โรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูง (Hypertensive encephalopathy)
- โดย ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า
- 10 มกราคม 2557
- Tweet
- บทนำ
- ความดันโลหิตสูงมีกี่ระดับ?
- ภาวะความดันโลหิตสูงฉุกเฉินที่ก่อโรคสมองเรียกว่าอะไร?
- ใครมีโอกาส/ปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูง?
- กลุ่มโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูงมีอาการอย่างไร?
- เมื่อใดควรพบแพทย์?
- แพทย์วินิจฉัยกลุ่มโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูงได้อย่างไร?
- รักษาโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูงอย่างไร?
- กลุ่มโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูงมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
- กลุ่มโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูงก่อผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
- เมื่อเกิดโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูง ควรดูแลตนเองอย่างไร? ควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อ ไร?
- ป้องกันกลุ่มโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูงได้อย่างไร?
บทนำ
ความดันโลหิตสูง เป็นภัยเงียบของมนุษย์เรา เป็นโรคที่พบบ่อยมาก และเป็นต้นเหตุก่อ ให้เกิดโรคต่างๆมากมาย เช่น โรคหัวใจขาดเลือด (โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย) หัวใจวาย โรคไตวาย และโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดอาการผิดปกติทางสมอง เช่น สับสน ชัก ซึม ได้ กลุ่มอาการผิดปกติต่างๆทางสมองที่เกิดขึ้น ที่มีสาเหตุจากความดันโลหิตสูง (โรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูง/Hypertensive encephalopathy) มีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน รักษาและป้องกันอย่างไร ควรมีความรู้เบื้องต้นเรื่องนี้ครับ
ความดันโลหิตสูงมีกี่ระดับ?
ความดันโลหิตสูง คือ ความดันโลหิตที่สูงตั้งแต่ 140/90 มม.ปรอท (มิลลิเมตรปรอท) โดยแบ่งความรุนแรงง่ายๆเป็น 3 ระยะ/ระดับจากความรุนแรงน้อยไปหามาก คือ
- ระยะที่ 1 ค่าความดันโลหิตสูงตั้งแต่ 140/90 ถึง 159/99 มม.ปรอท
- ระยะที่ 2 ค่าความดันโลหิตสูงตั้งแต่ 160/100 ถึง 179/119 มม.ปรอท และ
- ระยะที่ 3 หรือ ความดันโลหิตสูงวิกฤติ (Hypertensive crisis) ค่าความดันโลหิตสูงตั้ง แต่ 180/120 มม.ปรอท ขึ้นไป
ทั้งนี้ ภาวะความดันโลหิตสูงวิกฤติประกอบด้วย 2 ภาวะ คือ
- ภาวะความดันโลหิตสูงฉุกเฉิน (Emergency) คือ ภาวะที่ตรวจพบว่า มีอวัยวะที่เกี่ยว ข้องได้ถูกทำลาย เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว เลือดออกในจอตา ไตวาย และมีกลุ่มอาการทางสมอง เช่น ชัก สับสน
- ภาวะความดันโลหิตสูงเร่งด่วน (Urgency) คือ ภาวะที่ตรวจไม่พบว่ามีอวัยวะที่เกี่ยว ข้องถูกทำลาย
ภาวะความดันโลหิตสูงฉุกเฉินที่ก่อโรคสมองเรียกว่าอะไร?
ภาวะความดันโลหิตสูงฉุกเฉินร่วมกับมีโรค/กลุ่มอาการทางสมอง เรียกว่า “โรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูง (Hypertensive encephalopathy)” โดยเป็นโรค/ภาวะ/ กลุ่มอาการ ที่เกิดจากมีการสูงขึ้นของความดันโลหิต ตั้งแต่180/120 มม.ปรอทขึ้นไป อย่างรวด เร็ว ส่งผลให้มีความผิดปกติทางสมองเกิดขึ้น
ใครมีโอกาส/ปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูง?
ผู้มีโอกาส/ปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูง ได้แก่
- ผู้ป่วยมีความดันโลหิตสูงและรักษาไม่ดี ขาดยา และ/หรือมีภาวะไตวายร่วมด้วย
- ผู้ที่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ
- ทานยากดภูมิคุ้มกันต้านทานโรค
- หญิงตั้งครรภ์
กลุ่มโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูงมีอาการอย่างไร?
โรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูงนี้ จะมีความดันที่สูง ตั้งแต่ 180/120 มม.ปรอทขึ้นไป ร่วมกับมีอาการทางสมองที่เกิดจากสมองบวม ได้แก่
- ปวดศีรษะรุนแรงและอาเจียน
- กระสับกระส่าย สับสน
- ชัก และ
- หมดสติ โคม่า
- ผู้ป่วยบางรายอาจพบอาการตาบอดได้
อนึ่ง โรคนี้ จะไม่พบอาการแขนขาอ่อนแรง และอาการผิดปกติทั้งหมด รวมทั้งอาการตาบอด จะกลับเป็นปกติ หลังการรักษาได้ผล คือ ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้
เมื่อใดควรพบแพทย์?
