักษณะแบบยาเดี่ยวเพื่อรักษามะเร็ง หรืออาจใช้ร่วมกับยาCisplatin โดยพิจารณาจากความเหมาะสมและที่เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ป่วย ซึ่งโดยทั่วไป หลังจากได้รับยานี้ไปแล้ว 7–10 วัน แพทย์จะเริ่มตรวจความสมบูรณ์ของเลือด(CBC)ซึ่งมักพบว่าเม็ดเลือดขาวชนิดแกรนูโลไซต์และเม็ดเลือดแดงอาจลดต่ำลงชั่วคราว แต่เม็ดเลือดดังกล่าวจะค่อยๆเพิ่มปริมาณมากขึ้นหลังการใช้ยาไปแล้วประมาณ 14–21 วัน
ระหว่างได้รับยาไวโนเรลบีน ผู้ป่วยอาจมีอาการข้างเคียง(ผลข้างเคียง)ที่พบเห็นได้บ่อย อาทิ คลื่นไส้อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือมีอาการท้องผูก ซึ่งแพทย์อาจสั่งจ่ายยาให้ผู้ป่วยเพื่อบรรเทาผลข้างเคียงดังกล่าว และห้ามมิให้ผู้ป่วยไปซื้อหายาใดๆมารับประทานเองเพื่อบรรเทาอาการดังกล่าวโดยเด็ดขาด
เราสามารถพบเห็นการใช้ยาไวโนเรลบีนในประเทศไทย และมีให้เลือกใช้ ทั้งชนิดฉีดและรับประทาน คณะกรรมการอาหารและยาได้กำหนดให้ยาไวโนเรลบีนเป็น ยาควบคุมพิเศษที่อันตราย และมีใช้แต่ในสถานพยาบาลที่รักษาโรคมะเร็งเท่านั้น
ไวโนเรลบีนมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
ยาไวโนเรลบีนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- รักษามะเร็งปอดชนิดเซลล์ตัวโต (Non small cell lung cancer)
- รักษามะเร็งเต้านม
- บางสถานพยาบาลอาจใช้ยานี้เพื่อรักษา มะเร็งรังไข่ มะเร็งปากมดลูก โดยขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์
ไวโนเรลบีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาไวโนเรลบีนเป็นยากึ่งสังเคราะห์ที่เป็นอนุพันธ์ของยาVinblastine ตัวยาจะเข้ายับยั้งกระบวนการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งในระยะที่เรียกว่าเมตะเฟส(Metaphase) ส่งผลให้เซลล์มะเร็งหยุดการขยายตัวและตายลงในที่สุด
ไวโนเรลบีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาไวโนเรลบีนมีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- ยาฉีด ที่ประกอบด้วยตัวยา Vinorelbine tartrate ขนาด 10 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร และ 50 มิลลิกรัม/5 มิลลิลิตร
- ยาแคปซูลนิ่มชนิดรับประทาน ที่ประกอบด้วยตัวยา Vinorelbine tartrate ขนาด 20 และ 30 มิลลิกรัม/แคปซูล
ไวโนเรลบีนมีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
ยาไวโนเรลบีนมีขนาดการบริหารยา/ใช้ยา คือ
- ผู้ใหญ่: ก่อนการรักษามะเร็งด้วยยาไวโนเรลบีน ผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องรับการตรวจร่างกายเพื่อให้แพทย์ประเมินความเหมาะสม-ปลอดภัยว่า สมควรใช้ยาชนิดนี้รักษา ผู้ป่วยหรือไม่ การให้ยานี้กับผู้ป่วยต้องใช้พื้นที่ผิวของร่างกายของผู้ป่วยมาเป็นเกณฑ์ อ้างอิงเพื่อคำนวณขนาดยา ผู้ป่วยจะได้รับยาชนิดนี้สัปดาห์ละ 1 โดยแพทย์อาจใช้ยาเคมีบำบัดตัวอื่นร่วมด้วย เช่น Cisplatin ระยะเวลาของการให้ยานี้จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์เป็นสำคัญ ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างที่แพทย์จะนำมาพิจารณา อาทิอาการของโรคมะเร็ง ผลข้างเคียงจากการใช้ยานี้ ระดับเม็ดเลือดชนิดต่างๆในร่างกายต่ำเกินไปหรือไม่ ผู้ป่วยควรต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการใช้ยาแผนปัจจุบันหรือยาสมุนไพรใดๆที่นอกเหนือจากคำสั่งจ่ายยาของแพทย์ และมารับการรักษา และการตรวจร่างกายตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ
- เด็ก: ทางคลินิก ยังไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยและขนาดยานี้ในผู้ป่วยมะเร็งเด็ก
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาไวโนเรลบีน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาไวโนเรลบีนอาจ ส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆ ที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
ควรดูแลตนเองอย่างไรขณะได้รับยาไวโนเรลบีน?
