ไรแมนตาดีน (Rimantadine)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ยาไรแมนตาดีน(Rimantadine) เป็นยาต้านไวรัสสำหรับไข้หวัดใหญ่กลุ่มสายพันธุ์-เอ/ชนิดA (Influenza A) เช่น H1N1 , H2N2, และ H3N2, สามารถใช้เป็นยารักษาหรือป้องกันก็ได้ โดยยาไรแมนตาดีน จะออกฤทธิ์ยับยั้งการจำลองสารพันธุกรรมของไวรัสไข้หวัดใหญ่ ส่งผลระงับการเพิ่มปริมาณไวรัสไข้หวัดใหญ่ในร่างกายมนุษย์ได้มากกว่า 50%

ด้วยยาไรแมนตาดีน สามารถดูดซึมได้ดีจากระบบทางเดินอาหารจึงถูกออกแบบเภสัชภัณฑ์เป็น ยาชนิดรับประทาน ตัวยานี้ในกระแสเลือดส่วนมากจะถูกทำลายที่ตับร่างกายต้องใช้เวลา 25–38 ชั่วโมง เพื่อกำจัดตัวยานี้ออกจากกระแสเลือด โดยปริมาณยานี้น้อยกว่า 25% จะถูกขับทิ้งไปกับปัสสาวะ

ยาไรแมนตาดีน อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ แพทย์จึงหลีกเลี่ยงการใช้ยาไรแมนตาดีนกับสตรีมีครรภ์ นอกจากนี้ ยาไรแมนตาดีนยังสามารถสร้างผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหาร และระบบประสาทส่วนกลาง จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ยาชนิดนี้ไม่เหมาะต่อผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น ลมชัก, โรคตับ ตลอดจนกระทั่งโรคไต

อนึ่ง:

  • ขณะที่ได้รับยาไรแมนตาดีน ห้ามใช้วัคซีนไข้หวัดใหญ่กับผู้ป่วย ด้วยตัวยานี้ส่งผลปิดกั้นการทำงานของวัคซีนฯนั่นเอง
  • เพื่อประสิทธิผลในการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ฯด้วยยาไรแมนตาดีน ผู้ป่วยจะต้องรับประทานยานี้ตรงตามคำสั่งแพทย์ การใช้ยานี้ต่อเนื่องตามที่แพทย์กำหนดจะทำให้อาการป่วยของผู้ป่วยดีขึ้นเป็นลำดับ รวมถึงจะได้ประสิทธิผลเต็มที่ในการรักษาต่อเมื่อรับประทานยานี้ภายใน 48 ชั่วโมงนับจากเริ่มมีอาการ

ทั้งนี้ ในต่างประเทศ เราจะพบเห็นการใช้ยาชนิดนี้ภายใต้ชื่อการค้าว่า Flumadine แต่ขณะเขียนบทความนี้ยังไม่พบเห็นการจัดจำหน่ายยานี้ในประเทศไทย

ไรแมนตาดีนมีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?

ไรแมนตาดีน

ยาไรแมนตาดีนมีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้:

  • ใช้ป้องกัน หรือ บำบัดรักษา การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์-เอ

ไรแมนตาดีนมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

ยาไรแมนตาดีน จะออกฤทธิ์ปิดกั้นวงจรการจำลองสารพันธุกรรมที่ยีน/จีน(Gene)เอ็ม2 (M2 Gene) ของไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์-เอ ส่งผลให้จำกัดการผลิตไวรัสไข้หวัดใหญ่ฯรุ่นใหม่ จึงส่งผลให้อาการป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ฯดีขึ้นเป็นลำดับ

ไรแมนตาดีนมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?

รูปแบบการจัดจำหน่ายของยาไรแมนตาดีน:

  • ยาเม็ดชนิดรับประทาน ที่ประกอบด้วยตัวยา Rimantadine ขนาด 100 มิลลิกรัม/เม็ด

ไรแมนตาดีนมีขนาดรับประทานอย่างไร?

ไรแมนตาดีนมีขนาดรับประทาน เช่น

ก. สำหรับรักษาการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ: เช่น

  • ผู้ใหญ่: รับประทานยาครั้งละ 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
  • ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป): รับประทานยาครั้งละ 100 มิลลิกรัม วันละ1ครั้ง
  • เด็ก: ยังไม่มีข้อมูลการใช้ยานี้ในกรณีนี้ในเด็กที่ชัดเจน การใช้ยานี้ในเด็กจึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา

อนึ่ง: ระยะเวลาการรับประทานยานี้ ให้เป็นไปตามคำสั่งแพทย์

ข.สำหรับป้องกันการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ: เช่น

  • ผู้ใหญ่: รับประทานยาครั้งละ 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
  • เด็กอายุ 1–9 ปี: รับประทานยา 5 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม วันละ1ครั้ง
  • เด็กอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปและมีน้ำหนักตัวน้อยกว่า 40 กิโลกรัม: รับประทานยา 5 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยแบ่งรับประทานเป็น 2 ครั้ง เช้า-เย็น
  • เด็กอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปและมีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 40 กิโลกรัมขึ้นไป: รับประทานยาครั้งละ 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น

อนึ่ง: ระยะเวลาการรับประทานยานี้ ให้เป็นไปตามคำสั่งแพทย์

*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?

เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาไรแมนตาดีน ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร เช่น

  • ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
  • มีโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคไต โรคตับ โรคลมชัก รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาไรแมนตาดีนอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
  • หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?

กรณีลืมรับประทานยาไรแมนตาดีน สามารถรับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ หากเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ห้ามเพิ่มขนาดรับประทานเป็น2เท่า ให้รับประทานยาที่ขนาดปกติเท่านั้น

ไรแมนตาดีนมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?

ยาไรแมนตาดีน สามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกาย เช่น

  • ผลต่อระบบทางเดินอาหาร:เช่น ปากคอแห้ง ท้องเสีย คลื่นไส้-อาเจียน ปวดท้อง เบื่ออาหาร ท้องอืด
  • ผลต่อระบบประสาท:เช่น ปวดหัว วิงเวียน นอนไม่หลับ
  • ผลต่อสภาพทางจิตใจ: เช่น อาจมี อาการกระสับกระส่าย ซึม
  • ผลต่อกล้ามเนื้อ:เช่น มีอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรง

*อนึ่ง: กรณีรับประทานยานี้เกินขนาด:

  • จะเกิดอาการ วิตกจริต ประสาทหลอน หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือถึงขั้นตายได้
  • การช่วยเหลือผู้ป่วย:
    • ทั่วไปแพทย์จะใช้ยา Physostigmine ขนาด 1–2 มิลลิกรัมกับผู้ใหญ่ และ 0.5 มิลลิกรัมกับเด็ก และ
    • หากจำเป็น แพทย์อาจต้องให้ยา Physostigmine ซ้ำโดยปริมาณยาที่ให้กับผู้ป่วยต้องไม่เกิน 2 มิลลิกรัม/ชั่วโมง

มีข้อควรระวังการใช้ไรแมนตาดีนอย่างไร?

มีข้อควรระวังการใช้ยาไรแมนตาดีน เช่น

  • ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
  • ห้ามใช้ยานี้กับ สตรีมีครรภ์ สตรีในภาวะให้นมบุตร
  • ห้ามปรับขนาดรับประทานยาด้วยตนเอง
  • ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วย โรคลมชัก โรคตับ โรคไต
  • หากพบอาการข้างเคียงที่รบกวนการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น คลื่นไส้-อาเจียน ท้องเสีย บ่อยครั้ง ให้หยุดใช้ยา แล้วรีบกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาล เพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้ยาของ แพทย์ เภสัชกร พยาบาล อย่างเคร่งครัด และควรมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามแพทย์นัดหมายทุกครั้ง
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาไรแมนตาดีนด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ

ไรแมนตาดีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?

ยาไรแมนตาดีนมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น

  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาไรแมนตาดีน ร่วมกับยา Bupropion , Ginkgo, และ Tramadol, ด้วยจะทำให้เสี่ยงกับการมีอาการชักตามมา
  • ห้ามใช้ยาไรแมนตาดีน ร่วมกับ ‘วัคซีน Influenza-virus vaccine H1N1 ชนิดมีชีวิต’ ด้วยจะทำให้การออกฤทธิ์ของวัคซีนฯเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านทานโรคด้อยประสิทธิภาพลง

ควรเก็บรักษาไรแมนตาดีนอย่างไร?

ควรเก็บรักษายาไรแมนตาดีน เช่น

  • สามารถเก็บยานี้ภายใต้อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส(Celsius)
  • ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น
  • เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น
  • ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
  • เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
  • ไม่เก็บยาที่หมดอายุ
  • ไม่ทิ้งยาลงในแม่น้ำคูคลองตามธรรมชาติ

ไรแมนตาดีนมีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?

ยาไรแมนตาดีน มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น

ชื่อการค้า บริษัทผู้ผลิต
Flumadine (ฟลูมาดีน) Forest Pharmaceuticals, Inc

บรรณานุกรม

  1. https://en.wikipedia.org/wiki/Rimantadine [2019,Dec28]
  2. https://www.drugs.com/mtm/flumadine.html [2019,Dec28]
  3. https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2010/019649s015lbl.pdf [2019,Dec28]
  4. https://www.mims.com/thailand/drug/info/rimantadine?mtype=generic [2019,Dec28]