ผู้ป่วยควรต้องรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลเสมอ เมื่อมีอาการปวดศีรษะรุนแรง เริ่มกระ สับกระส่าย ไม่ควรรอจนตามัว หรือ ซึม ชัก ควรรีบไปพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลก่อนเกิดปัญหาที่รุนแรงเหล่านี้เสมอ
แพทย์วินิจฉัยกลุ่มโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูงได้อย่างไร?
แพทย์วินิจฉัยโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูงได้จาก อาการผิดปกติดังได้กล่าวแล้วในหัวข้อ อาการ ร่วมกับการตรวจวัดความดันโลหิตที่สูงตั้งแต่ 180/120 มม.ปรอทขึ้นไป และการตรวจร่างกาย ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่มีอาการทางสมองจะต้องไม่มีแขนขาอ่อนแรง เพราะถ้ามีแขนขาอ่อนแรง น่าจะเป็นจากโรคหลอดเลือดสมองมากกว่า
อนึ่ง ถ้าผู้ป่วยมีเพียงภาวะ/อาการสับสน ปวดศีรษะไม่รุนแรง และแพทย์ตรวจไม่พบความผิดปกติอื่น แพทย์อาจไม่ส่งตรวจภาพสมองด้วยเอกซเรย์ คอมพิวเตอร์ หรือเอมอาร์ไอ แต่ถ้ามีตาบอด ชัก ซึมมาก โคม่า แพทย์มักส่งตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือเอมอาร์ไอสมอง เพื่อแยกว่ามีรอยโรคในสมองหรือไม่ ซึ่งผลการตรวจที่จะช่วยวินิจฉัยกลุ่มอาการนี้ คือ อาจพบ ว่ามีสมองบวมทั่วๆไป หรือ พบว่าสมองใหญ่กลีบท้ายทอย (Occipital lobe) มีอาการบวม หรืออาจพบสมองส่วนอื่นๆบวมด้วยก็ได้ แต่อาการบวมจะเป็นเฉพาะสมองเนื้อสีขาว (White matter ) ซึ่งเมื่อควบคุมความดันโลหิตได้ดี แก้ไขสาเหตุที่ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้ ความผิดปกติเหล่านี้ มักกลับเป็นปกติในระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์
รักษาโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูงอย่างไร?
การรักษาโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูงที่สำคัญ คือ ต้องรีบควบคุมความดันโลหิต โดยการให้ยาลดความดันโลหิตชนิดฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ เพื่อลดความดันลงมาให้ปกติภายใน 2-4 ชั่วโมง โดยลดลงครั้งละประมาณ 15-20% และถ้ามีอาการชักรุนแรง ก็อาจให้ยากันชักระยะเวลาสั้นๆร่วมด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการ/ภาวะชักต่อเนื่อง
กลุ่มโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูงมีการพยากรณ์โรคอย่างไร?
การพยากรณ์โรคของโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูง ส่วนใหญ่ผลการรักษาดีมาก ผู้ ป่วยหายเป็นปกติรวมทั้งอาการตาบอดด้วย
อย่างไรก็ตาม มีโอกาสเกิดกลุ่มอาการเหล่านี้ซ้ำ เมื่อควบคุมความดันโลหิตได้ไม่ดี หรือเมื่อเคยมีอาการชัก
กลุ่มโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูงก่อผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
กรณีให้การรักษาไม่ทันผู้ป่วยโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูง อาจมีผลข้างเคียง/โอ กาสเกิดภาวะชักต่อเนื่อง (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ภาวะชักต่อเนื่อง), ไตวาย, หัวใจวาย, และ/หรือ หลอดเลือดสมองแตก (อ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บท ความเรื่อง โรคหลอดเลือดสมองชนิดขาดเลือดและชนิดเลือดออก) ที่ส่งผลให้เกิดอัมพาต ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้ ส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้
เมื่อเกิดโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูง ควรดูแลตนเองอย่างไร? ควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไร?
ผู้ป่วยโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูง หลังจากออกจากโรงพยาบาลมาพักรักษาต่อที่บ้าน ควรต้อง
- ทานยาให้สม่ำเสมอ ห้ามขาดยา
- ต้องติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง
- ไม่ทานอาหารเค็ม (เกลือแกง เกลือโซเดียม)
- ปฏิบัติตัวตามที่แพทย์ พยาบาล แนะนำอย่างดี และ
- ควรรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลก่อนนัด เมื่อ
- มีอาการบวมตามส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ที่เท้า ที่รอบดวงตา
- ปวดศีรษะรุนแรง
- ตามัว
- สับสน
- ซึม
- ชัก
- และ/หรือมีอาการผิดปกติที่ไม่เคยมีมาก่อน
ป้องกันโรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูงได้อย่างไร?
โรคสมองเหตุจากความดันโลหิตสูง ป้องกันได้โดย ผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูง ต้องควบ คุมความดันโลหิตให้ดีตลอดเวลา ไม่ควรขาดยาทันที และกรณีผู้ป่วยเป็นหญิงตั้งครรภ์ ต้องหมั่นตรวจวัดความดันโลหิตตามแพทย์แนะนำ และพบแพทย์ตรงตามนัดสม่ำเสมอ