โลวาสแตติน (Lovastatin)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 28 ธันวาคม 2562
- Tweet
- บทนำ
- ยาโลวาสแตตินมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
- ยาโลวาสแตตินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- ยาโลวาสแตตินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ยาโลวาสแตตินมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ยาโลวาสแตตินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้ยาโลวาสแตตินอย่างไร?
- ยาโลวาสแตตินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษายาโลวาสแตตินอย่างไร?
- ยาโลวาสแตตินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia)
- โรคหลอดเลือดแดงแข็ง โรคท่อเลือดแดงและหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis)
- โรคหัวใจ: โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary artery disease)
- โรคหัวใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด (Heart disease หรือ Cardiovascular disease)
- โรคอัมพาต โรคอัมพฤกษ์ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
- ยาลดไขมัน (Lipid-lowering drugs)
บทนำ
ยาโลวาสแตติน (Lovastatin) เป็นยาในกลุ่ม ยาสแตติน (Statin: กลุ่มยาลดไขมันในเลือดโดยออกฤทธิ์ ต้านการสร้างไขมันคอเลสเตอรอล) มักถูกใช้หลังจากผู้ป่วยใช้การควบคุมอาหารโดยเฉพาะพวก ไขมัน แป้ง น้ำตาล รวมถึงการออกกำลังกาย แล้วไม่สามารถลดไขมันในเลือดได้ จึงมีความจำ เป็นต้องใช้ยาเพื่อรักษา
ยาโลวาสแตติน ใช้ลดคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด อีกทั้งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจอีกด้วย เราสามารถได้รับโลวาสแตตินจากแหล่งอาหารตามธรรมชาติโดยการบริโภค เช่น เห็ดนางรมหรือเห็ดนางฟ้า (Oyster mushroom) และข้าวยีสต์แดง (Red yeast rice) ที่ทางวงการเภสัชกรรมนำมาพัฒนาเป็นยาเพื่อรักษาโรคไขมันในหลอดเลือดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513)
สำหรับประเทศไทย ยาโลวาสแตตินยังไม่ได้บรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งจากการ ศึกษาการกระจายตัวของยาโลวาสแตตินเมื่อเข้าสู่ร่างกายพบว่า ตัวยาจะจับโปรตีนในกระแสเลือดมากกว่า 95% จากนั้นจะถูกส่งไปเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีที่ตับ ร่างกายต้องใช้เวลาประ มาณ 2 - 4 ชั่วโมงในการกำจัดยาออกจากร่างกายโดยผ่านไปกับอุจจาระเป็นส่วนใหญ่ และส่วนน้อยผ่านไปทางปัสสาวะ
ยาโลวาสแตติน จัดอยู่ในหมวดยาอันตราย การใช้ยานี้ได้อย่างปลอดภัยและเหมาะสมต้องขึ้นอยู่กับคำสั่งของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น
ยาโลวาสแตตินมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
ยาโลวาสแตตินมีสรรพคุณ /ข้อบ่งใช้ เช่น
- ใช้ลดไขมันคอเลสเตอรอลในเลือด
- ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันที่มีสาเหตุจากไขมันในเลือดสูง
ยาโลวาสแตตินมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาโลวาสแตตินมีกลไกการออกฤทธิ์ โดยตัวยาจะไปรบกวนกระบวนการทำงานของเอน ไซม์ HMG-CoA reductase (เอนไซม์ช่วยการสร้างไขมันคอเลสเตอรอล) และก่อให้เกิดผลในการชะลอการสังเคราะห์ไขมันกลุ่มคอเลสเตอรอล ทำให้เกิดฤทธิ์ตามสรรพคุณ
ยาโลวาสแตตินมีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาโลวาสแตตินมีรูปแบบการจัดจำหน่าย:
- ยาเม็ด ขนาด 20 และ 40 มิลลิกรัม/เม็ด
ยาโลวาสแตตินมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาโลวาสแตตินมีขนาดรับประทานดังนี้ เช่น
ก. ผู้ใหญ่: ขนาดรับประทาน เริ่มต้นที่ 20 มิลลิกรัม หลังอาหารเย็น หรืออาจใช้ขนาดรับประทาน 10 - 80 มิลลิกรัม/วัน โดยรับประทานเพียงครั้งเดียวหรือแบ่งรับประทาน วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้า - เย็น
- ขนาดรับประทานสูงสุดไม่เกิน 80 มิลลิกรัม/วัน
- ควรรับประทานยาโลวาสแตตินพร้อมอาหาร
- การปรับเปลี่ยนขนาดการรับประทานขึ้นอยู่กับระดับคลอเลสเตอรอลในกระแสเลือด ซึ่งแพทย์เท่านั้นที่สามารถพิจารณาขนาดรับประทานได้อย่างปลอดภัยและเหมาะสม
ข. เด็ก: มักไม่มีการใช้ยานี้ในเด็กเล็ก แต่ในเด็กโต ข้อบ่งชี้การใช้ยาและขนาดรับประ ทานอยู่ดุลพินิจของแพทย์เท่านั้น