ควรดูแลตนเองขณะได้รับยาไวโนเรลบีน ที่สำคัญ เช่น
- ดื่มน้ำวันละ 2–3 ลิตร หรือตามแพทย์แนะนำ
- ล้างมือบ่อยๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ
- อยู่ในที่ไม่มีผู้คนแออัดเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดโรคต่างๆ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บเป็นแผลเลือดออก เพราะเลือดจะออกง่ายและหยุดยาก
- เพื่อป้องกันเลือดออกบริเวณเหงือกและลดอาการปากเป็นแผลควรใช้แปรงสีฟันที่มีขนนิ่ม
- กรณีมีอาการ คลื่นไส้ ท้องผูก ให้รับประทานยาบรรเทาอาการที่สั่งจ่ายโดย แพทย์ผู้ที่ทำการรักษาเท่านั้น ห้ามไปซื้อหายาใดๆมารับประทานเอง
- ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นองค์ประกอบ
- ในสตรีต้องป้องกันการตั้งครรภ์ขณะได้รับยาชนิดนี้ โดยใช้การป้องกันทางกายภาพ เช่นถุงยาอนามัยชาย
- พักผ่อนอย่างพอเพียงและรับประทานอาหารตามที่ แพทย์/พยาบาล/เภสัชกรแนะนำ
หากลืมมารับการฉีดยาควรทำอย่างไร?
กรณีไม่สามารถมารับการฉีดยาไวโนเรลบีน ให้ผู้ป่วยรีบติดต่อ แพทย์/พยาบาล/บุคคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องที่ทำการดูแลรักษาผู้ป่วย เพื่อนัดหมายการฉีดยาครั้งใหม่โดยเร็ว
ไวโนเรลบีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาไวโนเรลบีนสามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกายดังนี้ เช่น
- ผลต่อระบบเลือด: เช่น มีภาวะเม็ดเลือดขาวชนิดแกรนูโลไซต์ต่ำ เกล็ดเลือดลดลง มีลิ่มเลือดเกิดขึ้นในหลอดเลือดดำ
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น คลื่นไส้ ท้องผูกหรือท้องเสีย อาเจียน
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น ประสาทส่วนปลายอักเสบ ปวดศีรษะ ความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน
- ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น หายใจไม่ออก/หายใจลำบาก ปอดบวมน้ำ หรือปอดบวม
- ผลต่อผิวหนัง: เช่น มีภาวะผมร่วง เกิดผื่นคัน มีอาการพุพองที่ผิวหนัง เกิดลมพิษ
- ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น แน่นหน้าอก มีภาวะหัวใจขาดเลือด หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูงหรือไม่ก็ต่ำ ใบหน้าแดง
- ผลต่อกล้ามเนื้อและกระดูก: เช่น ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกราม ปวดหลัง
- ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- ผลต่อตับ: เช่น เอนไซม์การทำงานของตับในเลือดสูงขึ้น ค่าบิลิรูบินในเลือดสูง
มีข้อควรระวังการใช้ไวโนเรลบีนอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาไวโนเรลบีน เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่มีประวัติแพ้ยานี้ หรือแพ้ส่วนประกอบของยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับ สตรีมีครรภ์ สตรีในภาวะให้นมบุตร
- เข้ารับการตรวจร่างกาย และการตรวจเลือด เช่น CBC ดูการทำงานของตับ ตามคำแนะนำของแพทย์
- กรณีปวดบริเวณผิวหนังที่ได้รับการฉีดยา แพทย์อาจแนะนำให้ใช้การประคบอุ่นบริเวณที่ปวดเพื่อบรรเทาอาการ
- มาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาตามแพทย์นัดหมายทุกครั้ง ไม่ควรหยุดการรักษาไปเฉยๆโดยมิได้ปรึกษาแพทย์
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาไวโนเรลบีนด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่องข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
อาการข้างเคียงลักษณะใดที่ต้องนำผู้ป่วยมาส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว?
กรณีพบอาการข้างเคียงดังต่อไปนี้หลังการใช้ยาไวโนเรลบีน ควรต้องรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลภายใน 24 ชั่วโมง เช่น
- ท้องเสียตั้งแต่ 4-6 ครั้งขึ้นไปภายใน 24 ชั่วโมง
- คลื่นไส้ทุกครั้งที่รับประทานอาหารและยาที่แพทย์สั่งจ่ายมาเพื่อบรรเทาอาการใช้ไม่ได้ผล
- อาเจียนวันละ 4–5 ครั้ง ภายใน 24 ชั่วโมง
- มีเลือดออกตามร่างกายโดยไม่รู้สาเหตุ
- อุจจาระมีสีคล้ำ/อุจจาระเป็นเลือด และ/หรือปัสสาวะมีเลือดปน/ปัสสาวะเป็นเลือด
- ท้องผูกอย่างรุนแรง
- มีแผลรุนแรงเกิดขึ้นในช่องปาก
ไวโนเรลบีนมีปฏิกิริยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาไวโนเรลบีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- ห้ามใช้ยาไวโนเรลบีนร่วมกับยาAdalimumab เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้อย่างรุนแรง
- ห้ามใช้ยาไวโนเรลบีนร่วมกับยาClozapine เพราะจะทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ รุนแรงและมีการติดเชื้อโรคชนิดต่างๆได้ง่ายมากตามมา
- ห้ามใช้ยาไวโนเรลบีนร่วมกับVitamin E ด้วยจะทำให้ประสิทธิภาพการรักษาของ ยาไวโนเรลบีนลดต่ำลง
- ห้ามใช้ยาไวโนเรลบีนร่วมกับวัคซีนป้องกันโรคชนิดต่างๆ เช่น วัคซีนโรคฝีดาษ วัคซีนหัดเยอรมัน วัคซีนโรคหัด ด้วยจะทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากวัคซีนที่ ได้รับเสียเอง ตลอดจนผลการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน/ภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของวัคซีนดังกล่าวไม่เกิดประสิทธิผล
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาไวโนเรลบีนร่วมกับยาบางกลุ่มที่จะทำให้ระดับยาไวโนเรลบีน ในเลือดสูงขึ้นจนก่อให้เกิดอาการข้างเคียงอย่างมากมายจากยาไวโนเรลบีนตามมา ตัวอย่างยาเหล่านั้น เช่นยา Nelfinavir, Erythromycin, Posaconazole และ Itraconazole
- ห้ามใช้ยาไวโนเรลบีนร่วมกับยาZidovudine ด้วยจะทำให้การทำงานของไขกระดูกผิดปกติและเกิดภาวะโลหิตจางตามมา
- ห้ามใช้ยาไวโนเรลบีนร่วมกับยาSimvastatin ด้วยอาจก่อความเสียหายต่อเส้นประสาทของร่างกาย นอกจากนี้ยังอาจทำให้ผู้ป่วยได้รับผลข้างเคียงจากยาทั้ง 2 ชนิดมากยิ่งขึ้น
ควรเก็บรักษาไวโนเรลบีนอย่างไร?
ควรเก็บรักษายาไวโนเรลบีน ดังนี้ เช่น
- เก็บยาฉีดและยารับประทานภายใต้อุณหภูมิ 2–8 องศาเซลเซียส(Celsius) ห้ามเก็บยาในช่องแข็งตู้เย็น
- เก็บยาทุกชนิดในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น
- ไม่เก็บยาฯในห้องน้ำหรือในรถยนต์ เก็บยาฯให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง และ
- ไม่เก็บยาที่เสื่อมสภาพหรือยาที่หมดอายุแล้ว
ไวโนเรลบีนมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาไวโนเรลบีน มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Navelbine (นาเวลบีน) | Pierre Fabre Medicament |
อนึ่ง ยาชื่อการค้าอื่นของยานี้ เช่น Relbovin, Neoben, Vinbine, Vinelbine, Vinorelmil, Cevin
บรรณานุกรม
- http://chemocare.com/chemotherapy/drug-info/Vinorelbine.aspx [2018,May19]
- https://www.fda.gov/ohrms/dockets/ac/04/briefing/4021B1_10_Vinorelbine%20label.pdf [2018,May19]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Vinorelbine [2018,May19]
- http://www.mims.com/thailand/drug/info/navelbine/?type=brief [2018,May19]
- https://www.drugs.com/sfx/vinorelbine-side-effects.html [2018,May19]
- https://www.drugs.com/drug-interactions/vinorelbine-index.html?filter=3&generic_only= [2018,May19]