*****หมายเหตุ: ขนาดยา และระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ผู้รักษาได้ การใช้ยาที่เหมาะสม ควรต้องปรึกษา แพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาโลวาสแตติน ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยา หรืออาหารเสริมอะไรอยู่ เพราะยาโลวาสแตติน อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆ และ/หรืออาหารเสริมที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาโลวาสแตตินสามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
ยาโลวาสแตตินมีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาโลวาสแตติน สามารถก่อให้เกิดผล/ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง /อาการข้างเคียง) เช่น
- สามารถเพิ่มเอนไซม์ Creatine phosphokinase (เอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ และ/หรือโรคกล้ามเนื้อ)โดยที่ไม่ได้มีการเกิดโรคนั้นๆขึ้นในร่างกาย
- อาจทำให้ ท้องอืด
- คลื่นไส้
- อาหารไม่ย่อย
- ท้องผูก หรือท้องเสีย
- ปวดท้อง
- กล้ามเนื้อเป็นตะคริว
- ปวดเกร็งกล้ามเนื้อ
- ตาพร่า
- ปวดศีรษะ
- วิงเวียน
- มีผื่นคัน
อนึ่ง ผลข้างเคียง (อาการข้างเคียง) ที่พบได้น้อยแต่มีอันตรายสูงจากยานี้ เช่น
- อาจการเกิดภาวะบาดเจ็บรุนแรงต่อกล้ามเนื้อลายที่เรียกว่า กล้ามเนื้อลายสลาย (Rhabdomyolysis: ปวด เจ็บกล้ามเนื้อมาก กล้ามเนื้อแข็ง อ่อนเพลีย อุจจาระสีเหมือนน้ำปลาจากสาร Myoglobin ที่สลายจากกล้ามเนื้อเข้าสู่กระแสเลือด และร่างกายกำจัดออกทางไต)
- และอาจเกิดไตวายเฉียบพลัน ตายได้
มีข้อควรระวังการใช้ยาโลวาสแตตินอย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาโลวาสแตติน เช่น
- ห้ามใช้กับผู้แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคตับ หรือผู้ที่มีภาวะตับทำงานผิดปกติ
- ห้ามใช้ยานี้กับหญิงตั้งครรภ์ และหญิงที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตผิดปกติ รวมถึงผู้ป่วยที่มีประวัตเคยเป็นโรคตับ ผู้ที่ป่วยด้วยพิษสุราเรื้อรัง
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยด้วยโรคไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ (ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน) ที่การ รักษาควบคุมโรคยังไม่ดีพอ
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะกล้ามเนื้อลายบาดเจ็บรุนแรง/ กล้ามเนื้อลายสลาย (Rhabdomyosis) เช่น ใน ผู้สูงอายุ เป็นต้น
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมยาโลวาสแตตินด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้งควรต้องปฏิบัติตาม ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ยาโลวาสแตตินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาโลวาสแตตินมีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
ก. การใช้ยาโลวาสแตตินร่วมกับยาบางกลุ่ม สามารถทำให้ระดับของโลวาสแตตินในกระแสเลือดสูงขึ้น ทำให้ร่างกายได้รับผลข้างเคียงตามมา เช่น ตับทำงานหนัก หรือปวดกล้ามเนื้อจนไปถึงขั้นกล้ามเนื้อลายบาดเจ็บรุนแรง/กล้ามเนื้อลายสลาย จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน หรือขอความคิดเห็นจากแพทย์ก่อนการใช้ร่วมกัน
- ยากลุ่มดังกล่าว เช่น
- ยาปฏิชีวนะ เช่นยา Clarithromycin
- ยากดภูมิคุ้มกันต้านทานโรค เช่นยา Cyclosporin
- ยาลดความดัน ยาลดความดันเลือดสูง เช่นยา Verapamil
- ยาต้านเอชไอวี เช่นยา Nelfinavir, Ritonavir
- และ/หรือ เครื่องดื่มกลุ่มน้ำผลไม้ (เช่น Grapefuit juice)
ข. การใช้ยาโลวาสแตตินร่วมกับยาต้านเชื้อรา เช่นยา Itraconazole อาจพบอาการปวดตึงกล้ามเนื้อ, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, มีไข้คล้ายเป็นโรคหวัด, หรือพบว่าปัสสาวะมีสีเข้มผิดปกติ, ทั้งนี้ ควรต้องรีบปรึกษาแพทย์/ไปโรงพยาบาลหากพบอาการดังกล่าว
ควรเก็บรักษายาโลวาสแตตินอย่างไร?
ควรเก็บรักษายาโลวาสแตติน เช่น
- เก็บยาที่อุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส (Celsius)
- เก็บยาให้พ้นแสง/แสงแดด และความชื้น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- และไม่ควรเก็บยาในห้องน้ำ
ยาโลวาสแตตินมีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาโลวาสแตติน มียาชื่อการค้าอื่น และบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Apo-Lovastatin (อะโพ-โลวาสแตติน) | Apotex |
Ellanco (เอลแลนโค) | CCM Duopharma Bio Tech |
Lestric (เลสทริค) | Ranbaxy |
Lovarem (โลวาเรม) | Remedica |
Lovastin (โลวาสติน) | YSP Industries |